เมื่อ โอ้ ตัวประหลาดที่น่ารักจากดาวดวงอื่นเดินทางมายังโลกและพบว่าตัวเองพลัดหลงกับผู้คนบนโลกของเขา เขาจึงผูกมิตรกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่รักการผจญภัยอย่าง ทิป ที่กำลังมีภารกิจบางอย่าง ตลอดการเดินทางแสนสนุกร่วมกับทิป โอ้พยายามทำความเข้าใจเรื่องความแตกต่างและการทำผิดพลาดแบบมนุษย์ อีกทั้งยังร่วมกันค้นหาความหมายที่แท้จริงของคำว่าบ้านอีกด้วย
ทีมแห่ง HOME
ขอต้อนรับสู่ภาพยนตร์ที่ผู้กำกับฯ HOME ทิม จอห์นสันเรียกว่า “ภาพยนนตร์แอนิเมชั่นแนวโรดทริปคอมเมดี้ของสองเพื่อนจากต่างดาวหลังโลกเกิดหายนะเรื่องแรก” แต่เหนือสิ่งอื่นใดจอห์นสันเล่าว่า HOME เป็นเรื่องราวของสองตัวละครที่ทำตัวแปลกแยกในโลกของพวกเขา แต่พวกเขาจะร่วมกันค้นหาความหมายที่แท้จริงของการเป็นที่ยอมรับและจะสร้างความประหลาดใจให้คนธรรมดาทั่วไป “มันมีความเป็นหนังแนวเพื่อนซี้มากครับ และเป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ไปจนถึงการทำความเข้าใจอย่างเหลือเชื่อจนเกิดความสนุกสนานและมิตรภาพที่งดงามระหว่างโอ้และทิป” เขาเล่ารายละเอียด
“ทิปไม่ค่อยถูกชะตากับโอ้ แต่เมื่อพวกเขาต้องร่วมผจญภัยทั่วโลกร่วมกันก็พบว่าต่างมีอะไรที่คล้ายกันมาก” จิม พาร์สันส์ ผู้ให้เสียงโอ้กล่าว
“เราไม่มีทางรู้เลยว่าจะพบมิตรภาพได้ที่ไหนและกับใคร” นักแสดงเจ้าของรางวัล Emmy® จากซีรี่ส์ที่ฉายมาอย่างยาวนานเรื่อง The Big Bang เล่าต่อว่า “การสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืนกับผู้คนหรือแขกผู้มาเยือนจากต่างถิ่นที่แตกต่างกับเรามาก และเป็นคนที่เราไม่คิดว่าจะไม่ข้องเกี่ยวด้วยได้ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ มันคือเรื่องสำคัญเลยล่ะ”
โอ้และทิปต่างเป็นเพื่อนต่างดาว “พวกเขามาจากโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงและไม่มีอะไรคล้ายกันเลย” รีฮานน่า นักดนตรีระดับโลกและเจ้าของรางวัล Grammy® ถึง 7 ครั้งผู้ให้เสียงทิปกล่าว “แต่พวกเขาก็ค่อยๆ พบสิ่งที่คล้ายกันและกลายเป็นเพื่อนกันได้อย่างน่าทึ่ง”
การนำ HOME สู่จอยักษ์มีจุดเริ่มต้นจากที่ … บ้านของทิม จอห์นสัน ตอนที่เขากำลังอ่านนิยายของอดัม เร็กซ์ เรื่อง The True Meaning of Smekday ให้ลูกชายวัย 5 และ 7 ขวบของเขาฟัง เด็กๆ สนุกสนานกับเรื่องราวจนส่งผลต่อพ่อของพวกเขามาก “ผมอ่านหนังสือให้ลูกๆ ฟัง 2 ตอนและเอาพวกเขามากอด จากนั้นก็โกงพวกเขาด้วยการเอาหนังสือมาอ่านตอนดึกจนจบเวลาตี 2 มันเป็นเรื่องราวมิตรภาพที่มีพลังพร้อมความตลกและเรื่องป่วนๆ ตัวละครก็มีความน่ารักและสนุกสนานด้วยครับ”
