คอลัมน์ คุยกับดาว
เรื่อง – อนันต์ ธัญญ์รัตน์ / ภาพ – วิวิศน์วรดร จันทรวงศ์

“มิน-ธิติพัฒน์ ผูกบุญเชิด” เพียงแค่ชื่อก็ทำให้รู้ว่าหนุ่มน้อย น่ารัก บุคลิกสดใส ดูเหมาะสมกับวัยผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือหนึ่งในนักแสดงจากละครซีรีส์ “Love Sick Season 2” ด้วยบุคลิกที่โดดเด่น บวกกับความกล้าแสดงออกตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เขากลายเป็นอีกหนึ่งนักแสดงรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองทีเดียว เช่นเดียวกับ “นะ-นะเพียร เพิ่มสมบัติ” ที่ประเดิมความสามารถด้านการแสดงครั้งแรกในชีวิตกับบทบาทของ โอม ประกบคู่กับ มิก จนเป็นที่ชื่นชอบของสาวเลือดวายน้อยใหญ่ วันนี้ คุยกับดาว นัดพบ 2 หนุ่มหน้าใสวัยละอ่อนคู่นี้

มินมาในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์ ดูขี้เล่น แสบซน มองเผินๆ เขามีหน้าตาน่ารักละม้ายคล้าย “ฟลุ๊ค-พงศธร” แต่ในบางมุมก็เหมือน “แบงค์-ธิติ” ราวกับคลานตามกันมา ในขณะที่ชายหนุ่มรูปร่างสันทัด บุคลิกมาดมั่นอย่างนะ ปรากฎตัวในชุดเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มซึ่งค่อนข้างกลมกลืนกับสีผิว เพราะเป็นการนัดคุยกันอย่างกระทันหัน ทำให้ทั้งสองไม่มีเวลาเตรียมตัวเท่าไหร่นัก แต่พวกเขาก็ยังส่งยิ้มหวานให้กันอย่างไม่ขาดสาย ในเวลานี้พวกเขาสองคนเปรียบเสมือน กาแฟ-น้ำตาล ที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืน หลายคนอาจเคยเห็นพวกเขาโลดแล่นผ่านหน้าจอโทรทัศน์กันมาบ้างแล้ว แต่วันนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับตัวตนของพวกเขามากขึ้น

 

“ตอนเวิร์คช็อปคู่กันเพื่อหาตัวละคร ต้องเจอหลายคนมาก แต่พอเห็นพี่นะก็โอเค ไม่ได้รู้สึกว่าแอนตี้” มินเริ่มต้นเล่าถึงความรู้สึกที่เขาได้เจอนะเป็นครั้งแรก
“ตอนแรกก็รู้สึกว่า ทำไมไอ้นี่หน้าหล่อ หน้าหวานจังว้า แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรจนได้มาเข้าบทคู่กัน ก็คิด… (หัวเราะ) ว่าน้องก็เก่งดีครับ” นะเสริมพร้อมเย้าแหย่มินไปพลาง

เมื่อพูดถึงความหลังกันแล้ว นะจึงไม่ลืมเล่าถึงน้องชายสุดรักที่เมื่อก่อนเป็นคนนิ่งๆ ไม่กล้าเข้ามาพูดคุย จนเขาต้องเป็นฝ่ายรุกเข้าหา “ตั้งแต่เวิร์คช็อปรอบหลังๆ ที่คนเหลือน้อย ทำให้มีโอกาสได้คุยกันมากขึ้น ได้เล่นหยอกล้อ จนเริ่มสนิทกันครับ ช่วงแรกมินอาจจะเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่ตอนนี้พูดมากเป็นกบเลย (หัวเราะ)”
“ทำให้รู้ว่าพี่นะเป็นคนตลกครับ” มินโพล่งขึ้นทันทีที่สิ้นเสียงนะ

