เป็นตำนานความอร่อยแบบฉบับนิฮอนที่เหล่าเซเลบฯ คนดัง ชื่นชอบจนกลายเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ทอล์กออฟเดอะทาวน์ ไปแล้ว สำหรับ “มูเกนได” ล่าสุด ฉลองย้ายบ้านใหม่ไปปักหลักประจำอยู่ที่ “มูเกนได ฮอนเต็น” ทองหล่อ ซ.10 ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นวัตถุดิบคุณภาพชั้นดี โดยฉลองย้ายบ้านใหม่ด้วยการครีเอท “8 เมนูพิเศษ” คอลลาบอเรทกับร้านดังของชาวปารีเซียง เมซอง เดอ ลา ทรูฟ (Maison de la Truffe) รังสรรค์อาหารญี่ปุ่นรูปแบบใหม่ ผสมผสานความเป็นตะวันออก มารวมไว้กับความเป็นตะวันตก ด้วยความหอมหวลของทรัฟเฟิลชั้นยอดจากฝรั่งเศส
คุณก้อง – กมลสุทธิ์ ทัพพะรังสี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มูเกนได จำกัด ผู้นำและผู้พัฒนาธุรกิจร้านอาหารระดับพรีเมี่ยมของเมืองไทย กล่าวว่า “กว่า 6 ปีที่มูเกนได เริ่มต้นเป็นร้านอาหารระดับพรีเมี่ยมที่ให้บริการกับคนรักอาหารญี่ปุ่นคุณภาพดี บนถนนทองหล่อ ในปีที่ 6 นี้ เรายังตั้งใจเสิร์ฟความอร่อยคู่คุณภาพ และบรรยากาศของร้านที่คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ต่อเนื่อง โดยมีการย้านบ้านใหม่ของมูเกนได ฮอนเต็น มาอยู่ที่ทองหล่อ ซ.10 ที่เน้นการตกแต่งแบบโล่งโปรง ให้บรรยากาศนั่งสบาย พร้อมเป็นครัวเปิดเพื่อโชว์ให้ลูกค้าสามารถเห็นกรรมวิธีการทำได้อีกด้วย นอกจากนั้น การตกแต่งยังใช้ไม้ฮิโนกิ หรือไม้สนหอมของญี่ปุ่นที่หายากความยาวกว่า 8 เมตร ในการตกแต่ง โดยมู้ดแอนด์โทนต้องการให้รู้สึกอบอุ่น สบายตาด้วยโทนสีครีมของร้าน”
คุณก้อง – กมลสุทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้น เพื่อเป็นการฉลองการเปิดบ้านใหม่หลังนี้ด้วยการครีเอท 8 เมนูพิเศษ ที่เป็นการร่วมมือคิดค้นระหว่าง มูเกนได ฮอนเต็น และ เมซอง เดอ ลา ทรูฟ ร้านดังจากฝรั่งเศส โดยเป็นครั้งแรกของมูเกนได ในการผสมผสานความเป็นตะวันออกและตกวันตกไว้ด้วยกัน โดยนำเสนอ ทั้ง 8 เมนูได้แก่
- Maguro Carpaccio with Truffle (เมกุโร คาพาซิโอ วิธ ทรัฟเฟิล)
เมนูแรก คัดสรรด้วยวัตถุดิบชั้นยอดส่งตรงจากฮอกไกโด กับปลาทูน่า สายพันธุ์บลูฟินจากธรรมชาติ นำไปหมักซอสพอนสุสูตรพิเศษแบบลับฉบับมูเกนได โดยเลือก 3 ส่วนทั้ง Otoro (โอโทโร่) ส่วนท้องบนของปลาบลูฟินที่มีส่วนไขมันเยอะ ทานแล้วรู้สึกเหมือนละลายในปาก, Chutoro (ชูโทโร่) ส่วนท้องกลางของปลาบลูฟิน และ Akami (เอกามิ) ส่วนท้องล่างที่ไม่มีไขมัน โดยเมื่อนำไปหมักแล้วจะให้รสชาติที่เมื่อทานเข้าปากแล้ว รู้สึกหวานหอมมากยิ่งขึ้น เพิ่มความสมบูรณ์ของจานนี้ด้วย ด้วยกลิ่นหอมของน้ำมัน Truffle (ทรัฟเฟิล ออย) (ราคา Season truffle 1,600 บาท / White truffle 2,200 บาท)