จากการสนับสนุนของเร็กซ์ จอห์นสัน ผู้เขียนบทฯ ทอม เจ. แอสเทิล และ เม็ตต์ เอ็มเบอร์ ผู้อำนวยการสร้างฯ ไมรีล โซเรย และซูเซน เบอร์จี้ ได้ร่วมกันนำเรื่องราวและตัวละครต่างๆ มาโลดแล่นบนภาพยนตร์ มีบางส่วนที่ขยายเรื่องราวและเหตุการณ์จากหนังสือ แต่ยังคงอารมณ์ที่แท้จริงไว้ตลอดเวลา
ประเด็นสำคัญของหนังสือและภาพยนตร์คือมิตรภาพระหว่างโอ้และทิป โอ้เป็นบูฟที่มีจิตใจเหมือนมนุษย์ เขาคิดว่าความสุขที่แท้จริงคือการถ่อมตนในทางบวก พวกเขาเป็นผู้มาเยือนโลกของเราที่มีความกระตือรือร้น ซึ่งพวกเขาเลือกที่จะพิชิตโลกของเราอย่างงดงาม
แต่โอ้ไม่ใช่บูฟทั่วไป เขาฉลาด ทำงานอย่างหนัก แต่ไม่ค่อยได้ผูกมิตรกับกลุ่มบูฟผู้หวาดหวั่นการมีเพื่อนตัวอื่น “จริงๆ แล้วโอ้ไม่ได้เกิดมาเป็นบูฟที่ดี” จอห์นสันกลาว “พวกบูฟจะไม่สนใจกัน ไม่มีเพื่อน คนรอบข้างหรือครอบครัว แต่โอ้แหกกฎเรื่องนี้ไป เขาอยากผูกมิตรในโลกที่ไม่เห็นค่ากับเรื่องนั้น”
“โอ้เป็นตัวละครที่มองโลกแง่ดีอย่างเหลือเชื่อ เขาคิดว่าการมาเยือนโลกคือเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับบูฟ และมนุษย์ต้องการพวกเขา” ซูเซน เบอร์จี้กล่าว
“พวกบูฟต่างเป็นอิสระ” พาร์สันส์กล่าวเสริมว่า “พวกเขามีความคิดสิ่งเดียว ตอนแรกโอ้เชื่อมั่นในหลักการนั้น และเขามุ่งมั่นที่จะเป็นบูฟที่ดีที่สุด แต่เขาต่างจากคนอื่นเพราะโอ้อยากมีความสุข”
พาร์สันส์สร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นครั้งแรกด้วยเรื่อง HOME เขาเป็นนักแสดงที่ผ่านการฝึกฝนและนำความท้าทายต่างๆ จากการทำงานในหนังแนวนั้นมาประยุกต์ใช้ “มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่สุดของผมจากการเป็นนักแสดง” เขาอธิบายว่า “มันรู้สึกเหมือนได้เข้าสู่ความลึกลับแต่เป็นหลุมดำแห่งความสุขเวลาที่เราอยู่กับตัวละครอย่างลำพัง พอเรารีแลกซ์มันกลับเป็นความสุขเมื่อได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมไม่เคยออกจากสตูดิโอบันทึกเสียงในสภาพที่ไม่มีเหงื่อเปียกโชกเลย!”
จอห์นสันเป็นแฟนผลงานของพาร์สันส์มานานหลายปีแล้ว การร่วมงานกันระหว่างพวกเขามาจากความชื่นชมอยู่ลึกๆ ในความสามารถที่น่ามหัศจรรย์ของเขา “น้ำเสียงของจิมมีความไพเราะและนั่นคือสิ่งสำคัญสุดในการคัดเลือกนักแสดงในภาพยนตร์แอนิเมชั่น” ผู้กำกับฯ อธิบาย “น้ำเสียงของเขาน่ารักเหมาะกับภาพเคลื่อนไหว เรื่องราวของโอ้คือการหมดหวังที่จะผูกมิตร นั่นเป็นเรื่องที่บูฟไม่มีวันทำกัน เขาจึงหลงรักความเป็นมนุษย์ที่มีโอกาสหาเพื่อน เล่าเรื่องตลก ฟังเพลง จัดปาร์ตี้ และมีทุกอย่างที่เขาทำไม่ได้เพราะเป็นบูฟ”
การผจญภัยของเพื่อนต่างแดนเกิดขึ้นหลังจากช่วงเวลาของ “โอ้ ไม่นะ!” ตอนที่เขาส่งอีเมล์เชิญเพื่อนระหว่างดวงดาวมางานปาร์ตี้ขึ้นบ้านใหม่ที่เหมือนโลก แต่โชคร้าย (เหมือนเราหลายคน) ที่เขากดปุ่ม “ส่งทั้งหมด” จนไปถึงเกือบทุกคนในจักรวาล รวมถึงศัตรูตัวร้ายที่น่ากลัวของบูฟอย่างกอร์จด้วย
