เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2558 ณัฎฐ์ เดชะปัญญา อดีตนักร้องค่าย RS อาจารย์ประจำสาขาวิชาการโฆษณาและธุรกิจบันเทิง คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประธานบริหาร บ้านสมเด็จฯ เอนเตอร์เทนเมนท์ / บ้านสมเด็จเรคคอร์ด (ค่ายเพลงแห่งแรกในสถาบันการศึกษา) / บ้านสมเด็จฟิล์ม (ค่ายภาพยนตร์แห่งแรกในสถาบันการศึกษา) /บ้านการละคร / บ้านโมเดลลิ่ง ลูกชายดารารุ่นใหญ่ พล.ท.อนุสรณ์ เดชะปัญญา ได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณรที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา และอุปสมบทเป็นพระภิกษุในอุโบสถ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย หลังจากบวชเป็นพระภิกษุแล้วได้รับฉายาว่า “อตถเตชะโพธิ” แปลว่า “นักปราชญ์ผู้มีเดชอย่างมีเหตุผล”
โดยการบวชครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว เพื่อเป็นการทดแทนพระคุณบุพการี และได้ต่ออายุพระพุทธศาสนา แม้ช่วงเวลาสั้นๆ สำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับอาตมาแล้วถือเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเพราะจะอยู่ในความทรงจำของอาตมาตลอดไป อาจมีคำถามเรื่องการบวชครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 บ้างอาจจะเรียกว่าชายสามโบสถ์ แต่จริงแล้วสำหรับอาตมาและครอบครัวมิได้มีความคิดเช่นนั้น เรามีความคิดว่า คำว่าชายสามโบสถ์ คือคนที่เปลี่ยนศาสนาถึง 3 ศาสนาแล้วไม่สามารถที่จะมั่นคงศรัทธาอันหยั่งลงมั่นในศาสนาใดๆ แต่สำหรับอาตมาและครอบครัวเราต่างมีความศรัทธาอันหยั่งลงมั่นไม่หวั่นไหวในคุณพระรัตนตรัย
…….เป็นความโชคดี ซึ่งโอกาสบรรพชาอุปสมบทเป็นภิกษุในพระธรรมวินัยนี้อันมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระศาสดา ซึ่งเป็นการสร้างเหตุปัจจัย ที่หาโอกาสได้ยากด้วยช่วงเวลาภาระหน้าที่ทางสังคมและอาชีพอีกทั้งหลายๆปัจจัย แต่ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดียิ่งเพราะหาได้ยากที่จะมีโอกาสเช่นนี้อาตมาจึงถือว่าชีวิตนี้เมื่อมีโอกาสก็มิควรปล่อยโอกาสนี้ไป ในครั้งก่อนอาตมามาจาริกแสวงบุญในเพศฆาราวาสก็เกิดความปิติยิ่งทุกครั้งที่ได้เห็นภิกษุจากทั่วโลกผู้เป็นพุทธสาวก เดินทางสักการะนอบน้อมต่อคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม และพระอริยสงฆ์
………จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจครั้งยิ่งใหญ่แก่อาตมา ทำให้วันนี้อาตมาเองได้เป็นพุทธสาวกคือพระภิกษุโดยสมบูรณ์ด้วยพระธรรมและวินัยความรู้สึกนี้อาจจะกล่าวได้ยากเพราะทุกลมหายใจของอาตมา ณ ขณะนี้ ผู้ที่จะเข้าใจได้ดีคือผู้ที่จะสัมผัสความรู้สึกนี้เช่นเดียวกับอาตมา ณ โอกาสนี้อาตมาจึงขออนุโมทนาเชิญชวนกุลบุตรที่มีโอกาสหรือต้องการโอกาสที่จะสัมผัสความรู้สึกนี้ได้เดินทางมาประเทศอินเดียและได้รับโอกาสบรรพชาอุปสมบทมาเป็นพุทธสาวกเช่นเดียวกับอาตมาและพระอริสงฆ์ที่เคยมีมาแต่อดีตด้วยระยะเวลา2,600 กว่าปี ที่รักษาพระธรรมวินัยนี้มิได้เป็นบุรุษคนสุดท้ายดังที่พระศาสดาตรัสไว้กับพระอายนท์ว่า เธอทั้งหลายอย่าเป็นบุรุษคนสุดท้ายในธรรมวินัยนี้เลย พระณัฏฐ์ กล่าว
โดยจะจาริกเดินทางเพื่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ไปถวายความเคารพต่อพุทธสถานบริเวณโดยรอบ ทั้ง 4 สังเวชนียสถานและจำวัดไปในที่ต่างๆแต่ละสังเว จนถึงวันที่ 25 ม.ค. 2558 นี้ ก่อนที่จะลาสิกขากลับประเทศไทย