- Organic Egg Yolk on Rice with Truffle (ออแกนิก เอก ยอร์ค อ็อน ไรซ์ วิธ ทรัฟเฟิล)
จุดเด่นของจานนี้อยู่ที่ข้าวญี่ปุ่นสไตล์แบบนิ่ม และไข่ออแกนิกนำเข้าจากญี่ปุ่น โดยใช้เวลาการต้ม 5 นาที ในน้ำเดือด เพื่อให้ได้ไข่ Egg yolk ที่จะได้ครีมไข่มันเข้มข้นของไข่แดง ผสมผสานด้วยโชยุและทรัฟเฟิล ออยส์ (น้ำมันทรัฟเฟิล) คุณภาพสูง ราดบนจานเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้จานนี้ ปิดท้ายด้วยการโรยทรัฟเฟิลป่น (Breaking truffle) เพื่อความหอมนวล (ราคา Season truffle 500 บาท / White truffle 800 บาท)
- Gyoza with Truffle (เกี๊ยวซ่า วิธ ทรัฟเฟิล)
เเป้งเกี๊ยวซ่าสูตรพิเศษของทางร้าน สอดใส้ห่อไส้ด้านในด้วยเห็ดระดับคุณภาพ อาทิ เห็ดหอม เห็ดอีโนกิ (เห็ดเข็มทองญี่ปุ่น) เเละ ทรัฟเฟิลป่น (Breaking truffle) ทอดให้มีความกรอบนอกนุ่มในและจัดให้ไซส์พอดีคำ คลุกเคล้าด้วยน้ำมันทรัฟเฟิลออยหอมๆ ด้วยการผัด พร้อมเพิ่มมิติความหอมด้วยการโรยด้วยทรัฟเฟิลสด (ราคา Season truffle 650 บาท / White truffle 980 บาท)
- Chopped Otoro with Truffle (ช็อบ โอโทโร่ วิธ ทรัฟเฟิล)
บรรจงตั้งแต่การคัดสรรปลาทูน่า สายพันธุ์บลูฟิน จากฮอกไกโด เพื่อเสิร์ฟในจานนี้โดยเฉพาะ โดยเลือกใช้ โอโทโร่สด ที่มีเนื้อส่วนท้องที่หวานละลายในปาก แร่โดยเชฟชื่อดังให้มีลักษณะเป็นลูกเต๋าพอดีคำ พร้อมคลุกเคล้ากับโชยุสูตรพิเศษ ที่ใช้วาซาบิผสานกับทรัฟเฟิลป่น (Breaking Truffle) และทรัฟเฟิลออย พร้อมโรยหน้าด้วยทรัฟเฟิลปิดท้าย ทำให้จานนี้มีรสชาติของโอโทโร่สไตล์ญี่ปุ่น ผสมกับกลิ่นหอมหวลตามแบบฉบับ ทรัฟเฟิลขนานแท้ (ราคา Season truffle 1,300 บาท / White truffle 1,800 บาท)
- Wagyu Don Topped with Poached Egg with Truffle (วากิว ด้ง ท็อป วิธ พอร์ช เอ้ก วิธ ทรัฟเฟิล)
ข้าวหน้าเนื้อวากิวเกรด A5 ที่เป็นเนื้อที่มีคุณภาพสูงที่สุดในบรรดาเนื้อวากิวซึ่งมีความนุ่ม ละลายในปาก ถูกคัดเลือกให้มาอยู่ในจานพิเศษนี้ โดยเนื้อหมักด้วยซอสหวาน ย่างบนเตาถ่านไฟแรงทำให้เนื้อมีความเกรียม สีน้ำตาลสวย แต่ด้านในยังคงความ Rare และมีความฉ่ำ (Juicy) ของรสชาติเนื้อไว้อย่างครบถ้วน เสิร์ฟคู่กับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ โรยด้วยต้นหอมญี่ปุ่น เกลือ พริกไทย พร้อมไข่ออนเซ็น และมีน้ำซอสสูตรพิเศษที่ได้จากการย่างเนื้อ ราดปิดท้ายพร้อมกับทรัฟเฟิล ใส่เข้าไปในเมนูนี้ (ราคา Season truffle 1,700 บาท / White truffle 2,500 บาท)