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไม่มีบูฟตัวไหนชื่นชอบโอ้ที่คอยสร้างเรื่องให้พวกเขานัก เหตุการณ์นี้ได้นำเขาไปพบกับ กราทูอิตี้ “ทิป” ทุคชี่ มนุษย์สาวน้อยที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่แม่ของเธอและทุกคนบนโลกถูกจับย้ายโดยพวกบูฟ ทิปเป็นคนที่แข็งแกร่ง ฉลาด และไม่เกรงกลัวอะไร เธอเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่ซ่อนตัวรอดจากแขกผู้ไม่พึงประสงค์ที่มาเยือนโลกของเรา
ตอนแรกทิปและโอ้ต่างฝ่ายต่างระวังตัว แทบไม่มีความไว้วางใจเพราะพวกเขาต้องมาอยู่ด้วยกันจากสถานการณ์จำยอม โอ้อาจช่วยทิปหาตัวแม่และรถของเธอที่หายไปได้ (ซึ่งโอ้ได้ดัดแปลงให้เป็นแบบบูฟอย่างน่าตกใจ แต่เมื่อเรื่องราวคลี่คลายบรรยากาศได้หล่อหลอมให้เกิดมิตรภาพที่แท้จริงขึ้นมา โอ้เริ่มเข้าใจว่าการเป็นมนุษย์มีความหมายอย่างไร เมื่อทิปกลายเป็นครูสอนให้เขารู้จักความตลก ศิลปะ ครอบครัว และมิตรภาพ
รีฮานน่ามาร่วมงานในภาพยนตร์แอนิเมชั่นครั้งแรก (เช่นเดียวกับ พาร์สันส์ เพื่อนร่วมแสดงของเธอ) ด้วยการให้เสียงพากย์ทิป เธอสนุกสนานกับประสบการณ์ไม่ต่างกับพาร์สันส์ที่ได้พบอะไรหลายอย่างพร้อมกับตัวละคร “ทิปเป็นคนตรงไปตรงมา รักอิสระ แต่เวลาเดียวกันก็อ่อนไหวด้วย” รีฮานน่ากล่าว “เธอยังคงมีความเป็นเด็กอยู่ มีหลายครั้งที่เธอแสดงความกล้าไปพร้อมกับโอ้ และมีช่วงเวลาที่เธอกลับไปทำตัวเป็นเด็กอีกครั้ง มันมีความสดใสและน่ารักที่ได้เห็นทั้งสองมุมในตัวทิป”
นอกจากนั้นแล้ว สัญลักษณ์แห่งเพลงที่เป็นสิ่งสะท้อนบทบาทของเธอบนจอภาพยนตร์ “ทิปทำให้ฉันนึกถึงตัวเอง” เธอกล่าว “นั่นคือเหตุผลสำคัญที่ฉันมาร่วมงานในเรื่อง HOME ค่ะ ฉันเข้าใจวิธีคิดของทิป รวมถึงข้อบกพร่อง ความมุ่งมั่น การพูดจาถือดี และทัศนคติของเธอ”
สำหรับทิม จอห์นสัน การทำงานร่วมกับรีฮานน่าไม่เหมือนกับประสบการณ์ครั้งไหนที่เขาเคยพบมาก่อนเลย “ไมโครโฟนคือเพื่อนตลอดอาชีพการทำงานของรีฮานน่า เธอจึงหาน้ำเสียงสำหรับทิปที่กำลังก้าวสู่วัยรุ่นได้อย่างง่ายดาย รีฮานน่าใส่ความสดใสเข้าไปในตัวละคร แสดงความดื้อและพลังของการเอาตัวรอดในตัวทิปออกมาได้”
รีฮานน่ายกความดีให้กับจอห์นสัน “เขารู้ว่าจะถ่ายทอดอารมณ์ที่สำคัญในฉากนั้นได้อย่างไร ตั้งแต่การทำงานในช่วงแรกตอนที่ตัวละครยังเคลื่อนไหวได้ไม่สมบูรณ์ดีนัก ฉันสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของฉากต่างๆ น้ำตาฉันไหลออกมาและคิดว่า ‘น่าอายจริง! นี่ฉันกำลังร้องไห้ให้กับแท่งตุ๊กตาหรอเนี่ย!’”