อาจจะด้วยอิทธิพลของละครทำให้การมองแวบแรกคิดสงสัยในความสัมพันธ์ของสองหนุ่ม แต่พวกเขาบอกว่า “พวกเราไม่ได้สนใจว่ามันจะเป็นยังไง คิดเพียงแค่ว่าทำตรงนี้ให้ดีที่สุด มันอยู่ที่หลายๆ อย่างด้วย ไม่ใช่ว่าพวกผมเล่นดีอย่างเดียว มันอยู่ที่บท ผู้กำกับ ทีมงาน ทุกอย่างมันเป็นองค์ประกอบที่ทำให้เกิดซีรีส์เรื่องนี้ ตอนนี้เรตติ้งดีขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ถ้าในอนาคตดีกว่านี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีฮะ”

ด้วยความที่ต้องรับบท ชาย-ชาย ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้และมองเห็นความแตกต่างของบทบาทอื่น และนั่นก็เป็นประสบการณ์ที่ทำให้พวกเขานำมาปรับใช้กับตัวเอง จนทำให้แฟนละครอินกับบทบาทของทั้งสอง
นะ “เวลาเอาจมูกชนกัน แรกๆ ก็รู้สึกจั๊กกะเดียม จนทำไม่ได้ (หัวเราะ) แต่ก็ต้องคิดว่าน้องเขาเป็นผู้หญิงสักคนหนึ่งที่ผมชอบ ทำให้เราอยากเอาหน้าเข้าไปใกล้ แต่พอลืมตาเจอมินก็…”
มิน “ก็ผู้ชายกับผู้ชาย ตอนที่เอาหน้าเข้าใกล้กันก็จะหลับตาตลอด พอพี่ผู้กำกับสั่งคัทเท่านั้นแหล่ะ (หัวเราะ)”

“ไม่หลายเทคนะ” มินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ ก่อนที่จะเน้นเสียงอย่างจริงจังว่า “ด้วยความที่ไม่ใช่ด้วยกันทั้งคู่ ให้เล่นมาจากอินเนอร์มันก็คงไม่ได้” “ส่วนใหญ่ก็จะเป็นฉากที่เอาถุงเท้ายัดจมูก เอาผ้าที่เช็ดพื้นมาปิดหัวผม แต่ภาพเหล่านั้นก็ไม่ได้ออกอากาศ เพราะว่าเวลาตัดต่อไม่พอ แต่ก็อาจจะได้ติดตามชมแบบในเวอร์ชั่น Uncut” นะพูดเสริม

แม้จะต้องเข้าฉากหวานซึ้งด้วยกันบ่อยครั้ง แต่ก็มีซีนที่อารมณ์พาไปด้วยเหมือนกัน “ส่วนมากจะเป็นซีนอารมณ์โกรธฮะ วันที่เล่นซีนที่สอนฮอร์นมิก โกรธที่ทำไมทำไม่ได้สักที ตอนนั้นความจริงซีนอารมณ์มากๆ เลยนะ ผมดุมากจนน้องมินร้องไห้เลย เสียดายที่ในซีรีส์ตัดออกมานิดเดียว”

อาจเป็นเพราะช่วงวัยที่ใกล้เคียงกันทำให้เคมีของทั้งคู่เข้ากันได้เป็นอย่างดี แต่ผมไม่แน่ใจว่าสองหนุ่มตรงหน้าผมนี้จะคิดว่าคู่ของตัวเองต่างจากคู่ของคนอื่นอย่างไร “คู่เราจะเป็นอารมณ์พี่น้องต่างวัย แต่คู่อื่นจะเป็นอารมณ์เพื่อนวัยเดียวกัน และก็ในเรื่องผมค่อนข้างทำตัวดุปากแข็งแต่แอบปลื้มอยู่ ส่วนน้องเขาจะอ่อยแบบนิ่มๆ” นะกล่าวอย่างอารมณ์ดี

