เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา ขนศิลปินดังทั้งไทยและต่างประเทศ รณรงค์ให้เด็กๆ สวมหมวกกันน็อคทุกครั้งที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์

Crayon Pop

มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย Asia Injury Prevention (AIP) Foundation และองค์การช่วยเหลือเด็ก Save the Children ร่วมกันเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก” เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญของการสวมหมวกน็อคให้กับเด็กๆ พร้อมทั้งเชิญชวน ประชาชนทั่วไปร่วมกันลงชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการผ่านเว็บ www.7-percent.org ปัจจุบันมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 8,000 คน โดยจะมีการนำรายชื่อไปมอบให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต้นปี 58

สององค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางถนนและสวัสดิภาพของเด็ก เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “เด็กไทยซ้อนท้ายใส่หมวก” ความยาว 1 นาที http://bit.ly/helmetpsa โดยมีศิลปินนักร้อง นักแสดง ดีเจ และพิธีกร ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น จอห์น วิญญู และพ่อหมอ เจาะข่าวตื้น ศิลปินคู่หูวง Scrubb (สครับบ) บอล-ต่อพงษ์ และ เมื่อย-ธวัชพนธ์ นักแสดงรุ่นใหญ่ ดอม เหตระกูล น้องเกล โสพิชา ดีเจเปิ้ลหน่อย จาก แคท เรดิโอ ครูนกเล็ก จีรภัทร์ สุกางโฮง ฉายา “ครูพันธุ์ใหม่ หัวใจโซเชียล” และที่ขาดไม่ได้คือ 5 สาวเกิร์ลกรุ๊ปจากแดนกิมจิ อย่าง Crayon Pop ที่เคยมาร่วมงานเปิดตัวโครงการเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

น้องเกล2โดยภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจถึงสถานการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นบนท้องถนนของประเทศไทยในแต่ละวัน โดยทั้งหมดสามารถป้องกันได้ด้วยการสวมหมวกนิรภัย พร้อมทั้งเชิญชวนให้ทุกคนร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยการร่วมลงชื่อสนับสนุนได้ที่ www.7-percent.org

ปัจจุบันมีผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนการรณรงค์แล้วกว่า 8,000 คน โดยเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 20,000 ชื่อ และเมื่อได้ครบตามกำหนดแล้วจะนำรายชื่อทั้งหมดไปยื่นให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มจาก กรุงเทพมหานคร และ กระทรวงศึกษาธิการซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญที่สามารถปลูกฝังเรื่องความปลอดภัยทางถนนผ่านหลักสูตรการเรียนการสอนในโรงเรียนที่หน่วยงานทั้งสองเป็นผู้รับผิดชอบ

ด้านนางรัตนวดี เหมนิธิ วินเธอร์ ผู้อำนวยการประเทศไทย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย กล่าวว่า “โครงการของเราเน้นที่การทำงานกับครอบครัว และชุมชน โดยมีโรงเรียนเป็นจุดศูนย์กลาง เราต้องการปลูกฝังเรื่องความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะการสวมหมวกกันน็อค ให้กลายเป็นธรรมชาติที่เด็กๆ จะสวมใส่ทุกวันแบบไม่เคอะเขิน”

จอห์น_พ่อหมอ1นางรัตนวดีกล่าวเพิ่มเติมว่า จากประสบการณ์ทำงานกว่า 15 ปีของทางมูลนิธิฯ เมื่อโรงเรียนเอาจริงเอาจังและชุมชนร่วมด้วยช่วยกัน ความสำเร็จจะเกิดขึ้น เราจึงอยากจะร่วมมือกับหน่วยงานอย่าง กทม. และกระทรวงศึกษาธิการอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อที่จะสามารถช่วยกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยแบบก้าวกระโดดในชุมชนต่างๆทั่วกรุงเทพ และในที่สุดทั่วประเทศไทย

อลิสัน เซลโควิทซ์ ผู้อำนวยการองค์การช่วยเหลือเด็กประจำประเทศไทยกล่าวว่า นอกจากการมีผู้ร่วมลงชื่อเป็นจำนวนมากในระยะเวลาเพียงสั้นๆแล้ว ยังมีข้อความสนับสนุนให้กำลังใจ ร่วมทั้งบอกเล่าประสบการณ์ส่วนตัวอีกนับพัน แสดงให้เห็นว่าเรื่องของความปลอดภัยทางถนน โดยเฉพาะความปลอดภัยของเด็กๆ เป็นสิ่งที่ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบ รวมทั้งพวกเราเองทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไข
นางอลิสันยังกล่าวขอบคุณศิลปินทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนโครงการและเสียสละเวลาส่วนตัวมาถ่ายทำภาพยนตร์ชุดนี้ โดยในต้นปีหน้า จะมีภาพยนตร์โฆษณาสัมภาษณ์ประสบการณ์หมวกกันน็อคของทั้งศิลปิน รวมทั้งประชาชนทั่วไป ตามมาให้ชมเพื่อร่วมกันทำความเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ครูนกเล็ก2
รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ

ทุกๆ วันมีน้องๆ วัยเรียนราว 1.3 ล้านคนเดินทางโดยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ แต่มีเพียง 7% เท่านั้นที่สวมหมวกกันน็อค แม้ว่าจะมีกฎหมายบังคับใช้ก็ตาม

