ยิปรอค ตอกย้ำความยิ่งใหญ่ ครบรอบ 350 ปีแซง-โกแบ็ง มุ่งสานสัมพันธ์พันธมิตรกัมพูชา ขยายธุรกิจ พร้อมรับการเติบโตเออีซี

Jpeg

(จากซ้าย) ลาดา เย็ม, ประธานบริหารบริษัทโกลบอล แคมสตาร์ จำกัด (จีซีเอส), พินน์นรา ณ ระนอง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน), คัง เล็ง ประธานบริหารบริษัทไอเอสไอ สตีล จำกัด, ริชาร์ด จูเชรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) และ กุน ซัง อัง ประธานบริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ประจำประเทศกัมพูชา

 

กรุงเทพฯ – เมื่อเร็วๆนี้ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตนวัตกรรมยิปซัมคุณภาพสูงภายใต้

แบรนด์ “ยิปรอค” ยอดขายแผ่นยิปซัมอันดับหนึ่งของโลก  และผู้ให้บริการโซลูชั่นส์ระบบผนังและฝ้าครบวงจรมากว่า 45 ปี และเป็นหนึ่งในบริษัทของเครือแซง-โกแบ็ง เครือบริษัทผู้ผลิตวัสดุก่อสร้างจากประเทศฝรั่งเศสรายใหญ่ของโลก ซึ่งดำเนินงานมาครบรอบ 350 ปี ในปีนี้ ประกาศการบุกตลาดกัมพูชาอย่างเป็นทางการ โดยมุ่งเน้นการสร้างสัมพันธ์อันดีกับพันธมิตรบริษัทนำเข้าในกัมพูชาเป็นตัวกลางในการกระจายสินค้าสู่ร้านค้าต่างๆ ภายในประเทศ ล่าสุด ยังได้รับความไว้วางใจจากพันธมิตรบริษัทโกลบอล แคมสตาร์ จำกัด (จีซีเอส)  หนึ่งในบริษัทภายใต้เครือไอเอสไอ สตีล กลุ่มธุรกิจการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในกัมพูชา ให้แบรนด์ยิปรอคของไทยเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท เพื่อกระจายสู่ร้านค้าท้องถิ่นกว่า 300 ร้านค้าในเครือข่าย และผู้รับเหมากว่า 100 รายทั่วประเทศ โดยยิปรอคจะมุ่งหน้าเจาะตลาดกัมพูชา อย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีนี้

 

ริชาร์ด จูเชรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ยิปรอค คือตราสินค้าที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก อย่างไรก็ดี เราก็มองหาโอกาสการขยายตลาดและการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีประเทศไทยซึ่งยิปรอคภูมิใจในความสำเร็จ เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าสู่ประเทศเขตพรหมแดนโดยรอบ โดยกัมพูชาเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจอาเซียนที่มีความโดดเด่น และดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภายในสองสามปีที่ผ่านมา ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเห็นได้ชัด และมีการคาดการณ์เศรษฐกิจของกัมพูชาในการขยายตัวกว่า 7.2% ในปี 2557 และขยายตัวขึ้นเป็น 7.5% ในปี 2558”

 

“ยิปรอครู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจจากไอเอสไอ โดยจะให้คำมั่นสัญญา ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ร้านค้าในเครือของไอเอสไอ รวมถึงการการันตีในมิตรภาพและผลประโยชน์ที่ยิปรอค และเครือแซง-โกแบ็งจะมอบให้แก่พันธมิตรทุกราย แบรนด์ยิปรอคได้รับการยอมรับมากกว่า 116 ปี รวมถึงการอยู่ภายใต้การดำเนินการของเครือแซง-โกแบ็ง ที่มีการดำเนินงานมากกว่า 350 ปี ร้านค้าทุกรายสามารถมั่นใจได้อย่างเต็มที่ ถึงการดำเนินธุรกิจอย่างมืออาชีพของเรา” คุณริชาร์ดกล่าวเพิ่มเติม

 

