ปิดฉากไปอย่างสวยงามกับคอนเสิร์ตนักแต่งเพลงแห่งปี “The Masterpiece 30ปี นิติพงษ์ ห่อนาค” ที่ทาง เอ-ไทม์ โชว์บิส แจกความสุขให้แบบแน่นฮอลล์ตั้งแต่ต้นปี เรียกว่าทุกบทเพลงจากปลายปากกาของผู้ชายที่ชื่อ “นิติพงษ์ ห่อนาค” ที่หยิบเอามาร้องบนเวทีนี้ เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแบบปฏิเสธไม่ได้ ด้วยการสำนวนภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังสื่อสารกับคนฟังได้อย่างง่ายดาย จนเพลงติดหูและติดใจใครหลายๆคนจนถึงทุกวันนี้ …จึงไม่แปลกที่คอนเสิร์ตครั้งนี้จะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงพี่ดี้ รวมถึงศิลปินเก๋าเกมส์ทั้ง 7 คน อาทิ เจ-เจตริน วรรธนะสิน / แอม-เสาวลักษณ์ ลีละบุตร / ใหม่ เจริญปุระ / คริสติน่า อากีล่าร์ / บิลลี่ โอแกน / มาช่า วัฒนพานิช และ อำพล ลำพูน นอกจากจะได้รับความอิ่มเอมใจกันแล้วทุกคนยังได้ร่วมทำบุญไปกับโรงเรียนพระดาบสชายแดนภาคใต้ไปพร้อมกันด้วย
เริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วยความอิ่มใจของชาวไทยทุกคนในฮอลล์ด้วยบทเพลงที่พี่ดี้ภูมิใจที่สุดในชีวิตการแต่งเพลง ถ่ายทอดผ่านน้ำเสียงของทั้ง 7 ศิลปิน ในเพลง “ของขวัญจากก้อนดิน” และ “ต้นไม้ของพ่อ” ก่อนเจ้าของคอนเสิร์ตจะเซอร์ไพร้ส์คนดูด้วยการวางปากกาในมือมาจับไมค์ อวดเสียงร้องที่หาฟังยากมากๆในเพลง “ไม่รักแต่คิดถึง” และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เสียบปลั๊กตู้เพลงเซตแรกด้วยการยกเมดเล่ย์เพลงติดหูมาให้แบบจัดเต็ม 14 เพลงรวด “ลืมไปไม่รักกัน / ไม่ว่าจะเป็น อยากให้รู้ว่าเหงา / ไม่มีใครขอร้อง / อาจจะเป็นคนนี้ / หยดน้ำในทะเล / อยากตะโกน / อดใจไม่ไหว / รุนแรงเหลือเกิน / แผลในใจ / คนไม่มีสิทธิ์ / หนักเกินไปแล้ว / พูดไม่ออก / แค่เสียใจไม่พอ / เธอปันใจ ” เซตนี้แค่ดนตรีขึ้นคนดูในฮอลล์ก็วอร์มเสียงรอร้องตามได้อย่างพร้อมเพรียงกันทุกเพลง และขึ้นชื่อว่าโปรดักชั่น เอ-ไทม์ โชว์บิส ไม่มีคำว่าธรรมดา เนรมิตรเวทีเป็นห้องทำงานเสมือนจริงของพี่ดี้ให้แฟนๆได้ขยับเข้ามาใกล้ชิดพี่ดี้ขึ้นอีกนิดนึง งานนี้ได้ แอม-เสาวลักษณ์ อาสาเป็นตัวแทนทุกคนบุกห้องพี่ดี้ รื้อค้นและสัมภาษณ์พี่ดี้อย่างเจาะลึกถึงแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงของพี่ดี้ว่ามาจากไหนบ้าง จนได้คำตอบมามากมายไม่ว่าจะเป็นการตั้งต้นจากคำแค่คำเดียว อย่างเพลง “รักเธอเสมอ / ยินยอม / กองไว้ / คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ” หรือจะเป็นเพลงที่เขียนมาจากเรื่องราวของคนใกล้ตัว อย่างเช่น “ปราสาททราย” ที่บิลลี่ อาสาร้องและเล่นเดี่ยวเปียโนในเพลงนี้เองด้วย นอกจากแรงบันดาลใจที่มาจากคนอื่นแล้วพี่ดี้ก็ไม่วายที่จะหยิบเอาเรื่องส่วนตัวของพี่ดี้เองมาแต่งเป็นเพลงให้เราได้ซึ้งตามกันไปด้วย งานนี้รุ่นใหญ่ก็แอบชวนรุ่นเล็กอย่าง โรส-ศิรินทิพย์ / โบ สุนิตา / บอย พีซเมคเกอร์ มาร่วมถ่ายทอดบทเพลงจากครูเพลงด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเพลง “ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย / ก้อนหินกับนาฬิกา / จากคนอื่นคนไกล / สายยน้ำไม่ไหลกลับ /คาใจ” ล้วนแต่เป็นเพลงที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
ก่อนจะได้เวลาปรับอารมณ์คนดูให้สนุกขึ้นมาอีกระดับด้วยการดวลไมค์ของ คิง และ ควีน อ๊อฟ แด๊นซ์ อย่าง เจ และ ติ๊นา ที่ครั้งนี้เปลี่ยนแนวมาดวลเพลงช้ากันบ้างในเพลง “เธออยู่ไหน / เจ็บไปเจ็บมา / อย่างให้ถึงวันนั้นเลย / แววตา” ถึงแม้จะเป็นเพลงช้าแต่ขึ้นชื่อว่าเป็นสองคนนี้ก็ยังมีท่าเต้นให้เราได้ขยับตามกันแบบเก๋ๆ มาถึงคิวชาวร็อคอย่าง บิลลี่-ใหม่ ก็ไม่น้อยหน้าของัดไม่เด็ดออกมาดวลกันอีกคู่ในเพลง “ลาออก / ควักหัวใจ” เรียกได้ว่าเวทีลุกเป็นไฟ แซ่บถึงพริงถึงขิงจริงๆ และอีกคู่ที่เรียกเสียงกรี๊ดได้สนั่นฮอลล์ก็คือ คู่ขวัญ หนุ่ย-มาช่า ที่เลือกเอาเพลง “บอกมาคำเดียว” ที่ทำเอาคนดูอินทั้งเนื้อหาเพลงและแถมลีลาบนเวทีของคู่นี้ต้องยอมเค้าเลย ก่อนส่งเข้าโค้งสุดท้ายของคอนเสิร์ต ที่ตอกย้ำความเป็นที่สุดของเพลงพี่ดี้ด้วยเพลงฮิตให้ข้อคิดตลอดกาลอย่าง “ก้อนหินก้อนนั้น / อย่าไปเสียน้ำตา / ไม่เป็นไรเลย / ครึ่งหนึ่งของชีวิต / ไม่แข่งยิ่งแพ้” เชื่อว่าจบคอนเสิร์ตวันนี้นอกจากความสุขที่ทุกคนได้รับ ก็ยังจะมีข้อคิดดีๆ ที่เก็บร้อยเอาไว้คอยเตือนสติจากเพลงของพี่ดี้ด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าตลอด 4 ชั่วโมงเต็มจริงๆ