ผู้บริหารบริษัท IT เผยโลกออนไลน์ ดันธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดี ขณะที่ mobile device มีบทบาทกับชีวิตประจำวันมากขึ้น คาด ปี 2563 มีผู้ใช้มือถือทั่วโลกกว่า 50 ล้านล้านเครื่อง ย้ำเทคโนโลยี 5G ทำชีวิตสะดวกขึ้น
Mr.Maggie Chen Senior Strategy Consultant Huawei กล่าวในงานเสวนาหัวข้อ Digital Technology – Global Outreach ภายในงานวันสื่อสารแห่งชาติ NET2015 จัดโดย สำนักงาน กสทช. ว่าปัจจุบันบริษัทที่พึ่งก่อตั้งขึ้นมาในรูปแบบออนไลน์ กำลังแย่งส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทในรูปแบบปกติและมีกำไรหรือมูลค่าหุ้นสูงกว่า เนื่องจากผู้บริโภคนิยมใช้อินเตอร์เน็ตทำให้เข้าถึงโลกออนไลน์ได้ง่าย และมีพฤติกรรมการซื้อเปลี่ยนไป โดยติดต่อกับผู้ผลิตหรือเจ้าของธุรกิจเอง จึงกลายเป็นการติดต่อซื้อขายกันแบบ B2C หรือการตลาดที่เน้นไปสู่ผู้บริโภคโดยตรงมากกว่าจะเป็นแบบ B2B หรือการซื้อสินค้าไปเพิ่มมูลค่าให้เป็นสินค้าและบริการที่ต่อยอดจากเดิมแต่หากจะให้ธุรกิจออนไลน์สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์จะต้องดึงความร่วมมือจากธุรกิจหรือบริการในตลาดรูปแบบปกติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง เช่น Microsoft ที่จากเดิมดำเนินธุรกิจในตลาดปกติ แต่หันมาใช้ช่องทางการกระจายสินค้าและบริการผ่านทางระบบออนไลน์มากขึ้น ส่วนธุรกิจในตลาดปกติหากจะให้สามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดไว้ได้ก็จึงมีความจำเป็นต้องนำระบบ IT มาปรับใช้เช่นเดียวกับธุรกิจที่ให้บริการด้าน Cloud Storage จะมีมูลค่าธุรกิจที่สูง และทำรายได้มหาศาลเนื่องจากสามารถช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานได้ เช่นธุรกิจในเครืออาลีบาบา ที่ให้พื้นที่ผู้ขายและผู้ซื้อได้มาเจรจากัน โดยที่ไม่มีสินค้าและลูกค้าเป็นของตัวเอง
ด้าน Mr.David McCloskey Director of Product Marketing and Business Operations Intel Asia Pacific and Japan กล่าวถึงอนาคตของ Digital Economy ว่าการขยายตัวของอุปกรณ์ Mobile Device เติบโตแบบก้าวกระโดด และคาดว่า ปี 2563 จะมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลก รวมกว่า 50 ล้านล้านเครื่อง และจะมีการส่งผ่านข้อมูลแลกเปลี่ยนกันในระบบกว่า 40Zettabyte (10 ยกกำลัง 21) ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนข้อมูล ที่มากกว่าจำนวนดวงดาวในระบบทางช้างเผือก พร้อมมองว่าประสบการณ์ของผู้ใช้เป็นแรงผลักดันทำให้เกิดการพัฒนา เช่น การถ่ายภาพที่ในอนาคต อาจปรับเปลี่ยนจากกล้องธรรมดา เป็นกล้อง 3 มิติที่จะสามารถถ่ายรูปแบบ 3มิติและเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้มากขึ้นรวมถึงอุปกรณ์พกพาต่างๆ จะสามารถสแกนใบหน้าของผู้ใช้แทน Password ได้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวันให้มีความคล่องตัวมากขึ้นผ่านความร่วมมือของบริษัทIT สู่ธุรกิจแฟชั่น เช่น เครื่องประดับอย่างนาฬิกา สามารถเชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้แบบไร้สาย และมีแอพพลิเคชั่นวิเคราะห์การเต้นของหัวใจ
ขณะที่ Mr.Magnus Ewerbring Chief Technology Officer, Asia Pacific, Group Function Technology Ericsson กล่าวว่าการขยายตัวของ Internet และอุปกรณ์ พกพาต่างๆ ที่ผู้ใช้เข้าสู่โลกออนไลน์ได้อย่างง่ายทุกที่ทุกเวลานั้น ทำให้ปัจจุบันคนนิยมพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกันที่ใหม่บนโลกออนไลน์ ซึ่งทำให้เกิดสังคมที่เรียกว่า Network Society ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการให้อำนาจแก่ผู้ใช้ หรือผู้บริโภคในการต่อรองกับผู้ผลิตสินค้าและบริการมากขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ผลิต ผลิตสินค้าที่ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ทำให้นำไปสู่การพัฒนา Application บนอุปกรณ์พกพา
นอกจากนี้ Mr.Magnus ยังกล่าวถึงเทคโนโลยี 5G ว่าเป็นเทคโนลียีที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อตอบสนอง Network Society นี้ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพราะจะเป็นระบบที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้รวดเร็ว เชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมการผลิตสินค้า และเจ้าของธุรกิจบริการต่างๆได้รวดเร็วขึ้น