คอลัมน์ คุยกับดาว
เรื่อง – อนันต์ ธัญญ์รัตน์ / ภาพ – วิวิศน์วรดร จันทรวงศ์
เวลาจะรักใครสักคน คุณตัดสินจากอะไร? รูปร่าง หน้าตา เงินทอง หรือความเข้ากันได้ แต่ละคนอาจให้เหตุผลต่างกันไปขึ้นอยู่กับความชอบซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล แต่ยังมีรสนิยมบางอย่างที่อีกหลายคนในสังคมไม่เข้าใจและไม่พร้อมยอมรับ นั่นคือกลุ่มคนที่ชอบเพศเดียวกัน วันนี้ “กัปตัน-ชลธร คงยิ่งยง” มาเปิดใจให้ได้รู้จักตัวตนของเขาและเผยมุมมองความรักแบบชายรักชายให้คนทั้งประเทศได้เข้าใจ ในฐานะที่เขาเคยมีประสบการณ์ประกบริมฝีปากกับผู้ชายมาแล้ว!
อย่าเพิ่งตกใจไป ที่บอกว่าหนุ่มน้อยหน้าใสคนนี้เคยจูบผู้ชายมาแล้ว เป็นเพียงฉากหนึ่งในละครซีรีส์เรื่อง “Love Sick รักวุ่นวัยรุ่นแสบ” เท่านั้น หากใครได้ดูมาแล้ว คงรู้ว่าละครซีรีส์เรื่องนี้พูดถึงเรื่องราวของนักเรียนชายที่รักกันเกินเพื่อน หรือจะเรียกว่าเป็นละครชายรักชายเต็มรูปแบบเรื่องแรกของประเทศไทยก็คงไม่ผิดนัก เพราะก่อนหน้านี้มีหลายเรื่องพยายามหยิบประเด็นชายรักชายมาเล่น แต่สุดท้ายก็นำเสนอได้เพียงผิวๆ แตกต่างจากเรื่องนี้ที่เปิดตัวแรงตั้งแต่แรกอีกทั้งยังออกอากาศทางฟรีทีวี จนเรียกเสียงฮือฮาจากสาวกรักเพศเดียวกันมาแล้วในซีซั่นแรก
หากเทียบกับ “รักแห่งสยาม” หนังชายรักชายเรื่องแรกที่สร้างแรงกระเพื่อมระลอกใหญ่ในสังคมมาก่อนหน้า หลายคนมองว่าครั้งนี้อาจเป็นปรากฏการณ์อีกระลอกที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะพระเอกของเรื่องอย่าง กัปตัน-ชลธร เขามีสิทธิ์โด่งดังเป็นพลุแตกจากบทโน่ เช่นเดียวกับที่มาริโอ้ เมาเร่อ กลายเป็นพระเอกหนุ่มสุดฮอตจากการเล่นบทเกย์มาแล้ว ก่อนหน้านี้กัปตันเป็นเพียงเด็กนักเรียนที่มุ่งมั่นกับการเรียนและกีฬา กระทั่งมีผลงานละครซีรีส์เรื่องนี้เองจุดประกายให้ผมอยากรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขามากยิ่งขึ้น อยากรู้จริงๆ ว่าอะไรทำให้หนุ่มตี๋หน้าหล่อคนนี้ยอมรับเล่นละครที่สุ่มเสี่ยงต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมเช่นนี้อีกครั้ง หลังจากที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานประกาศรางวัลสยามดารา สตาร์ อวอดส์ 2015 คนที่จะให้คำตอบแก่ผมได้ก็ปรากฏตัวขึ้น
“สวัสดีครับ” หนุ่มหน้าหล่อผมสั้นเกรียนในชุดสูทขาวดำราวกับม้าลายเป็นผู้เริ่มต้นบทสนทนา คนที่ติดตามผลงานของกัปตันมาบ้าง ส่วนใหญ่จะคุ้นชินกับภาพโน่ในละคร ทำให้หลายคนติดภาพไปว่าบุคลิกดังกล่าวคือตัวตนที่แท้จริง ผมเองก็เคยเชื่อแบบนั้นจนกระทั่งได้มาพูดคุยกันอย่างจริงจัง กัปตันไม่ใช่หนุ่มบ้องแบ๊วแก้มป่องขี้เล่นอย่างที่คิดไว้ทั้งหมด บางช่วงบางตอนก็ดูร่าเริงแต่แฝงด้วยอารมณ์เหงา ผมชักไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนอย่างไรกันแน่ ดูเหมือนว่าเขาคนนี้จะมีหลายมิติให้ค้นหาจริงๆ ว่าแล้วก็ไม่รอช้า เริ่มทำความรู้จักกับมิติแรกของเขากันเลย
