บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เนรมิตพื้นที่บูธในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 9 เมษายน 2560 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ภายใต้คอนเซ็ปต์ Honda Hub of Lifester ศูนย์รวมแรงบันดาลใจของเหล่าไบค์เกอร์ที่ต้องการออกแบบไลฟ์สไตล์ด้วยตัวเอง เปิดตัวรถต้นแบบที่ผสานความเท่ร่วมสมัยสไตล์โมเดิร์นคาเฟ่เรเซอร์ได้อย่างลงตัวกับ Honda 150SS Racer ที่ใช้งบประมาณการพัฒนากว่า 6 ล้านบาท พร้อมนำเสนอช็อปรูปแบบใหม่ที่จะมาสร้างคุณค่าและวัฒนธรรมการขับขี่ใหม่ๆ ให้กับตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยกับ C.U.B. House ช้อปที่ให้คุณได้ออกแบบไลฟ์สไตล์การใช้รถด้วยตัวเอง พร้อมยกทัพรถโมเดลใหม่แบบจัดเต็ม อาทิ All New Honda Scoopy i , All New Honda CBR1000RR, Honda CB1100 และ Honda X-ADV
มร.โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฐานะที่ฮอนด้าเป็นผู้นำแห่งวงการรถจักรยานยนต์ไทยมาอย่างยาวนานถึง 28 ปีซ้อน และบริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ที่ต้องการพัฒนาและผลิตรถจักรยานยนต์เพื่อตอบสนองไลฟ์ไตล์ใหม่ๆ อยู่ตลอด ดังนั้น จึงไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมใหม่ตามที่ประจักษ์สู่สายตาผู้บริโภคชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง
“จากความต้องการของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทยที่มีความเปลี่ยนแปลงไปตามสมัยนิยม แต่เดิมที่ใช้รถในชีวิตประจำวันสู่การขับขี่ในเชิงสันทนาการและต่อยอดสู่รูปแบบการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ในงานมอเตอร์โชว์ปีนี้ เราจึงออกแบบและสร้างบูธภายใต้คอนเซ็ปต์ Honda Hub of Lifester หรือศูนย์รวมของผู้ที่รักการใช้ชิวิตในรูปแบบต่างๆ ซึ่งเมื่อเข้ามาแล้วจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ในแบบที่ตัวเองชื่นชอบ”
“นอกจากนี้เรายังได้จำลอง New Concept Store ร้านมอเตอร์ไซค์รูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดตัวเร็วๆนี้ภายใต้ชื่อ C.U.B. House (คับ เฮ้าส์) โดยมีแนวคิดให้ช้อปแห่งนี้เป็น House of Creation ที่ไม่ใช่แค่ร้านจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเข้ามามีส่วนร่วม ออกแบบไลฟ์สไตล์ของตัวเองกับฮอนด้าได้อีกด้วย”
ในส่วนของการจัดแสดงรถจักรยานยนต์ไฮไลท์สำคัญของงาน ได้แก่ รถต้นแบบ Honda 150SS Racer คิดค้นโดยทีมวิจัยและพัฒนา ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Street Sport Racing รวมความเท่และร่วมสมัยในสไตล์ Modern Café Racer ผสานความเร็ว แรง และปราดเปรียวจากสนามแข่งสู่สุดยอดแรงบันดาลใจแห่งการขับขี่ในโลกอนาคต
ตามด้วยการเปิดตัวโมเดลใหม่ All New Honda Scoopy i รถ เอ.ที.ยอดนิยมของคนไทยที่ได้รับการออกแบบใหม่ในสไตล์มินิมอล นำเทรนด์ด้วยฮอนด้าสมาร์ทเทคโนโลยี เครื่องยนต์ eSP ขนาด 110 ซีซี. 4 จังหวะ ระบบหัวฉีด PGM Fi ระบายความร้อนด้วยอากาศ ระบบหยุดเครื่องยนต์อัจฉริยะ (idling stop system) เทคโนโลยีกระจายแรงเบรค (Combi Brake system) และครั้งแรกของรถจักรยานยนต์กับฟั่งก์ชั่นใหม่ ไฟแจ้งเตือน Eco Mode เมื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่แบบประยัดน้ำมัน โดดเด่นด้วยไฟหน้า LED Projector แบบ Ring Light ไฟท้ายแบบบิ้วท์อินติดตั้งไฟเลี้ยวในตัว เพิ่มที่ชาร์จ AC Socket ใต้คอนโซลหน้า และพื้นที่เก็บของใต้เบาะ U- box แบบจุใจถึง 15.4 ลิตร ราคาแนะนำเริ่มต้นโดยประมาณที่ 51,100 บาทในรุ่น Club 12, 48,600 ในรุ่น Prestige และ 48,100 ในรุ่น Urban team