เห็นสองหนุ่มทำงานอยู่ด้วยกันมาเกือบครึ่งปีจนค่อนข้างสนิทกันแบบนี้ ก็เลยอดถามไม่ได้ว่าพวกเขาจะมีวีรกรรมเจ๋ง ๆ กันบ้างไหม
นะ “น้องมินในบทจะดูน่ารักใสๆ เรียบร้อย ซึมๆ แต่ในชีวิตจริงจะเป็นตัวแสบเลย เรียกว่าเป็นเด็กบ้าพลังกระตือรือร้นคนนึงเลยฮะ คาแรคเตอร์ขัดกับมิกในตัวละครเลย ตัวจริงค่อนข้างซน พูดมาก เอาแต่ใจตัวเอง ส่วนใหญ่ผมจะโดนแกล้งฮะ เพราะผมจะค่อนข้างหลับบ่อย ถึงกองหลับตลอด จะโดนแกล้งประจำเลย แล้วน้องก็ชอบแย่งของกิน เวลาแฟนคลับเอาของมาให้แล้วน้องเขาจะขอกินก่อน แต่ถ้าแสบกว่านี้ไว้คิดออกแล้วค่อยบอกล่ะกันเนอะ”
มิน “พี่นะในซีรีส์กับชีวิตจริงจะเป็นคนเดียวกัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นดุเหมือนในซีรีส์ คือพี่นะเป็นตัวพี่นะ เป็นคนตลก กวนๆ นิดหน่อย อยู่ด้วยแล้วตลกดี”

ขึ้นชื่อว่าวัยรุ่นมักมาคู่กับปัญหาและความรัก ทำให้ทั้งสองมีเรื่องต้องปรับทุกข์กันอยู่บ่อยครั้ง สองหนุ่มหันมามองหน้ากัน ก่อนจะเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขว่า
นะ “เรื่องความรักส่วนมากก็จะรู้กันอยู่แล้วครับ แต่ละคนมีอะไรก็จะแซวๆ กัน แต่ถ้าปรึกษากันส่วนมากจะเป็นเรื่องครอบครัว เวลามีเรื่องไม่สบายใจถ้าได้คุยกับน้องก็ทำให้สบายใจขึ้นครับ เพราะค่อนข้างจะเข้าใจกัน ดีกว่าไปคุยกับคนอื่น อย่างน้อยคุยกันรู้กันแค่สองคน ไม่ได้ออกไปหาใคร ก็ถือว่าเป็นน้องที่ไว้ใจได้คนหนึ่ง”
มิน “แต่ช่วงนี้ก็มีเรื่องให้คุยเยอะเหมือนกัน หลายๆ อย่างเข้ามาพร้อมกัน เจอเหตุการณ์เดียวกัน”

มุมรักมุมลับ พอยิงคำถามเรื่องลับของกันและกัน หนุ่มมินถึงกลับนิ่งไปนาน ไม่แน่ใจว่ากำลังคิดถึงเรื่องในละครหรือเปล่า เอ๊ะ! หรือเขาจะเด็กเกินไปกับคำถาม ทำให้ผมต้องย้อนถามตัวเองอีกครั้ง แต่ด้วยความใกล้ชิดเป็นเหตุ ในวัยนี้ก็คงต้องมีเรื่องประทับใจกันบ้างล่ะ
มิน “พี่นะก็เป็นพี่ที่ไม่ค่อยซีเรียส มีอะไรก็เข้าไปคุยได้ตลอด ตอนนั้นก็ยังไม่สนิทกัน แต่ช่วงนี้มีอะไรก็จะบ่นให้ฟัง”
นะ “สำหรับผมที่เข้ามาผมแบบไม่มีอะไรเลย เข้ามาด้วยอะไรก็ไม่รู้ แต่ว่าน้องมินค่อนข้างดังมาตั้งแต่แรกแล้ว ก็แอบหวั่นเหมือนกันว่าเขาจะหยิ่งใส่เราหรือเปล่า ผมเข้าไปคุยด้วยน้องก็โต้ตอบกลับ ก็เลยรู้สึกว่าน้องเขาไม่หยิ่งใส่ผมเลย ไม่ได้ถือตัวว่าตัวเองมีชื่อเสียงแล้วหยิ่ง เป็นความประทับใจแรกของผมที่มีต่อน้องเลยครับ”