เพราะเขาคือ “นักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดในขณะนี้” จึงไม่อาจปล่อยให้เขาผ่านไปได้ ถ้าเป็นดาราหน้าใหม่คนอื่นผมมักตั้งคำถามว่า อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำงานในวงการ แต่สำหรับพระเอกหนุ่มที่พูดไม่ค่อยชัดคนนี้ต้องถามว่า “พูดไม่ชัดแบบนี้ ทำไมถึงคิดว่าจะเข้าวงการได้” เป็นที่รู้กันอยู่ว่าวงการบันเทิงบ้านเราในปัจจุบันนอกจากรูปร่างหน้าตาจะผ่านแล้ว แต่บุคลิกไม่ได้ บางครั้งก็หมดสิทธิ์ กัปตันยิ้มรับคำถามของผมด้วยความเข้าใจก่อนให้คำตอบว่า “ตอนแรกก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะต้องมาทำงานที่ต้องใช้ทักษะในการพูด ต้องขอบคุณทางผู้ใหญ่ที่ให้โอกาส เรื่องพูดไม่ชัดก็พยายามฝึกฝนอยู่ครับ ถ้าเอาเหล็กดัดฟันออกแล้วก็อาจจะพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ” พระเอกหนุ่มยิ้มละไมอย่างไม่ทุกข์ร้อน
เคล็ดลับที่ทำให้อาการพูดไม่ชัด เป็นอุปสรรคในการทำงานน้อยที่สุด กัปตันบอกว่าเขาเชื่อว่าการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ “เวลาไปออกงานก็มักจะโดนติงเรื่องการพูดไม่ชัด ผมก็พยายามฝึกฝนแก้ไขอยู่ครับ อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย แต่ก็จะพยายามให้ดีที่สุดครับ” หนุ่มหน้าตี๋พูดด้วยแววตามุ่งมั่น
จะว่าไปแล้วการที่กัปตันพูดไม่ค่อยชัดก็ถือเป็นเรื่องดีเหมือนกัน ถึงแม้จะถูกใครๆ หยิบเอามาล้อเลียนอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็เลือกใช้เป็นกำแพงที่ต้องข้ามผ่านไปให้ได้ ทั้งยังคิดว่าตัวเองโชคดีที่มีผู้ใหญ่มอบโอกาสในวงการให้เขาเสมอๆ “โดนล้อประจำเลยครับ” เขาเอ่ยพลางหัวเราะ “ก็แอบนอยด์นิดนึง อย่างเพลงขอร้อง มีแต่คนล้อว่า ‘เหมือนหัวไทร’ ตอนนี้ก็เริ่มปรับปรุงเป็น ‘เหมือนหัวใจ’ ได้แล้ว (หัวเราะ) ถือว่าเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ แต่ผมว่าผมเป็นคนโชคดีนะ ที่ยังมีคนต้องการเราไปร่วมงาน คิดว่าตัวเองเป็นคนโชคดีมากครับ” กัปตันยิ้มใสๆ ตบท้าย
คนทั่วไปอาจมองว่านักแสดงกับดาราคือสิ่งเดียวกัน แต่กัปตันบอกว่าสองอย่างนี้มีความเหมือนที่แตกต่างกัน เมื่อถามกันแบบตรงๆ ว่าตอนนี้เป็นดาราหรือนักแสดง พระเอกหนุ่มก็ตอบไม่อ้อมค้อมว่า “เป็นนักแสดงครับ ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องมีชื่อเสียงเหมือนอย่างคนอื่นเขา คำว่าดาราจึงไม่น่าเหมาะกับตัวผมเท่าไหร่ แฟนๆ บอกว่าเขามีความสุขเวลาเห็นผมอยู่ในจอทีวี ก็อยากมอบความสุขให้พวกเขาอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ครับ” กัปตันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