ขณะที่กลุ่มรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ นำทัพโดย รถจักรยานยนต์อเนกประสงค์ New Honda X-ADV ที่ได้รับการพัฒนามาจากแนวคิด Go Everywhere with Excited feeling พกพาคุณสมบัติเด่นด้วยเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ ขนาด 750 ซีซี. พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีการส่งกำลังด้วยระบบ DCT แบบคลัตซ์คู่ สามารถตอบสนองการใช้งานทั้งในเมืองและนอกเมือง ตลอดจนรูปแบบออนโร้ดหรือออฟโร้ด เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก ราคา 415,000 บาท
ถัดมาเป็นการเปิดตัวคลาสสิกไบค์ระดับตำนาน All New Honda CB1100 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาด 1,140 ซีซี. โมเดลล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในต่างประเทศ ซึ่งเป็นโฉมที่ได้รับการพัฒนาด้านรูปลักษณ์ให้มีความสปอร์ตยิ่งขึ้น จากถังน้ำมันดีไซน์ใหม่ที่มีความปราดเปรียว ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED เช่นเดียวกับสมรรถนะการควบคุมที่ดีขึ้น จากการรีดน้ำหนักตัวรถโดยรวมที่ลดลง 5 กิโลกรัม พร้อมกับการลดแรงบีบคลัทช์ลง 16% ช่วยให้ขับขี่ง่ายขึ้น พร้อมวางจำหน่ายราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัว โดยมี 2 รุ่นให้เลือก CB1100EX ราคา 549,000 และรุ่นใหม่ CB1100RS ราคา 559,000 บาท
สำหรับอีกหนึ่งรุ่นสำคัญ คือ All New Honda CBR1000RR ซูเปอร์สปอร์ตไบค์ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งสู่การขับขี่บนท้องถนน ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ขนาด 1,000 ซีซี. ได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบา มีอัตราส่วนกำลังอัดที่ 13.0 สามารถทำกำลังสูงสุดได้ 141 กิโลวัตต์ที่ 13,000 รอบต่อนาที พร้อมวางจำหน่าย ราคา 643,000 บาท รวมถึงยังมีเวอร์ชั่น SP ซึ่งเป็นรุ่นท็อปที่อัพเกรดสมรรถนะเทียบเท่ารถที่ใช้ในการแข่งขัน จัดแสดงพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ราคา 779,000 บาท
ขณะเดียวกันฮอนด้ายังจัดแสดงรถที่จะใช้ลงทำการแข่งขัน รายการ Suzuka 4 Hrs Endurance ตามที่เคยประกาศนโยบายมอเตอร์สปอร์ตประจำปี 2017 ไปแล้วว่า ต้องการพัฒนาศักยภาพบุคลากรทั้งนักแข่งและทีมช่างโค้ชรวมถึงสมาชิกในทีมแข่งอย่างเป็นระบบ เพื่อก้าวสู่รายการแข่งขันระดับโลก และยังได้ผสานความร่วมมือกับ Kushitani แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญการผลิตชุดเรซซิ่งสูทในการออกแบบชุดแข่งให้กับทีม A.P. Honda Racing Thailand สำหรับลงชิงชัยในเกมการแข่งขันที่ทรหดที่สุดรายการนี้อีกด้วย
ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธรถจักรยานยนต์ฮอนด้าได้ที่บูธ M4 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2017 ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม ถึงวันที่ 9 เมษายน 2560 ที่ชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.aphonda.co.th และ www.facebook.com/hondamotorcyclethailand และฮอนด้าบิ๊กไบค์ https://www.facebook.com/HondaBigBikeTH