- Wagyu Steak Sushi with Truffle (วากิว สเต็ก ซูชิ วิธ ทรัฟเฟิล)
เนื้อวากิวสเต็ก ที่ทาบลงเตาถ่านร้อน โดยใช้ไฟอ่อนๆ ทำให้เนื้อวากิวได้ความสุกแบบพอดี โปะยาวชิ้นใหญ่คู่กับข้าวญี่ปุ่นที่นำมาปั้นแบบพอดีคำ พร้อมราดด้วยซอสหวานสูตรพิเศษ สูตรลับฉบับมูเกนได เเละเพิ่มความหอมด้วยทรัฟเฟิล (Breaking Truffle) (ราคา Season truffle 1,300 บาท / White truffle 1,800 บาท)
- Quattro Don with Truffle UnagiTennen, Uni, Scrambled egg on rice (ควอทโทร ด้ง วิธ ทรัฟเฟิล อูนางิ เท็นเน็น, อูนิ, สแครมเบิล เอ้ก อ็อน ไรซ์)
อีกหนึ่งจานไฮไลต์ที่นับเป็น 4 จักรพรรดิ แห่งการรับประทานที่มูเกนได ฮอนเต็น ได้แก่ การรวมของชั้นยอด 4 อย่าง อาทิ ปลาไหลธรรมชาติ, ไข่หอยเม่น, ไข่ออแกนิกญี่ปุ่น และทรัฟเฟิล ไว้ในจานเดียว โดยเป็นข้าวหน้าปลาไหลเกรดพรีเมี่ยม ที่ใช้ปลาไหลธรรมชาติ ย่างให้มีความกรอบนอก แต่เนื้อนุ่มใน และย่างแบบจานต่อจาน ผสมผสานกับความหวานจากไข่หอยเม่นจากฮอกไกโด ที่ทานแล้วละลายในปาก ผนวกกับรสชาติไข่ออกแกนิก ที่นำมาคนหอมๆ ผัดกับน้ำมันทรัฟเฟิล วางบนข้าวซูชิ พร้อมโรยหน้าด้วยทรัฟเฟิลสด (ราคา Season truffle 900 บาท / White truffle 1,400 บาท)
- MaraniatedChutoro with Truffle (มาราเนียเท็ด ชูโทโร่ วิธ ทรัฟเฟิล)
เมนูจานนี้ ใช้เนื้อปลาทูน่า พันธุ์บลูฟิน ส่วนชูโทโร่ ที่หมักในน้ำซอสโชยุที่ร้านโอมาคาเสะทั่วโลกนิยมใช้ โดยจะต้องบ่มไว้ 1 คืน ก่อนจะนำมาผสมกับทรัฟเฟิลออย และทรัฟเฟิลเบรกกิ้ง โดยรสชาตินี้จะได้รับความหวานมันของทูน่า เเละกลิ่นหอมของทรัฟเฟิลที่เเทรกเข้าไปในเนื้อ พร้อมกลิ่นอันเย้ายวนจากทรัฟเฟิลสดที่โรยอยู่ด้านบนของจาน (ราคา Season truffle 1,500 บาท / White truffle 2,200 บาท)
ร่วมอิ่มเอมสัมผัสบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้แบบ “มูเกนได ฮอนเต็น” พร้อมรสชาติจาก 8 เมนูใหม่ ได้แล้ววันนี้ ที่ทองหล่อ ซ.10 เปิดให้บริการ วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 น. – 24.00 น. และวันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 11.30 น. – 14.00 น. และ 17.00 น. เป็นต้นไป สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร. 02-726-9222