ความสามารถของนักร้องคู่นี้ได้ส่งบทบาทในการร่วมงานต่อกัน “ในการบันทึกเสียงของรีฮานน่า เราต้องยืนอยู่ข้างหลังเวลาบอกให้เธอตะโกน…ว้าว นี่คือคนที่แผ่กระจายทุกพื้นที่ด้วยเสียงของเธอ” จอห์นสันกล่าวเสริมว่า “เธอมีพลังขนาดนั้นเลย”
พลังที่ต่างขั้วกันอย่างสิ้นเชิงถูกควบคุมโดยหัวหน้าบูฟ กัปตันสเม็กที่ออกคำสั่งให้จับตัวโอ้ ซึ่งเจ้าโอ้ได้ทำพลาดโดยการติดต่อกับพวกกอร์ก ซึ่งเป็นตัวผลักดันการผจญภัยระหว่างโอ้และทิป การควบคุมของสเม็กได้รวมถึงการเป็นฝ่ายถูกในทุกเรื่อง เอาหน้าจากความสำเร็จของคนอื่นๆ เชื่อมั่นในชื่อเสียงของตัวเอง และตั้งชื่อสิ่งต่างๆ ตามตัวเอง
แต่สิ่งที่สเม็กทำได้ดีสุดคือเรื่องความขี้ขลาดของเขาที่บูฟต่างยอมรับกัน “สเม็กมีความภาคภูมิใจมากเพราะเขาได้รับเหรียญตรา Yellow Heart ถึงสามครั้งสำหรับความขี้ขลาดของเขา” จอห์นสันกล่าว “นั่นคือสุดยอดรางวัลเลยครับ”
สตีฟ มาร์ติน ผู้มีชื่อเสียงด้านการ์ตูนให้เสียงพากย์ท่านผู้นำที่มีความมั่นใจเสมอ (และไม่เคยมีเหตุผลดีๆ) เขาเล่าว่า “ด้วยเหตุผลที่คนขี้ขลาดอย่างสเม็กเป็นหัวหน้าของบูฟ จึงสะท้อนถึงธรรมชาติของพวกเขา เขาทำให้พวกเขามีอีโก้ แต่สุดท้ายแล้ว [มีการสปอยล์!] พวกเขาก็ยอมรับในตัวตนของสเม็กว่าเป็นพวกอีเดียต แต่สเม็กยังคงเชื่อมั่นอย่างแน่วแน่ว่ามนุษย์ไม่มีอะไรพิเศษ ส่วนสเม็กเป็นจอมอัจฉริยะ”
แต่ความขี้ขลาดไม่ใช่พรสวรรค์เพียงอย่างเดียวของสเม็ก เขายังสามารถเลี้ยงลูกบอลเข้าไปในปากได้เหมือนมันเป็นลูกอมหรือผลไม้แสนอร่อย อันที่จริงเขารัก (และใช้งานในทางที่ผิด) หลายสิ่งที่พบบนโลกเลยล่ะ
มาร์ติน นักเขียนบทที่มีชื่อเสียงอีกคนเล่าว่าเขารักขั้นตอนการทำงานในภาพยนตร์แอนิเมชั่น เพราะ “มันเหมือนกับการเขียนบทละครเรื่องหนึ่ง เราพยายามสร้างบางอย่างออกมา ปรับเปลี่ยน และย้อนกลับไปลองอีก 70 วิธีอื่น มีหลากหลายอารมณ์ที่ถ่ายลงไปในภาพยนตร์แอนิเมชั่นได้”
มาร์ตินเหมือนกับนักแสดงที่ให้เสียงพากย์ส่วนใหญ่ มาร์ตินบันทึกเสียงตัวละครของเขาโดยไม่มีผู้ร่วมแสดงอยู่ แต่เขารู้สึกประทับใจที่สิ่งเล็กๆ นี้มีผลต่อการแสดงของเขา “คุณจะรู้สึกเหมือนผมร่วมงานกับจิมและริฮานนาในเรื่อง HOME มาสองปีแล้ว แม้ว่าจริงๆ แล้วจะใช้เวลาร่วมกับพวกเขาอย่างจำกัดหรือแทบไม่มีเลยก็ตาม”
สำหรับจอห์นสัน การร่วมงานกับมาร์ตินถือเป็นจุดสูงสุดของเขา “ตอนอายุ 16 ปี ผมนั่งอยู่ที่แถวหลังของ Chicago Stadium ดูตัวละครที่สวมชุดขาวและมีลูกโป่งสัตว์ต่างๆ อยู่บนศีรษะของเขา” เขาเล่า “ผมชื่นชอบสตีฟ มาร์ตินมานานแล้วเท่าที่จำได้ เขามีพรสวรรค์ด้านการ์ตูน ซึ่งคุณจะวางกรอบตัวละครละทุกสิ่งทุกอย่างออกจากพื้นที่”
