“ฟรัง นรีกุล เกตุประภากร” สาวน้อยหน้าหวาน จากซีรี่ส์ยอดฮิต Hormones season 3 นิสิตใหม่ป้ายแดง ที่แม้ยังยุ่งจากการทำงานแต่ก็ไม่ทิ้งการเรียน จนสอบติดคณะในฝัน อย่าง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาได้ สมกับเป็นเน็ตไอดอลตัวอย่างจริงๆ แม้จะยุ่งมากแค่ไหน แต่สาวฟรังก็ยังหาเวลามาแชร์เทคนิคเรียนดีให้กับน้องๆ รุ่นใหม่เพื่อไปพิชิตคณะในฝันของตัวเองให้จงได้
คณะแพทย์ เป็นหนึ่งในคณะที่มีคะแนนสูงที่สุดและหลายๆ คนก็ฝันอยากจะไปเรียนในคณะนี้ แม้สาว ฟรังจะต้องทำงานและเรียนไปพร้อมๆกัน ก็ยังสามารถแบ่งเวลาให้กับการอ่านหนังสือ และเตรียมตัวสอบได้เป็นอย่างดี ฟรังยังบอกเทคนิคในการอ่านหนังสือของตัวเองอีกว่า “ ปกติฟรังเป็นคนที่อ่านหนังสือไม่ได้นาน จะเบื่อง่าย วิธีแก้ก็คือ จะอ่านวันละหลายวิชา บางวิชาจบบทแล้วก็เปลี่ยน จะทำให้การอ่านสนุกมากขึ้น และทุกครั้งที่อ่านจะมีการจด short note และวาดภาพประกอบ หรือการใช้สีต่างๆ เพื่อเน้นเรื่องสำคัญซึ่งทำให้จดจำได้ง่ายขึ้นด้วย เมื่อเราไม่เข้าใจส่วนไหน ก็สามารถมาอ่านทบทวนได้ตลอดเวลา” ที่สำคัญสาวฟรังยังบอกอีกว่า “เวลาว่างก็จะนำพวกคำศัพท์มาท่อง หรืออ่านอะไรก็ตามที่เป็นภาษาอังกฤษ เพราะเราจะได้ฝึกภาษาของเราไปในตัว และเวลาอ่านหนังสือจะไม่อ่านแบบหักโหมถึงเที่ยงคืนตีหนึ่ง เพราะรู้สึกว่าเมื่อเราพักผ่อนไม่เพียงพอ และร่างกายมีความเครียด ตอนเช้าเราตื่นมาก็จะงัวเงียทำให้สมองของเราไม่อยากรับรู้อะไรเลย และความคิดของเราจะช้าลงไปด้วย”
สิ่งสำคัญที่ทำให้ฟรังสามารถพิชิตคณะในฝันได้คือ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งสาวฟรังบอกว่า “เราต้องวางเป้าหมายของตัวเองให้แน่นอนก่อน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเอง เช่นเรามีเป้าหมายว่าอยากเรียนหมอ ก็ต้องรู้แล้วว่าจะอ่านหนังสือวิชาไหนบ้าง ต้องจัดตารางการอ่านหนังสือยังไง เราจะต้องมีการวางแผนการอ่านหนังสือล่วงหน้าเสมอ ในห้องเรียนก็จะตั้งใจเรียน ทำความเข้าใจไปพร้อมกับที่คุณครูสอน กลับบ้านก็ทบทวนบทเรียน เพราะเวลาเรามีน้อย ทั้งเรียนและทำงาน ฟรังจึงคิดว่าไม่ควรปล่อยเวลาให้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ”
นอกจากนี้ ครูพี่แนน อริสรา ธนาปกิจ แห่งโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษเอ็นคอนเส็ปต์ กล่าวเสริมว่า “วิธีการจด Short note เป็นวิธีที่เด็กส่วนมากจะทำกัน ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งที่ทำให้ทางเอ็นคอนเส็ปท์คิดค้นวิธีการทวนเนื้อหาบทเรียนแบบ Onepage ขึ้นมา โดยการสรุปเนื้อหาสำคัญของแกรมม่า จากที่มี
จำนวนหลายร้อยหน้าให้เหลือเพียงหน้าเดียว และใช้เวลาทบทวนเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งเหมาะกับเด็กรุ่นใหม่ในยุคนี้มากเลยค่ะ”