อายไหมเวลาถูกทักว่าหน้าหวาน? เมื่อผมโยนคำถามออกไป หนุ่มแก้มอูมก็ตอบกลับมาด้วยท่าทีเขินอายเล็กน้อย “นิดนึงครับ มันก็เป็นเอกลักษณ์ของเราเนอะ แต่จริงๆ แล้ว ผมก็มีมุมหล่อ มุมเท่ห์ เหมือนกันนะ แต่ไม่รู้ว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงมองข้ามตรงจุดนี้ไป (หัวเราะ)”
การรับบทพระเอกในผลงานละครชายรักชายเรื่องนี้จึงอาจเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับเขา ถามว่าคาดหวังไว้แค่ไหนว่าบทละครจะช่วยส่งให้ตัวเองดังมากขึ้น กัปตันตอบว่าเขาไม่เคยคิดเรื่องชื่อเสียงมาก่อน เพราะตอนตัดสินใจรับเล่น คาแรคเตอร์ของเขาตรงกับบทนี้พอดี “ถือว่าเป็นจุดเริ่มของผมในวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้ ต้องขอบคุณทีมงานและแฟนคลับทุกคน ถ้าไม่มีทุกคนก็คงไม่มีผมในวันนี้ครับ”
นอกจากหัวใจที่ลุ่มหลงไปกับการแสดง งานทุกชิ้นที่เลือกทำ กัปตันสนใจเรื่องประสบการณ์ที่จะได้รับมากกว่าเรื่องชื่อเสียงและค่าตอบแทน เขาบอกว่าการทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับงานทำให้ได้ประสบการณ์ที่คุ้มค่ายิ่งกว่าสิ่งใด “ประสบการณ์ก็เหมือนการต่อยอดเราในอนาคตครับ ตอนนี้ผมอาจจะยังไม่ค่อยมีประสบการณ์เท่าไหร่ ต้องเก็บเกี่ยวชั่วโมงบินไปเรื่อยๆ แต่ก็จะทำให้ดีที่สุดครับ”
เห็นเป็นหนุ่มตี๋หน้าหวานแก้มอูมแบบนี้ ขอบอกว่ากัปตันมีมุมมองความรักที่ไม่ผิดแปลกไปจากรูปลักษณ์เลยทีเดียว เพราะเจ้าตัวยอมรับเองว่า “ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ อาจจะมีอุปสรรคหรือเรื่องราวต่างๆ เข้ามาทำให้เราสมหวังหรือผิดหวังกันบ้าง แต่ก็ยังเป็นสิ่งสวยงามอยู่ตลอดครับ”
เมื่อถามกันตรงๆ ว่าตั้งเกณฑ์ไว้ขนาดไหน หนุ่มกัปตันก็ตอบไม่อ้อมค้อมว่า “ขอให้คนที่รักเข้าใจในตัวเรา ชอบในสิ่งที่เป็นตัวเรา เท่านี้ก็พอแล้วครับ” เขาตอบคำถามของผมด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแบบไม่ต้องเสียเวลาหยุดคิด และเมื่อผมยิงคำถามต่อว่า ชาย หรือ หญิง? พระเอกหนุ่มยิ้มพร้อมกับหัวเราะอย่างมีเลศนัย “เดี๋ยวก็รู้”
สาวคนไหนมีคุณสมบัติตรงกับที่กำหนดและกำลังเตรียมตัวก้าวเท้าเข้ามาสมัครเป็นแฟน ขอเตือนให้ทำใจรับความผิดหวังเอาไว้ก่อน เพราะกัปตันบอกว่า “ให้คำตอบทันทีเลยก็คงไม่ได้ ก็ต้องดูกันต่อไปเรื่อยๆ ครับ บางคนทุกอย่างพร้อมแต่ยังไม่ใช่ก็มีเหมือนกัน คงต้องดูกันยาวๆ ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ”
ถ้านึกภาพว่าวันนี้เขามีแฟนเป็นคนขี้หึง เขาพอจะรับได้ไหม? ซึ่งคำตอบที่ได้มาช่างน่าฉงน “ขอเป็นคนที่คุยง่าย สบายๆ ล่ะกันครับ ยิ่งเล่นละครต้องแตะเนื้อต้องตัวกันบ่อย ถ้าเป็นคนขี้หึงเดี๋ยวจะลำบากใจกันทั้งสองฝ่ายครับ” กัปตันพูดกับผมตรงๆ อย่างไม่ปิดบัง