คัง เล็ง ประธานบริหาร, บริษัทไอเอสไอ สตีล กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์ยิปรอค ซึ่งมีชื่อเสียงในเชิงผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพระดับโลก บริษัทไอเอสไอ ก่อตั้งในปี 2540 และเป็นผู้บุกเบิกในการผลิตแผ่นหลังคาสังกะสี ในกัมพูชา เรามีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า โดยผลิตภัณฑ์ยิปรอค สามารถสะท้อนถึงการใส่ใจได้เป็นอย่างดี ถึงกระบวนการคัดสรรของไอเอสไอ ในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ที่นำเสนอต่อลูกค้าของเรา”

 

ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มมีการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในปี 2557 ที่ผ่านมา มีการเพิ่มจำนวนสาขายิปรอค เซ็นเตอร์ และยิปรอค โซน รวมไปถึง โกดังสินค้า เพื่อเพิ่มขีดจำกัดความสามารถในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ตามความต้องการที่คาดการณ์ว่าจะเพื่มสูงขึ้น เมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 นี้

 

ข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://www.gyproc.co.th/, https://www.facebook.com/GyprocClub หรือ http://www.saint-gobain-gyproc.com

###

 

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2511 โดยเป็นบริษัทแรกที่ดำเนินการผลิตแผ่นยิปซัมและปูนปลาสเตอร์ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ของไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วเมืองไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ปัจจุบันมีโรงงานรองรับการผลิต 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม นำเสนอสินค้าและการบริการครบวงจร ครอบคลุมทั้งแผ่นยิปซัม ฝ้าเพดาน ระบบโครงสร้าง และปูนปลาสเตอร์ พร้อมโซลูชั่นในการตกแต่งอาคารสำหรับผู้ใช้

 

ด้วยการตระหนักถึงความสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม บริษัทจึงยึดมั่นการดำเนินงานภายใต้แนวคิดยิปรอค 3G  ได้แก่ Green Products ด้วยมาตรฐาน ASTM D5116-90 จึงรับประกันว่าผลิตภัณฑ์มีการแพร่กระจายของสารเคมีในระดับต่ำ ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่น้อยกว่า 30% และปราศจากสารกัมมันตรังสีหรือสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ Green Solutions  นำเสนอระบบผนังและฝ้าเพดานแบบประหยัดพลังงาน อาทิ โซลูชั่นเทอร์มัล ที่สามารถป้องกันความร้อนจากภายนอกแพร่เข้าสู่ภายในอาคาร จึงช่วยลดภาระของเครื่องปรับอากาศและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ และ Green Manufacturing เน้นกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทุกขั้นตอน พร้อมติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัยและระบบประหยัดพลังงานประสิทธิภาพสูง รับรองด้วยมาตรฐาน ISO 14001 และ ผลิตภัณฑ์ฉลากสีเขียว (Green Label)

 

เกี่ยวกับ แซง-โกแบ็ง ( Saint-Gobain )

บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแซง-โกแบ็ง เครือบริษัทการผลิตโครงสร้างอาคารรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญระดับสูงในการออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ตรงกลุ่มผู้บริโภคทั้งในวงการอุตสาหกรรม และกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป โดยบริษัทได้ลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ ต่อต้านแบคทีเรีย มีความสวยงามและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ในขณะที่ผู้ใช้สามารถติดตั้งผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย ช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มสวัสดิภาพในการปฏิบัติงาน

 

แซง-โกแบ็ง ดำเนินงาน 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มนวัตกรรมกระจกแผ่นเรียบ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มการจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ปัจจุบัน แซง-โกแบ็ง ดำเนินธุรกิจมาแล้วกว่า 350 ปี และมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญกว่า 190,000 คนทั่วโลก ซึ่งสามารถยืนยันถึงความชำนาญการ และการนำเสนอโซลูชั่น ที่สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว โดยไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มอยู่ในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างของแซง-โกแบ็ง ซึ่งแผ่นยิปซัมของบริษัทเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตภายใต้กระบวนการ การตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 และ ISO 14001:2004 โดยสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดรายใหญ่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมายาวนานกว่า 40 ปี