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ประเทศไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยในแต่ละปี มีเด็กกว่า 2,600 คนเสียชีวิต หรือมากกว่า 7 คนต่อวัน และอีกเกือบ 200 คนต่อวันได้รับบาดเจ็บหรือพิการ หรือกว่า 72,000 คนต่อปี

ความสูญเสียเหล่านี้สามารถป้องกันได้ ด้วยการให้เด็กๆที่เดินทางด้วยการซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์สวมหมวกกันน็อคทุกครั้ง

เครือข่ายองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านคุ้มครองเด็กและป้องกันอุบัติภัยบนท้องถนน นำโดย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย Asia Injury Prevention (AIP) Foundation และ องค์การช่วยเหลือเด็ก Save the Children in Thailand จึงได้ร่วมมือกันริเริ่มโครงการ The 7% Project โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มอัตราการสวมหมวกนิรภัยของเด็กจาก 7% ให้เป็น 60% ทั่วประเทศภายในปี 2560

เนื่องจากการเดินทางจากบ้านไปกลับโรงเรียนคือเส้นทางหลักสำหรับครอบครัว และจักรยานยนต์คือยานพาหนะหลักที่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ใช้ในการรับ-ส่งบุตรหลานในแต่ละวัน ในปีแรก จึงเริ่มต้นการทำงานร่วมกับโรงเรียนประถมศึกษา เพื่อรณรงค์ให้หมวกกันน็อคเป็นส่วนหนึ่งของชุดนักเรียน โดยจะทำงานร่วมกับชุมชน เด็กๆ ผู้ปกครอง ครู และประชาชนทั่วไปที่สนใจ เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์วัฒนธรรมความปลอดภัย

ในปีต่อๆ ไป โครงการนี้จะขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ พร้อมกับขยายขอบข่ายการร่วมงานกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อเพิ่มการรณรงค์ให้ครอบคลุมทุกเส้นทางการเดินทางของเด็กๆ

รูปแบบโครงการ

เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง The 7% Project จะมุ่งเน้นการปรับทัศนคติและพฤติกรรมของเด็กรุ่นใหม่ เกี่ยวกับการใช้หมวกกันน็อค พร้อมกับสนับสนุนให้ครูและผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับโครงการอย่างเต็มที่ โดยจะดำเนินงานควบคู่กันใน 4 ด้าน ได้แก่

การศึกษา – เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้และประโยชน์ของหมวกกันน็อค ทั้งในวิชาพื้นฐานและกิจกรรมนอกหลักสูตร จัดอบรมสำหรับคุณครูและผู้ปกครอง เพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงผลกระทบของอุบัติเหตุ

การสื่อสารกับมวลชน – จุดประกายความคิด จัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ และรายงานทุกความเคลื่อนไหวของโครงการ ตลอดจนเปิดให้ทุกฝ่ายร่วมกันผลักดันการรณรงค์ให้ไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ยั่งยืน

การบังคับใช้ – ร่วมมือกับโรงเรียนในการออกกฎให้เด็กที่เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ต้องสวมหมวกกันน็อค โดยมีคุณครูประจำชั้นคอยดูแลและแนะนำอย่างใกล้ชิด  และขอการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการผลักดันกฎหมายหมวกกันน็อค ให้มีผลบังคับใช้ครอบคลุมทุกเส้นทาง

การสร้างนวัตกรรม – จัดหาหมวกกันน็อคที่มีดีไซน์โดนใจเด็กและวัยรุ่น มีขนาดที่พอดีกับศีรษะ และราคาไม่แพง รวมทั้งเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้แสดงตัวตนของพวกเขาผ่านหมวกกันน็อค 

Asia Injury Prevention (AIP) Foundation

กว่า 15 ปีที่มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย ปฏิบัติภารกิจเพื่อลดอัตราการบาดเจ็บและเสียชีวิตบนท้องถนน ทั้งในทวีปเอเชียและแอฟริกา โดยมูลนิธิได้บุกเบิกการรณรงค์หมวกกันน็อคเด็กในหลายประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งร่วมกับ FIA Foundation และ Centers for Disease Control and Prevention ในการริเริ่มโครงการวัคซีนหมวกนิรภัยสากล รวมทั้งก่อตั้งโรงงานหมวกกันน็อค ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เพื่อผลิตหมวกนิรภัยสำหรับใช้ในประเทศเขตร้อนโดยไม่แสวงผลกำไรอีกด้วย 

Save the Children

องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) เป็นองค์การระหว่างประเทศที่ไม่แสวงผลกำไร มีบทบาทด้านการคุ้มครองเด็กและเยาวชนทั่วโลกมายาวนานเกือบหนึ่งศตวรรษ โดยมุ่งเน้นการทำงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กในกว่า 120 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ตั้งแต่การคุ้มครองสิทธิเด็ก สุขภาพ การศึกษา ภัยพิบัติ ไปจนถึงปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้งในสังคม​ทั้งนี้ Save the Children มีพันธกิจในการสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเด็กๆ อย่างยั่งยืน


ช่องทางติดตามโครงการ

Website : www.7-percent.org
Facebook : https://www.facebook.com/7percent.org
Twitter : https://twitter.com/7percentorg
Instragram : http://instagram.com/7percentorg
YouTube : http://youtu.be/QerMcbuvhIo


ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

พิมพร ปิ่นแก้ว (พิม)  / โทร : 084 467 2727  / E-mail : pym@sidekick.asia