ตัวละครสเม็กของมาร์ตินและพวกทาสบูฟของเขาได้เคลื่อนย้ายประชากรบนโลกไปจำนวนมาก รวมถึง ลูซี่ แม่ของทิปด้วย จนทำให้สาวน้อย (และ โอ้ เพื่อนร่วมทางของเธอ) ต้องทำภารกิจระดับโลกเพื่อกลับมาเจอลูซี่อีกครั้ง แต่ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าลูซี่ว่าทิปไม่ใช่เด็กธรรมดาทั่วไป ลูซี่จึงมีความหวัง การพลักพรากของพวกเขา การค้นหาของทิป และการกลับมาพบกันอีกครั้งทำให้เกิดช่วงเวลาแห่งความอุ่นใจในเรื่อง HOME มาก
เจนนิเฟอร์ โลเปซ เธอเคยร่วมงานกับจอห์นสันมาแล้วในภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดฮิตของผู้กำกับฯ เรื่อง Antz มาให้เสียงพากย์ของลูซี่ “การได้ร่วมงานกับเจนนิเฟอร์อีกครั้งหลังผ่านไป 17 เป็นเรื่องที่สนุกสนานครับ” เขากล่าว “เธอถ่ายทอดความอบอุ่นและพลังอย่างที่เราหวังจากผู้เป็นแม่ที่พลัดพรากจากลูกสาวของเธอ การแสดงของเจนนิเฟอร์กลายเป็นอารมณ์สำคัญของหนังไปเลย
“ช่วงเวลาหนึ่งที่สะเทือนใจสุดในหนัง” จอห์นสันเล่าต่อว่า “คือตอนที่คุยกับเจนนิเฟอร์เรื่องครอบครัวที่พลัดพรากและกลับมาเจอกันใหม่ มีการแชร์ไอเดียและประสบการณ์ต่างๆ เจนนิเฟอร์มีความครบครันมาก ทั้งเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ นักแสดง ผู้สร้างหนังและโปรดิวเซอร์”
ริฮานนาเป็นแฟนอีกคนหนึ่งของแม่เธอในจอ “ทุกคนอยากให้เจ-โลเป็นแม่ของพวกเขา!” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เสียงของเธอทั้งหวานและอ่อนโยน แค่ได้ยินเสียงและท่าทางของเธอก็จะรู้สึกอุ่นใจ คุณจะเชื่อเลยว่าเธอคือแม่ของทิป”
ตำรวจจราจรชาวบูฟ เจ้าแมวชื่อ ‘พิก’
และศัตรูที่น่ากลัว
โอ้ไม่ใช่แค่ชาวบูฟเพียงผู้เดียว ตำรวจที่ต้องลำบากใจกับเรื่องค้าขายอย่างผิดกฎหมายมาเป็นเวลานานอย่างไคล์เองก็ต้องรับใช้ผู้นำสูงสุดกัปตันสเม็กด้วยการตามล่าโอ้ ที่สำคัญคือไคล์เป็นบูฟที่มีความเหมาะสม เขานอบน้อมและทำตามหน้าที่ของตัวเอง
แม็ตต์ โจนส์ เจ้าของบทบาทที่น่าจดจำอย่าง แบดเจอร์ ในเรื่อง Breaking Bad มาให้เสียงพากย์ของไคล์ ซึ่งจอห์นสันพูดถึงเขาว่า “เป็นคนที่ต้องเข้ามาอยู่ในการผจญภัยระดับจักรวาลครั้งนี้ และเราก็อินไปกับเขาด้วย”
เป้าหมายของการไล่ล่าโดยไคล์คือโอ้และทิปได้ร่วมมือในการผจญภัยกันของพวกเขา โดย พิก แมวและเพื่อนซี้ของทิป “พวกเขาเหมือนเงาตามตัวกัน” ริฮานนากล่าว ซูซาน เบอร์กี้ ผู้อำนวยการสร้างฯ เรียกพิกว่าเป็น “ทีมประสานเสียงชาวกรีกที่รู้เห็นสิ่งต่างๆ หรือหลับระหว่างที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นในเรื่อง เขาคือบททดสอบอารมณ์อย่างหนึ่งในเรื่องเพราะเขามีส่วนร่วมในการพัฒนามิตรภาพระหว่างทิปกับโอ้ด้วย”
แต่ที่สำคัญสุดคือพิกเป็นแมว ฉะนั้นสิ่งที่จะไม่มีวันเปลี่ยนคือเรื่องกินและนอน
