1. ทุกสิ่งทุกอย่างเติบโต และยิ่งใหญ่มากขึ้นหลายเท่าตัว

ใน Divergent ‘ทริซ’ คือตัวละครที่มีปม และเรื่องราวเก็บซ่อนไว้ในจิตใจ เธอต้องค้นหาตัวเองว่าจริงๆ แล้วเธอคือใคร และต้องการจะเป็นอะไร … แต่พอมาใน Insurgent เธอเติบโตขึ้นมาก (จากปมเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ)

ซึ่งจุดนี้เองทำให้ทริซมีความแข็งแกร่งมากขึ้น เธอค้นพบแล้วว่าเธอคือใคร และเธอก็พร้อมแล้วที่จะสะสาง และออกลุยไปกับเรื่องราวต่างๆ ที่ค้างคาไว้จากภาพยนตร์ในภาคแรก

2. ไม่ต้องเท้าความเรื่องราวใดๆ มากมาย … เพราะนี่คือการ “ลุย” แบบนอนสต๊อป

ใน Divergent ภาพยนตร์ได้ทำการปูเรื่องราว – ความเป็นมาต่างๆ เอาไว้ทั้งหมดแล้ว ดังนั้นใน Insurgent ภาพยนตร์จึงไม่ต้องมาเสียเวลากับจุดนี้แต่อย่างใด เพราะหนังบอกเล่าเรื่องราว 3 วันหลังจากจบภาค Divergent ในทันที … ไดเอร์เจนท์สาวนักสู้ “ทริซ” และ นักรบหนุ่มจากกลุ่มผู้กล้า “โฟร์” พร้อมลุยแยกโลก สู้หยุดโลก กระหน่ำแอ็คชั่นกับการผจญภัยสุดมันส์ครั้งใหม่ชนิดเรียกได้ว่า ‘นอนสต๊อป’ กันเลยทีเดียว

3. คุณจะได้รู้จักกับตัวละครหนุ่มสุดหล่ออย่าง ‘โฟร์’ มากยิ่งขึ้น

เรียกได้ว่ากลายเป็นดาราหนุ่มขวัญใจสาวๆ ทั่วโลกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “ธีโอ เจมส์” กับบทบาทของ ‘โฟร์’ ชายหนุ่มผู้แข็งแกร่ง และเงียบขรึมจากกลุ่มผู้กล้าในภาพยนตร์ชุด The Divergent Series … ในภาคแรกอย่าง Divergent เราพอรู้เรื่องราวคร่าวๆ ของโฟร์มาบ้างแล้วเล็กน้อย แต่ใน Insurgent นี้ เราจะได้ทำความรู้จักกับตัวเขามากขึ้นกว่าที่เคย เพราะในภาคนี้โฟร์จะมาเผยเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาในแง่มุมที่ลึกมากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าให้แฟนๆ ได้อิน และมีความรู้สึกร่วมไปกับโฟร์อย่างเต็มที่กันเลยทีเดียว (และแน่นอนว่ารวมไปถึงเรื่องราวรักสุดสวีทระหว่างโฟร์กับทริซด้วยเช่นกัน งานนี้แฟนๆ เตรียมฟิน จิ้น และกรี๊ดกันให้สนั่นได้เลย) 

 4. ‘ไมลส์ เทลเลอร์’ ดาราหนุ่มจอมขโมยซีน

นอกจากทริซและโฟร์แล้ว ตัวละครที่เรียกได้ว่าน่าจับตา และเข้ามาสร้างสีสันในภาคนี้ไม่น้อยเลยก็คือ ‘ปีเตอร์’ ซึ่งรับบทโดยนักแสดงหนุ่มดาวรุ่งอย่าง ไมลส์ เทลเลอร์ … บทบาทของปีเตอร์ใน Divergent อาจจะเป็นเพียงแต่ตัวประกอบ แต่พอมาใน Insurgent เขาคือ ‘จอมขโมยซีน’ ชั้นดี

ทุกครั้งที่ปีเตอร์ปรากฏตัวเข้ามาในฉาก ขอการันตีเลยว่ามันจะเต็มไปด้วยสีสัน และความสนุกชนิดแสบสันต์ ซึ่งเชื่อว่าคุณจะต้องตกหลุมรักตัวละครนี้ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

5. ตามมาด้วย ‘เคท วินสเล็ต’ , ‘นาโอมิ วัตส์’ และ ‘ออคตาเวีย สเปนเซอร์’ สามดาราหญิงที่มาช่วยเสริมทัพภาพยนตร์ให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

“เคท วินสเลต” นักแสดงหญิงมากฝีมือเจ้าของรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ร่วมแท็กทีมกับ “นาโอมิ วัตส์” นักแสดงหญิงเจ้าบทบาทอีกคนหนึ่งแห่งวงการฮอลลีวู้ดผู้เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลจากสถาบันต่างๆ มาแล้วนับไม่ถ้วน และ “ออคตาเวีย สเปนเซอร์” นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม

ทั้งสามมารับบทบาทเป็น ‘เจอนีน’  หัวหน้ากลุ่ม Erudite ผู้ทรงปัญญาที่ต้องการตามล่าไดเวอร์เจนท์ทุกคนเพื่อแผนการครองอำนาจเหนือคนทุกกลุ่ม , ‘เอเวอร์ลีน’ หัวหน้ากลุ่ม Factionless ผู้ไร้กลุ่มที่จะร่วมมือกับ ทริซ ในการขัดขวางแผนการร้ายของเจอนีนไปให้ได้ และ ‘โจฮันนา’ หัวหน้ากลุ่มรักสันติที่เป็นแหล่งคุ้มภัย ตามลำดับ ซึ่งการมาเสริมทัพกับทีมนักแสดงทั้งสาม ทำให้ Insurgent เพิ่มระดับความเข้มข้นให้กับสงครามกบฏโลกครั้งนี้เข้มข้นเป็นทวีคูณ

6. งานเทคนิคพิเศษอันแสนงดงาม และตระการตาจนโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

ใน Divergent เราได้สัมผัสโลกที่เกิดขึ้นจากการใช้เซรุ่ม หรือสารเคมีบางอย่างเพื่อทดสอบสภาวะจิตใจ และสำหรับใน Insurgent นี้เราก็จะได้สัมผัสกับโลกใบใหม่ซึ่งยิ่งใหญ่ และตระการตามากขึ้นกว่าในภาคแรกหลายเท่านั่นก็คือโลกของการทดสอบ และการต่อสู้ใน ‘ซิมมูเลชั่น’ ซึ่งถือได้ว่ากลายเป็นฉากไฮไลท์ โดดเด่นจนติดตาเหล่าผู้ชมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว … โดยทางทีมงานสเปเชี่ยลเอฟเฟค และวิชวลเอฟเฟคกว่า ‘200 ชีวิต’ ได้ร่วมกันทุ่มเทดีไซน์ เนรมิต และสร้างสรรค์ฉากต่างๆ สุดพิเศษนี้ให้ออกมาเลิศหรูอลังการมากที่สุดสมกับเป็นอภิมหาภาพยนตร์ภาคต่อแห่งปรากฏการณ์แอ็คชั่น – ไซไฟเรื่องเยี่ยมแห่งปี 2015