Fluent Forever “พูดคล่อง โดยไม่ต้องคิด” หนังสืออันดับ 1 หมวด Linguistics ใน Amazon

Fluent Forever 4Fluent Forever พูดคล่องไม่ต้องคิด เป็นหนังสือเกี่ยวกับวิธีการเรียนภาษาต่างประเทศที่สามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง โดยปรับเปลี่ยนแนวคิดของการเรียนภาษาจากที่เราเคยเข้าใจมาจนหมดสิ้น ด้วยการสอนวิธีการจัดลำดับความสำคัญของหัวข้อในการเรียน เพื่อเน้นการฟัง การออกเสียง และการจดจำแบบไม่ลืม อันจะนำไปสู่การ “พูดคล่อง โดยไม่ต้องคิด”

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล่มแรก ๆ ที่เกิดขึ้นจากการระดมทุนในเว็บไซต์ www.kickstarter.com และเป็นหนังสือที่ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดในหมวดหนังสือด้วยยอดเงินสูงถึง 81,000 USD หรือเป็นจำนวนร่วม 8 เท่าจากเป้าหมายที่ต้องการ และจากนั้นหนังสือเล่มนี้ก็ติดอันดับขายดีทันทีใน Amazon ในวันแรกที่เริ่มวางขาย

นอกจากนั้นบทความเรื่องการเรียนภาษาของ Gabriel Wyner ผู้เขียนยังขึ้นเป็นหนึ่งในบทความที่ได้รับการอ่านใน www.lifehacker.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชื่อดังด้านการพัฒนาตนเองมากที่สุดตลอดกาล

เกี่ยวกับผู้เขียน Gabriel Wyner 

เป็นนักร้องโอเปร่าที่จับผลัดจับผลูมาสนใจเรื่องการเรียนภาษาด้วยความจำเป็น จากนั้นเขาจึงคิดค้นวิธีการเรียนภาษาต่าง ๆ ด้วยตัวเองจนเกิดมาเป็นแนวคิดตั้งต้นของ “พูดคล่องไม่ต้องคิด” เล่มนี้ โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ รอบตัวประกอบ และใช้เวลาเพียง 1 ชม. ต่อวัน ปัจจุบันในวัย 30 ปี เขาพูดได้อย่างคล่องแคล่วถึง 6 ภาษา และจะได้ภาษาที่เจ็ดเร็ว ๆ นี้จากวิธีที่ทำตามได้จริงในหนังสือ

เรื่องย่อ

หนังสือเล่มนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าผมไม่ขี้โกงในการทำข้อสอบภาษาฝรั่งเศส
ผมไม่ได้ภาคภูมิใจกับมันหรอก แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว มันคือจุดเริ่มของการ “พูดคล่องไม่ต้องคิด”

ผมขอเล่าประวัติเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ฟังก่อน

โรงเรียนสอนภาษามิดเดิ้ลบิวรี แลงเกวจ สคูลส์มีชั้นเรียนห้าระดับ

– คนที่เริ่มต้นจากไม่เป็นเลย

– คนที่เริ่มต้นแบบ “ปลอม ๆ” (คนที่ลืมสิ่งที่ตัวเองเคยเรียน)

– ระดับปานกลาง

– ระดับสูง และ

– ระดับใกล้คล่อง

ตอนที่ทำข้อสอบผมเป็นนักเรียน “ระดับเริ่มต้น” จากไม่รู้อะไรเลยในภาษาฝรั่งเศส แต่ผมเคยเรียนภาษารักโรแมนติกมาก่อนแล้ว และผมอยากจะอยู่กับกลุ่มคนเริ่มต้นแบบ “ปลอม ๆ”

ดังนั้นในการสอบครั้งที่สามที่มิดเดิ้ลบิวรี ผมก็เลยโกงข้อสอบทางออนไลน์ที่เป็นการทดสอบวัดความสามารถในการใช้ภาษา

ผมใช้โปรแกรมช่วยแปลของกูเกิ้ลและเว็บไซต์ไวยากรณ์บางเว็บ อย่าไปบอกมิดเดิ้ลบิวรีนะครับ

หนึ่งเดือนต่อมา ผมได้รับผลลัพธ์ที่น่าเศร้าใจ

“ยินดีต้อนรับและขอแสดงความยินดีด้วย!” มันเริ่มต้นแบบนี้

“คุณได้เข้าเรียนในระดับปานกลาง!”