แต่ฮีโร่ของเราและบูฟที่กำลังถูกศัตรูอย่าง กอร์ก ไล่ล่ามีเวลาเพียงน้อยนิด กอร์ก ตามบูฟไปทุกที่และทำลายดาวต่างๆ ที่บูฟนับว่าเป็นบ้าน แต่สุดท้ายบูฟพบว่าพวกเขาสามารถหนีไปยังดาวที่กอร์กจะไม่มีวันเจอพวกเขาได้ นั่นคือบนโลกในทางช้างเผือก พวกกอร์กแพ้ของหวาน ฉะนั้นพวกเขาจะไม่มีวันนึกถึงที่นั่น จนกระทั่งโอ้พลาดด้วยการส่งคำเชิญไปงานปาร์ตี้ถึงกล่องข้อความ
จังหวะในบ้าน
ดนตรีรับหน้าที่สำคัญของการสร้างความสนุกสนานใน HOME มีการบรรยายถึงลักษณะและประเด็นต่างๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ได้ริฮานนาเข้ามามีส่วนร่วมในโปรเจ็กต์ นอกเหนือจากการเขียนบทของทิปแล้ว และบทเพลงหลัก ศิลปินป๊อปมีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างซาวด์แทร็กของภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยเรียบเรียงเพลงร่วมสมัยจากศิลปินต่างๆ อาทิเช่น Kiesza, Charli XCX + Stargate และ Ester Dean ในเพลงประกอบภาพยนตร์ตามธรรมเนียมด้วย
“ฉันมีช่วงเวลาดีๆ ที่ได้ร่วมงานในส่วนดนตรีของภาพยนตร์ค่ะ” ริฮานนากล่าว “ฉันสนุกกับการทำงานร่วมกับทิม จอห์นสันอย่างใกล้ชิด และโปรดิวเซอร์ดนตรี Stargate เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อเรื่องและทำนองเพลงจะตรงกับที่ฉากต้องการ” ให้มีความสนุกสนาน เร้าใจ ทันสมัย หรือเข้ากับอารมณ์
จอห์นสันเล่าว่าเขาคงไม่มีเพื่อนร่วมงานที่ดีไปกว่านี้แล้ว “เรามีเรื่องราวที่จะพาเราไปทั่วโลก และน้ำเสียงของมนุษย์คือน้ำเสียงของดนตรีป๊อปที่ทันสมัยอย่างริฮานนา” เขาอธิบาย “เธอถ่ายทอดประสบการณ์ด้านดนตรีได้อย่างน่าทึ่งมากครับ”
“ริฮานนาเหมือนคนสองบุคลิกในเรื่อง HOME” เบอร์กี้กล่าว “เธอให้เสียงพากย์ในหนังตอนอายุ 12 ปีและยังเป็นสุดยอดซูเปอร์สตาร์ด้านเสียงเพลงอีกด้วย เธอถ่ายทอดความสนุกสนานและอารมณ์ความรู้สึกผ่านบทเพลง”
จุดเด่นอย่างหนึ่งในเรื่อง HOME คือดนตรีช่วงนำโอ้สู่โลก โดยเฉพาะเพลง “Dancing in the Dark” ของ Stargate โอ้แกล้งทำเหมือนเขากลัวเสียงเพลงแต่ร่างกายเขากลับตรงกันข้าม เท้าของโอ้เริ่มขยับตามจังหวะและสะโพกของเขาเริ่มโยกย้ายไปตามท่วงทำนอง เขายากจะต้านทานไหวจึงเริ่มสนุกสนานราวกับไม่มีวันพรุ่งนี้ ไม่มีการควบคุมร่างกายของเขา ฉากที่สนุกสนานหลุดโลกได้สะท้อนถึงการผจญภัยของโอ้ที่เริ่มจะรักความเป็นมนุษย์
ในฉากออกแบบท่าเต้นโดย Beau Casper Smart ที่ต้องเต้นนานหลายชั่วโมงเพื่อสร้างฟุตเทจไว้สำหรับให้ผู้แสดงการเคลื่อนไหวใช้อ้างอิง จากนั้นจะมีการเคลื่อนไหวเหมือน “การเคลื่อนไหวของบูฟ”
เดินทางสู่โลก
ภาพยนตร์เรื่อง HOME ได้พาโอ้ ทิป และผู้ชมสู่การผจญภัยรอบโลก ตั้งแต่สหรัฐฯ ไปฝรั่งเศส จีน จนสิ้นสุดที่ออสเตรเลีย มีชาวบูฟนับล้านเดินทางด้วยยานอวกาศและเทคโนโลที่เปลี่ยนแรงโน้มถ่วงโลก ยานแม่กอร์กอันมหึมามีสัดส่วนที่น่าประทับใจ “จุดหมายปลายทางตั้งแต่แรกเริ่มทำให้ HOME กลายเป็นการผจญภัยยิ่งใหญ่ระดับโลก” จอห์นสันกล่าว
