ยังไม่ทันจะเริ่มงานเหล่าบรรดาขุ่นลูกที่มาเข้าเฝ้าแม่ก็กรี๊ดรับกันฮอลล์แทบแตก ก่อนเปิดอาณาจักร “Christina Kingdom” หลังจากห่างหายไป 5 ปีเต็ม ด้วยความยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีดีกรีตัวแม่ แค่พิธีเปิดก็ยังไม่ธรรมดา คัดเอาพลธนูเอกยิงลูกศรไฟจุดชนวนความสนุกของคอนเสิร์ตนี้อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัว “คริสติน่า อากีล่าร์” ราชินีของอาณาจักรนี้อย่างอลังการด้วยการล้มนกทั้งป่าหักขนมาเสริมบารมีบนเครื่องทรงที่ เป๊ะ ปัง อลังเวอร์ ราวกับขุ่นแม่ติดปีกเหาะออกมาจากโลโก้คริสติน่า ก่อนประเดิมด้วยเพลงแด๊นซ์ประจำตัวอย่าง “ไม่ยากหรอก”, “อย่ามองตรงนั้น”, “ไปด้วยกันนะ” ซีนนี้ได้แด๊นเซอร์นับพันชีวิต เพราะทั้งฮอลล์พร้อมใจกันลุกขึ้นWelcome Dance กับขุ่นแม่แบบมันส์หยด ก่อนจัดเพลงช้าเรียกน้ำย่อยให้ขุ่นลูกหายคิดถึง ไม่ว่าจะเป็น “ไม่อยากจะเชื่อเลย”, “ฝากความยินดี”, “เปล่าหรอกนะ” และทุกคนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ร้องตามกันกระหึ่มฮอลล์…
ไม่ทิ้งช่วงให้นั่งพักนาน ลุยต่อกับเพลงฮิตจากอัลบั้มแรกด้วยเพลงที่ถือว่าให้กำเนิดติ๊นาในวงการเพลง อย่างเพลง “นินจา” ในเวอร์ชั่นสุดล้ำ สลัดคราบนางพญา หันมาจับวิกแดงบวกชุดหนังเปรี้ยวจี๊ด โชว์สเต็ปเทพ ต่อเนื่องด้วยซีนฮอตปรอทแตก บอกเลยว่าอุณหภูมิเมืองไทยที่ว่าฮอตสุดแล้วยังต้องก้มกราบขุ่นแม่ในเพลงนี้ “ร้อน”และยิ่งเพิ่มอุณภูมิในฮอลล์ขึ้นไปอีกในเพลง “จับมัดไว้” ที่จับชายหนุ่มคนพิเศษ “อาเล็ก ธีรเดช” มามัดไว้ให้ขุ่นแม่ทำโทษอย่างสาสมทั้งแนวนั่งและแนวนอน ไม่รู้งานนี้ใครจะฟินกันแน่ เพราะลีลาแม่.. แซ่บซี๊ดดดดสยิวเกินจะทนทั้งม้วนหน้า ล้อมหลัง แถมลองใครได้เจอสายตาพิฆาตชายคู่นั้น ไม่รอดค่ะบอกเลย! จบเพลงนี้ทำเอากระชุ่มกระชวยกันทั้งฮอลล์.. และอีกหนึ่งความตั้งใจของ เอ-ไทม์ โชว์บิส นั่นคือซีน Hologram ที่รีมายภาพในความทรงจำของติ๊นาเคล้าไปกับเพลง “ห้องเดิม” และ “ใต้ผ้าห่มอุ่น” ได้อย่างน่าประทับใจ
และอย่างที่เคยบอกไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคอนเสิร์ตนี้ให้เตรียมตัวมาเต้น เพราะปล่อยให้ซึ้งได้แค่แป๊ปเดียว ก็ต้องลุกขึ้นยืนเต้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ได้ตัวแทนขุ่นลูกอย่าง “เบน ชลาทิศ” และ “แก้ม วิชญานี” มาสร้างสีสันในเพลง “Toxic”, “สวรรค์อยู่ที่ใจ” ก่อนปิดท้ายด้วยเพลงที่ขาดไม่ได้ “ประวัติศาสตร์” ท่ามกลางบรรยากาศ Night Club สุดหรู รายล้อมด้วยนักเต้นที่มาพร้อมกับขนนกฟูฟ่องเอาใจขุ่นลูกสุดฤทธิ์ ให้ความรู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปอยู่ใน Chicago Show จริงๆ.. เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจขุ่นแม่ติ๊นาเลยจัดเมดเล่ย์เอาใจสาวกอีกยกใหญ่ในเซตเพลงเพราะร้องตามได้ ที่บิ้วให้บรรยากาศในฮอลล์อบอุ่นขึ้นจากเรื่องราวความรักที่ติ๊นาไม่เคยได้พูดที่ไหนมาก่อนจนทุกคนในฮอลล์สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของติ๊นาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น “หัวใจขอมา, มีเพียงแต่เธอ, อยากฟังคำนั้น,ไม่ต้องขอบใจ, รักเธอที่สุด, อยากให้รู้เหลือเกิน-ว่าฉันเสียใจ, เธออยู่ไหน, อย่าไปเสียน้ำตา, เวลาไม่ช่วยอะไร” ก่อนที่ทั้งฮอลล์จะต้องสะเทือนอีกครั้งเมื่อเปิดแขกรับเชิญคนสุดท้าย “บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์” King of Disco ขึ้นมาประกบ Queen of Dance บนเวทีไฮไลท์ที่ยกทั้งแคทวอล์คลอยขึ้นเหนือหัวคนดู แล้วหมุนไปรอบฮอลล์ให้ติ๊นาและบุรินทร์ได้ใกล้ชิดแฟนๆแบบถึงเนื้อถึงตัวในเพลง “แล้วมารักกันต่อ” และ “ซุปเปอร์สตาร์” ก่อนจะเข้าสู่โหมดแด๊นซ์ยับทิ้งท้ายให้ขุ่นลูกได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่แบบไม่มีกั๊กกับเมดเล่ย์แด๊นซ์ 10 เพลงรวด อาทิเช่น“พลิกล็อค, เสียใจเสียฟอร์ม, ปัญหาโลกแตก, เรื่องเก่าเล่าใหม่, ฉันจะรอดู,รออีกนิดนึง, หาไว้สักคน, เลิกเหอะ, พูดอีกที, ขอให้โชคดี” พูดเลยว่า 3 ชั่วโมงเต็มในอาณาจักรของติ๊นา ครบรส ทั้งร้อง ทั้งเต้น ยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้ง ปังกว่าทุกโชว์ เรียกว่างานนี้ยังเป็นการรวมเปั้รวมตัวบรรดาตัวลูกในวงการที่ตบเท้ากันมาเข้าเฝ้าคุณแม่ อาทิ บี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว, มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์, ดา เอ็นโดรฟิน, แอฟ ทักษอร เตชะณรงค์, มดดำ คชาภา ตันเจริญ, ดีเจ มะตูม เตชินท์ พลอยเพชร, หญิง รฐา โพธิ์งาม, เบล และ หว่าหวา ไชน่าดอลล์, เป็ก ผลิตโชค อายนบุตร, ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์, ต้อ มารุต สาโรวาท, ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่, นิว-จิ๋ว, แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์ และนอกจากความประทับใจที่ทุกคนได้กลับไปแล้วนั้น ยังได้ร่วมทำบุญโดยรายได้ส่วนหนึ่งของคอนเสร์ตนี้มอบให้ศูนย์กนิษฐ์นารี สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ-พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ อีกด้วย