ตกลงไม่ได้เป็นจริงๆ ใช่ไหม? ผมถามให้แน่ใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่าพระเอกหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผ่านฉากจูบผู้ชายด้วยกันมาแล้วถึงสองซีซั่น กัปตันส่งภาษากายกลับมาด้วยการส่ายหน้า ถึงแม้ว่าในซีซั่นแรกจะไม่ได้จูบกันอย่างดูดดื่มและซีซั่นสองก็ยังไม่เห็นชัดเจน แต่อย่างน้อยก็ยังมีฉากที่ก็ทำให้ใครหลายคนอินกับบทบาทของเขาได้ไม่น้อย เล่นละครแบบนี้ติดต่อกัน ไม่กลัวคนติดภาพว่าเป็นเกย์จริงๆ หรือ? ผมถามคำถามที่เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้ กัปตันยิ้มอย่างสบายๆ ก่อนตอบว่า “มีหลายคนเข้ามาถามว่าตกลงเป็นเกย์ใช่ไหม หรือบางทีก็มีผู้ชายเข้ามาจีบเลย (หัวเราะ) แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องดีนะ ถือว่าเป็นความสำเร็จของเราที่ทำให้เขาเชื่อแบบนั้นจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะจดจำภาพเราในบทบาทของโน่ อย่างน้อยเขาก็ยังจำเราได้ เพียงเท่านี้ก็ถือว่าโอเคแล้วครับ”
เมื่อชีวิตจริงไม่เคยชอบผู้ชายแต่ต้องแสดงความรู้สึกว่ารักเพศเดียวกัน การรับบทในละครชายรักชายเรื่องนี้จึงค่อนข้างท้าทายกัปตันอยู่มาก เพื่อให้อินกับความรู้สึกของตัวละครมากที่สุด กัปตันบอกว่าเขาใช้วิธีเลิกมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าว่าเป็นผู้ชาย เลิกแบ่งเพศ แล้วหันมาใส่ใจเรื่องความรู้สึกแทน
ถามว่ารู้สึกอย่างไรถ้าคนส่วนหนึ่งในสังคมจะตั้งแง่กับละครเรื่องนี้เมื่อเเห็นว่าพูดถึงเรื่องความรักของเพศที่สาม กัปตันเปิดใจว่า “ผมว่าเรื่องเพศที่สามเป็นเรื่องปกติของสังคมไปแล้ว อย่างไรก็ตามก็ทุกคนมีสิทธิที่จะพูดในสิ่งที่ตนคิด แต่อย่างน้อยก็อยากให้เปิดใจมากขึ้น เพราะว่าการเปิดใจก็จะทำให้ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ครับ”
เข้าใจบทบาทการแสดงของตัวละครได้อย่างลึกซึ้งขนาดนี้ ชีวิตจริงยอมรับเพศที่สามได้มากแค่ไหน? หนุ่มหน้าตี๋ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “รับได้มากเลยครับ (หัวเราะ) เพราะมาเล่นบทนี้ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกของเขาว่าเขารู้สึกอย่างไรบ้างครับ”
ถ้าวันหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวละครในเรื่อง เกิดขึ้นในชีวิตจริง คิดว่าตัวเองจะสามารถรักผู้ชายได้บ้างไหม? กัปตันนิ่งคิดกับคำถามสุดท้ายของผมก่อนจะตอบอย่างช้าๆ ว่า “ยังตอบอะไรไม่ได้ครับ เพราะว่าตอนนี้ยังชอบผู้หญิงอยู่ แต่อนาคตก็ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะเปลี่ยนใจไปชอบผู้ชายก็ได้ ต้องรอดูต่อไปครับ (หัวเราะ)”
การได้พูดคุยกับกัปตันคงช่วยให้ใครๆ กล้าทำตามหัวใจของตัวเองมากขึ้น ผมเชื่อว่าชื่อ “กัปตัน-ชลธร” คงเข้าไปนั่งในหัวใจของคุณแล้วแน่นอน…
ติดตามชมเรื่องราวอัพเดทสุดชิคของดาราสุดแซ่บแบบนี้ได้ที่ คอลัมน์: คุยกับดาว น้องๆ คนไหนที่อยากอัพเดทเรื่องราวของศิลปินดาราสุดที่รักของคุณแบบนี้ ส่งมาได้ที่ startalk@prsociety.net หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.prsociety.net และ www.facebook.com/PRSocietyNews