ปารีสคือศูนย์ควบคุมบัญชาการบูฟ ผู้พิชิตมือสมัครเล่นได้ครองหอไอเฟลที่เปลี่ยนชื่อใหม่ให้ว่า “The Great Antenna” และทิปกับโอ้ได้แอบเข้าไปในนั้นเพราะหวังว่าจะพบกับแม่ของเธอ “บูฟได้ปรับเปลี่ยนหอไอเฟลให้กลายเป็นศูนย์ควบคุมบัญชาการครอบคลุมเหนือปารีส” ต้องขอบคุณในสร้อยคอบูฟที่ปรับสมดุลแห่งแรงโน้มถ่วง เบอร์กี้กล่าว “มันเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่และงดงาม เราอยากให้โลกใบนั้นดูเปลี่ยนไปเพราะบูฟโดยที่ไม่ดูน่ากลัว”
การออกแบบบ้าน
การออกแบบฉากในเรื่อง HOME มีทั้งการผสมผสานสิ่งที่คุ้มและไม่คุ้นตาในโลก จุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของบูฟคือกรอบโรลี่โพลี่ มีความมั่นใจ ทำหน้าแบ๊ว มี 6 ขาและหนวด ซึ่งจะดูเหมือนหนวดในตำแหน่งที่เราคิดว่าควรเป็นหูของพวกเขา “พวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดื้อแต่น่ารัก” จอห์นสันกล่าว
บางทีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของบูฟคงเป็นการแสดงออกพลังงานอารมณ์โดยการเปลี่ยนสี ที่ทำให้พวกเขากลายเป็นวงแหวนแห่งอารมณ์ สีเหลืองที่แสดงถึงความหวาดกลัว (และพวกเขามักจะกลัวประจำ) สีแดงสื่อถึงความโกรธ และสีฟ้า… ลองเดาดูสิ… หมายถึงพวกเขากำลังเศร้าไง
ช่วงแรกที่พวกเขาพบกันในร้านสะดวกซื้อ โอ้แปลงสภาพรถของทิปให้กลายเป็น “Slushious” ที่ใช้เครื่องดื่มเกล็ดหิมะในร้านส่งพลังและทำให้ลอยได้ Slushious เดินทางด้วยความเร็วสูงและคล่องตัวเวลาที่เราเดินทางอยู่บนโลก นอกจากเครื่องยนต์ Slushy ที่ดีกว่าพลังเทอร์โบแล้วยังมีเครื่องผลิตอาวุธป๊อปคอร์นออกมาอยู่ด้านหน้า บวกกับตัวผลิตฮอทดอกจากเดิมที่เคยเป็นวิทยุด้วย
ท่อไอเสียรถมีฟองพ่นออกมา มีการสื่อถึงเทคโนโลยีของบูฟที่อิงจากฟองสบู่ ทุกอย่างในโลกของพวกเขาจะเป็นทรงกลมหรือลูกกลมๆ ขณะที่ศัตรูของพวกเขาอย่างกอร์กจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ส่วนพวกมนุษย์จะมีบ้าน รถ และสิ่งของหลายอย่างที่เป็นทรงสี่เหลี่ยม
ภาษา: บูฟวิซึมส์
เรื่อง The True Meaning of Smekday ของผู้แต่งฯ อดัม เร็กซ์ได้มีการตีความบูฟไว้ในภาษาอังกฤษ ซึ่งรวมถึงคำย่อที่ละไว้ด้วย (“ฉันทำไม่ได้t” ในภาษาชาวบูฟคือไม่-ไม่; ซึ่งหมายถึง “ฉันไม่สามารถ”) ผู้สร้างฯ ได้ขยายการพลิกแพลงภาษาที่สร้างสรรค์ของเร็กซ์ โดยได้การปรับเปลี่ยนของทิม พาร์สันส์เป็นพิเศษ “จิมเริ่มจากแกรมมาร์ของพวกบูฟและมีการคิดรูปแบบประโยคประหลาดๆ ขึ้นมาเอง เช่น ‘ฉัน 100% ด้านการได้รับความสนใจมาก’” จอห์นสันเล่าให้ฟังว่า “บูฟมองโลกผ่านภาษาอังกฤษแบบแปลกๆ”
บ้านสุดไฮเทค
ตั้งแต่ทิม จอห์นสันกำกับฯ ผลงานของ DreamWorks Animation เรื่อง Antz ปี 1998 เทคโนโลยีได้ก้าวกระโดดไปตามการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ของบริษัทอย่างมาก