บ้าชะมัด ผมมีเวลาแค่สามเดือนในการเรียนรู้ภาษาฝรั่งเศสที่คนอื่นต้องใช้เวลาเรียนหนึ่งปี

ไม่งั้นผมจะต้องดูเหมือนคนปัญญาอ่อนตอนถูกสอบสัมภาษณ์แรกเข้า

การสอบสัมภาษณ์เหล่านี้เป็นเรื่องที่เอาจริงเอาจังมาก คุณต้องนั่งในห้องกับคนฝรั่งเศสตัวเป็น ๆ และต้องคุยเรื่องชีวิตกับเขาอยู่สิบห้านาที

จากนั้นก็ออกไปสอบวัดความสามารถในการใช้ภาษาเป็นครั้งสุดท้าย คุณโกงไม่ได้ คุณต้องพูดภาษาฝรั่งเศสได้ หรือไม่ก็ตีหน้าเศร้าและโบกไม้โบกมือไปทั่วเหมือนนักแสดงละครใบ้กระจอก ๆ ชาวปารีส

เนื่องจากผมกำลังเรียนปริญญาโทวิชาเพลงโอเปร่าและเพลงอาร์ตซอง (เพลงร้องเดี่ยวที่มีเนื้อร้องนำมาจากบทกวีหรือโคลงกลอนที่ไพเราะ) ช่วงเวลาว่างช่วงเดียวที่ผมมี คือ

…หนึ่งชั่วโมงบนรถไฟใต้ดินทุกวันและวันอาทิตย์ทั้งวัน

ผมรีบหันไปหาอินเทอร์เน็ตด้วยความร้อนใจเพื่อคิดหาวิธีเรียนภาษาอย่างไรให้เป็นเร็วขึ้น

สิ่งที่ผมค้นพบนั้นน่าประหลาดใจมาก ในอินเทอร์เน็ตมีเครื่องมือเรียนภาษาที่ทรงอานุภาพอย่างไม่น่าเชื่อมากมายก่ายกอง แต่ไม่มีเลยสักโปรแกรมเดียวที่รวบรวมวิธีการใหม่ ๆ ทั้งหมดเข้าด้วยกัน

ผมได้ค้นพบเคล็ดลับพื้นฐานสามอย่างในการเรียนภาษาโดยบังเอิญ

ผมตัดสินใจใช้หมดทุกวิธีพร้อม ๆ กัน

เมื่อถึงเดือนมิถุนายน ผมใช้เวลาวันละหนึ่งชั่วโมงบนรถไฟใต้ดินเรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ได้ถึงสามพันคำ

พอมาถึงมิดเดิ้ลบิวรีผมนั่งรออยู่ในห้องเพื่อเตรียมสอบสัมภาษณ์แรกเข้าเป็นภาษาฝรั่งเศส

การสอบสัมภาษณ์นี้มีขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าผมไม่ได้ทำอะไรงี่เง่า อย่างเช่น “โกงการทดสอบทางออนไลน์เพื่อวัดความสามารถในการใช้ภาษา”

มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมพูดภาษาฝรั่งเศส อาจารย์คนนั้นนั่งลงและพูดว่า “บองชูร์ (สวัสดี)” ผมตอบกลับทันทีด้วยคำพูดแรกที่ผุดขึ้นในสมอง “บองชูร์ (สวัสดีครับ)” มาถึงตอนนี้ทุกอย่างไปได้สวย

เมื่อการพูดคุยของเราเดินหน้าต่อไป ผมต้องทึ่งมากเมื่อพบว่าผมรู้ทุกคำที่อาจารย์พูด และผมรู้ทุกคำที่ผมต้องตอบ

ผมสามารถคิดเป็นภาษาฝรั่งเศส! แม้ว่ามันจะตะกุกตะกัก แต่มันก็เป็นภาษาฝรั่งเศส ผมถึงกับตะลึงงัน

มิดเดิ้ลบิวรีเด้งผมให้ขึ้นไปเรียนในขั้นสูง ในช่วงเจ็ดสัปดาห์นั้น ผมอ่านหนังสือสิบเล่ม เขียนเรียงความเจ็ดสิบหน้า และรู้คำศัพท์เพิ่มขึ้นเป็นสี่พันห้าร้อยคำต้นเดือนสิงหาคม

ผมก็พูดภาษาฝรั่งเศสได้คล่องปรื๋อ!!!

นี่เป็นเพียงเนื้อหาตัดตอนส่วนหนึ่งจากหนังสือ ‎พูดคล่องไม่ต้องคิด

อยากรู้ว่าเคล็ดลับ 3 อย่างของการ พูดคล่องไม่ต้องคิด คืออะไร ติดตามอ่านได้ใน “Fluent Forever พูดคล่องไม่ต้องคิด”

วางแผงแล้ววันนี้ตามร้านหนังสือชั้นนำ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.maxincube.com/fluent-forever