จากเรื่องความประทับใจ มาเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัวของสองหนุ่มกันบ้าง จะมีใครสักกี่คนรู้ว่าพวกเขาวาดฝันถึงคนที่จะมาเป็นแฟนของกันและกันไว้แล้ว…
มิน “ถ้าไม่สวยก็น่ารัก น่าจะผมยาวไม่สั้น รุ่นราวคราวเดียวกัน”
นะ “ผมว่าต้องเป็นคนที่ค่อนข้างใจกว้างนะ ต้องค่อนข้างเข้าใจในตัวน้องมินพอสมควร เพราะว่าตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาน้องมินจะเป็นคนที่มีเรื่องไม่สบายใจเยอะ แต่ว่าแอบเก็บไว้ไม่บอกให้ใครรู้ ถ้าเกิดไม่สนิทกันน้องก็จะไม่พูดไม่ระบายให้ฟัง ผมว่าต้องเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะเข้าใจน้องมิน ส่วนเรื่องสเปคต้องน่ารักอยู่แล้วล่ะ น้องมินเบ้าหน้าขนาดนี้แฟนก็ต้องน่ารักเป็นธรรมดาฮะ แต่อย่าลืมหาเพื่อนแฟนให้พี่สักสองสามคนนะ (หัวเราะ)”

รับบทเป็น มิก หนุ่มน้อยน่าทะนุถนอม ที่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของ โอม หนุ่มอารมณ์ดีแต่ปากแข็ง ในบทบาทของพี่-น้อง ที่แสดงออกมาให้แฟนละครอินกับบทถึงขนาดอยากให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นเหมือนในละคร!? สองหนุ่มออกอาการขำเล็กๆ เมื่อพูดถึงกระแสละครในบทบาทของ โอม-มิก แล้วบอกว่า “มันก็ค่อนข้างเหมือนในชีวิตจริง เพราะเราก็เป็นพี่น้องที่ค่อนข้างสนิทกัน คุยกันได้ พอเข้าไปในเรื่องก็ยังเป็นพี่น้องกันอีก มันก็อาจจะทำให้ช่วยส่งเรื่องการแสดง ผลงานที่ออกมาก็น่าพอใจ ดีใจที่ได้เล่นคู่กัน ไม่นึกว่าจะมาได้ถึงตรงนี้ ในเรื่องก็มีหลายคู่มากเลย เราก็ถือเป็นตัวประกอบ ก็ดีใจที่ถูกหยิบยกขึ้นมาให้ความสนใจกัน”

คอยตามดูแลน้องเขาเหมือนในละครไหม? ผมถามหนุ่มนะ.. “ไม่เชิงดูแล เป็นห่วงมากกว่า จะคอยถามว่าอยู่ไหนแล้ว อะไรไม่ดีก็มีเตือนกันบ้าง มีให้คำแนะนำบ้าง ผมเป็นรุ่นพี่มาก่อน ปัญหาที่น้องเคยเจอ ผมก็เคยผ่านมาหมดแล้วครับ”

สุดท้ายนี้มีอะไรอยากฝากถึงกันบ้างไหม
มิน “ขอให้เป็นพี่ที่ดีอย่างนี้ไปนานๆ นะครับ เพราะพี่ก็เป็นพี่ชายของผมคนหนึ่ง ผมรักพี่นะ”
นะ “ของพี่ก็ดีใจนะ ที่มินเข้ามารู้จักพี่ ถือเป็นน้องรักของพี่คนหนึ่ง ที่มีอะไรก็คุยกันได้ ปรึกษากันได้ ขอให้ในบางเรื่องที่เคยเตือนไปแล้ว ก็เอาไปใช้ด้วย มาอยู่ด้วยกันขนาดนี้ก็อยากจะให้เติบโตไปด้วยกัน น้องมินของผมเป็นเด็กน่ารักฮะ ยังไงก็ฝากทุกคนคอยให้กำลังใจ คอยติดตามน้องเขาด้วยนะครับ”

ติดตามชมเรื่องราวอัพเดทสุดชิคของดาราสุดแซ่บแบบนี้ได้ที่ คอลัมน์: คุยกับดาว น้องๆ คนไหนที่อยากอัพเดทเรื่องราวของศิลปินดาราสุดที่รักของคุณแบบนี้ ส่งมาได้ที่ startalk@prsociety.net หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.prsociety.net และ www.facebook.com/PRSocietyNews