กรุงเทพมหานคร, 8 เมษายน 2558: สไปเดอร์ ออโต้ อิมพอร์ท ศูนย์รวมยนตรกรรมรถนำเข้าจากยุโรป ที่มีความทันสมัยแบบครบวงจร แถลงถึงแผนการตลาดปี 2558 งัดหมัดเด็ดปีนี้รุกหนักตลาดรถนำเข้าอิสระ(Grey market) วิเคราะห์ภาพรวมของตลาด รวมถึงเปิดเผยโปรโมชั่นเด็ดสุดคุ้ม 2 โปรโมชั่นต้อนรับซัมเมอร์อยู่ในขณะนี้
“นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์” กรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง “บริษัท สไปเดอร์ ออโต้ อิมพอร์ท จำกัด” เปิดเผยว่า ทางโชว์รูมของเรามีรถนำเข้าหลายรุ่น อาทิ porsche , Mercedes-Benz, BMW, AUDI, Toyota โดยเราเริ่มทำจากการทำเล็กๆ สั่งสมประสบการณ์มาเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 5 ปี ซึ่งตอนนี้ถือว่ามีความพร้อมแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรเฉพาะทางชำนาญนับสิบปี,ความพร้อมของสถานที่ Facilities, เครื่องมืออุปกรณ์ครบครัน ทันสมัย โดยเฉพาะเครื่องมือ Software “Piwis II” ที่วิเคราะห์ความผิดพลาดของระบบเครื่องยนต์ Porsche อันนี้เป็นจุดขายของเรา,มีบริการครบวงจร ,ดีลกับบริษัทประกันภัยชั้นนำ,ราคาสมเหตุสมผล รวมถึงอะไหล่แท้ ที่ได้มารวดเร็ว เพราะเราสั่งตรงนำเข้าจากต่างประเทศ สำหรับแผนการตลาดทางเรามีการระดมความคิดทุกวัน วางแผนออกกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อรับมือคู่แข่ง และกับสภาพตลาดที่ผันผวนตลอด อาจจะต้องมีการคาดคะเนล่วงหน้า โดยใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมา เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด และปีนี้จะมีรถรุ่นใหม่ๆออกมาเยอะ เราหวังบุกตลาดหนักในปีนี้ จุดขายเราจะเน้นที่โปรโมชั่นจะมีแคมเปญใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้มีโปรโมชั่นเด็ด 2 โปรโมชั่น โดยโปรโมชั่นแรกเมื่อออกรถ Porsche ให้วารันตี 9 ปี/100,000 ก.ม. และโปรโมชั่นต่อมาเมื่อออกรถโตโยต้า Vellfire, Alphard, Harrier ให้วารันตี 5 ปี/100,000 ก.ม. ซึ่งโปรโมชั่นนี้น่าจะถูกใจลูกค้าอย่างมาก ส่วนภาพรวมของวงการตลาดนำเข้าอิสระ(Grey market) ในตอนนี้มีการหดตัวมากกว่า 2-3 ปีก่อน กว่า 50% แต่ก็แลกมากับการแข่งขันที่ลดลง ซึ่งหากจะมองว่าดีก็ดี เป็นตัวคัดกรองและตอกย้ำว่าผู้ประกอบการตัวจริงเท่านั้นที่จะอยู่รอดในตลาดนี้ได้ เรื่องมูลค่าธุรกิจตอนนี้เราใช้เงินหมุนเวียนประมาณ 200 ล้านบาท งบการตลาดอยู่ที่ 4-5 ล้านบาท เน้นรถนำเข้ายุโรป 70% รถญี่ปุ่น 30% รายได้รวมแบ่งเป็น ยูนีควัน (เลือกสเปคตามที่ลูกค้าต้องการ) 40% ,รถในสต็อคมีสินค้าเลย 40%,ศูนย์เซอร์วิสซ่อมบริการหลังการขาย 20% ฐานลูกค้าอยู่ที่ 1,500 ราย ช่วงต้นปีที่ผ่านมาอยู่ในช่วงขาขึ้น ค่อยๆ ดีขึ้นไม่ได้แบบก้าวกระโดด แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจประเทศโดยรวมเป็นหลัก” นายจักรกฤติ กล่าวทิ้งท้าย