ศิลปะและเทคโนโลยีได้มารวมตัวกันอย่างสำคัญที่ DreamWorks Animation พร้อมกับเทคโนโลยีจากผู้ชำนาญและแอนิเมชั่น
สตูดิโอได้มอบหมายให้ผู้ชำนาญ อาทิเช่น จอห์นสันและทีมงานของเขามาสร้างสรค์ผลงานอย่างอิสระ พร้อมด้วยเครื่องมือที่ทำให้พวกเขาทำงานอย่างสะดวกสบาย มีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จสำหรับการสร้างจินตนาการของพวกเขาให้สมจริงขึ้นมา
นั่นคือเหตุผลที่ DreamWorks Animation ลงทุนด้านการผลิตเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อใช้ออกแบบภาพยนตร์ โดยเรื่อง HOME เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองต่อจาก How to Train Your Dragon 2 ที่ใช้แพลทฟอร์มใหม่ของบริษัทที่ชื่อว่า Apollo จากการผลิตเป็นเวลา 5 ปี Apollo ได้ทำให้ผู้ชำนาญสามารถควบคุมและปรับข้อมูลได้อย่างสะดวกและตรงตามใจ ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูงดงามและยิ่งใหญ่กว่าสำหรับมุมมองของผู้ชม
Apollo มีส่วนประกอบของซอฟต์แวร์ 2 ตัวที่สำคัญคือ Premo และ Torch โดย Premo เป็นเครื่องมือด้านแอนิเมชั่นที่ทำให้ผู้ชำนาญสร้างตัวละครด้วยความละเอียดสูงได้ในเวลาจริงบนแท็บเล็ตผ่านสไตลัส ปรับเปลี่ยนตัวละครให้ดูเป็นธรรมชาติซึ่งเหมาะแก่การทดลองมากขึ้น ผู้ชำนาญได้ทำงานอย่างรวดเร็วจากจินตนาการในการแกะสลักมากกว่าการจัดการขอบหรือเอกสาร ส่วน Torch เป็นเครื่องมือด้านการให้แสงที่ให้ผู้ชำนาญสามารถสร้างจินตนาการมากมายผ่านไฟล์นับล้านชิ้น ศิลปินนับร้อยคน และการตอกย้ำผลงานอีกนับพันครั้ง
จอห์นสันเล่าว่าเทคโนโลยีไฮเทคเหล่านี้มีจุดเด่นตรงที่ความเป็นอิสระ “ผู้ชำนาญสามารถแสดงผลงานแบบต่างๆ ที่ดูมีชีวิตจริงและไม่ยุ่งยากให้ผมดูได้ ซึ่งผมสามารถวิจารณ์ผลงานที่ได้ทันที” เขาอธิบาย “แทนที่จะต้องมารอเทคโนโลยีเพื่อการสร้างผลงาน นวัตกรรมของเราทำให้ผมไปโฟกัสเรื่องมุกตลก จุดมุ่งหมาย แรงบันดาลใจ และอารมณ์ของเรื่องราว ส่วนผู้ชำนาญก็รับหน้าที่อื่นที่เหลือไป”
“…หัวใจอยู่ที่นี่”
ความหมายที่แท้จริงของ “บ้าน” คืออะไร? ไม่แปลกใจเลยที่แต่ละคนจะให้ความหมายต่างกันไป แต่สิ่งที่สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้เสมอคือความรู้สึก
“บ้านเป็นศูนย์รวมความรู้สึกที่เรารู้สึกว่าไม่เคยห่างมันไปไหน” สตีฟ มาร์ตินยืนยัน
“มันเป็นที่ๆ ฉันรู้สึกปลอดภัยที่สุดค่ะ” ริฮานนากล่าว “อะไรก็ตาม ที่ไหนก็ตามที่รู้สึกคุ้นเคยและอุ่นใจก็มีบ้านนี่แหละค่ะ”
“เราจะไม่รู้สึกว่าถูกตัดสินอะไรที่นั่น และผมทำอะไรที่นั่นก็ไม่ดูไร้สาระหรือผิด” จิม พาร์สันส์กล่าวเสริม
ทิม จอห์นสันเล่าว่า “มันเป็นที่ๆ เราเป็นตัวของตัวเองได้”
ขอต้อนรับกลับบ้าน