เรียกว่าผ่านงานเพลงมาแล้ว จนเป็นที่รู้จัก และ ณ ตอนนี้ ปอ อรรณพ ก็ได้มีโอกาสมาทำงานอีกบทบาทหนึ่ง ในฐานะนักแสดง จากละครเรื่องตะวันยอแสง เจ้าตัวยอมรับ บทนเรนทร์ที่ได้รับนั้น ร้ายสุดขั้วจริง ๆ
“เรื่องนี้ร้ายสุดขั้วเลยครับ สำหรับบทของนเรนทร์ ในตะวันยอแสง ซึ่งโดยส่วนตัวการทำงานละครเรื่องนี้ ถือว่าเป็นการทำงานแบบเป็นนักแสดงเต็มตัว ร่วมกับผู้จัด พี่นก สินจัย เปล่งพานิช แล้วก็เป็นการทำงานกับช่อง 3 เรื่องแรกด้วยครับ ตอนที่พี่นกติดต่อผมมาครั้งแรก ให้รับบทเป็นอีกคนหนึ่ง เป็นคนดี น่ารัก ใส ๆ แต่พอผมได้อ่านบทของนเรนทร์ แล้วพี่นก สินจัย มาถามผมว่า อยากลองเล่นบทนี้ดีไหม เรียกว่า เข้าทางผมเลยครับ ผมตอบตกลงเลย ถึงแม้จะเป็นตัวร้าย แต่ผมถือว่า บทนเรนทร์ เป็นบทที่ท้าทาย สนุกมากครับ ผมอยากเล่นมากเลย ถือว่าโชคดีจริง ๆ แล้วผมก็ได้เล่นบทของนเรนทร์ โดยส่วนตัวไม่ได้ห่วงว่าคนจะเกลียดนะครับ เพราะผมถือว่า มันคือการแสดง ถ้าเราอินไปกับมัน ตั้งใจไปกับมัน ผมว่ามันก็น่าจะไปได้ดี ผมต้องทำการบ้านเวลาเล่นเยอะมาก เพราะทั้งผู้กำกับ อาหมี โชติรัตน์ และพี่นก สินจัย ก็จะเข้ามาดูในเรื่องอารมณ์การแสดงเยอะมาก เล่นเรื่องนี้ทั้งเรื่อง ผมทำลายข้าวของไปเยอะมาก เพราะต้องขว้างปาข้าวของ ด้วยเพราะเป็นคนเอาแต่ใจ ของพังไปหลายชิ้นเลยครับ ความร้ายกาจของผมก็จะมีพัฒนาการ จากร้ายแบบเด็ก ๆ ที่ชอบเกเร เพราะถูกตามใจมานาน แต่พอวันหนึ่ง รู้ความจริง ว่าตัวเราไม่ใช่ลูกเศรษฐี ไม่ใช่คนที่จะได้รับมรดกตัวจริง ความร้ายกาจ ก็จะพัฒนาการเป็นแบบวางแผน ฆ่าคนอื่นแล้ว มันจะร้ายขึ้นเรื่อย ๆ ต้องสร้างจินตนาการของเรา ซึ่งมันก็เป็นการบ้านหนักเหมือนกัน ช่วงที่ได้บทไป ก็อ่านวนแล้ววนอีก แล้วก็พยายามวางตัวละครให้มันแน่นๆ เพราะว่าพี่นก อุตส่าห์ให้บทที่หนักขนาดนี้มา เราก็เลยรู้สึกว่าเราก็ต้องทำให้เต็มที่ให้สมกับที่พี่เขาให้โอกาสเรา เวลาเล่นแต่ละครั้ง ก็ต้องทำสมาธิพอสมควร เพราะคำพูด การกระทำทุกอย่าง มันจะหนัก และจะแรง กว่าตัวละครอื่น ๆ มากกว่าปรกติ อีกเป็นเท่าตัว ตั้งแต่ตอนอ่านบทแล้ว ก็คิดว่า ทำไมมันชั่วนาดนี้ มันเกินคำว่าร้ายครับ เพราะว่าคิดว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องธรรมดา ทำไมทุกคนต้องมาแย่งทุกอย่างไปจากตัวเราทั้งที่มันควรเป็นของเรา มันก็จะคิดอยู่แค่นี้ เรียกว่า การทำงานเรื่องนี้ มีความเครียด มีความกดดันอยู่ไม่น้อย แต่ก็พยายามตั้งใจเล่นเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด หวังว่าทุกคนคงจะได้ติดตามกันนะครับ ฝากผลงานละคร ตะวันยอแสงด้วยนะครับ”
ออกัส วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ รับบท นพดล หรือเอี้ยง
เป็นหนุ่มหน้าใสอีกคน ในละครเรื่องตะวันยอแสง ที่รับบทของนพดลหรือเอี้ยง ได้โดนใจท่านผู้ชม จนกลายเป็นที่กล่าวขานถึง สำหรับน้องออกัส วชิรวิชญ์
“เรื่องนี้ผมรับบทเป็นนภดล หรือเอี้ยงครับ เป็นเพื่อนสนิทกับพี่น้ำตาล พิจักขณา นางเอกของเรื่อง เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เล็กจนโต เหมือนเป็นพี่น้องกันเลยครับ ละครเรื่องตะวันยอแสง เป็นการทำงานเรื่องแรก กับทางช่อง 3 ครับ ก่อนหน้านี้ ก็มีผลงานมาบ้างครับ แต่สำหรับเรื่องนี้ คาแรคเตอร์ จะต้องชัดเจน เพราะทุกคนเล่นบทของตัวเอง ชัดกันหมด ถ้าเราเล่นดรอปกว่าคนอื่น มันก็จะดูไม่เข้ากัน เราก็ต้องเล่นให้มันชัดไปด้วย ผมค่อนข้างเครียดมากเลยครับเรื่องนี้ ด้วยความที่เป็นละครพีเรียด จังหวะการแสดง คำพูด ทุกอย่าง มันจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งเลย กับชีวิตปัจจุบันของผม แล้วนักแสดงทุกคนก็เก่ง ๆ กันทั้งนั้น ผมเลยยิ่งดูใหม่ขึ้นไปอีก โชคดีที่ผมได้เข้าฉากกับพี่ป๋อ ณัฐวุฒิ พี่น้ำตาล พิจักขณา สองคนนี้จะช่วยผมเรื่องบท เรื่องการแสดงเยอะมาก เพราะผมต้องทำอะไรที่ผมไม่เคยทำ ต้องทำในสิ่งที่กลัวหลายอย่าง กว่าจะผ่านไปได้ มันก็ต้องใช้ใจที่กล้าพอสมควรครับ อย่างผมกลัวปลา กลัวการจับปลา ไม่กล้าลงขี้โคลน เรื่องนี้ผมต้องทำผมเลยครับ เพราะคาแรคเตอร์ จะเป็นบทซน ๆ พี่น้ำตาลทำอะไร ผมก็ทำด้วยหมดเลยครับ บางครั้ง ผมยังเล่นไม่ได้ ยังเล่นไม่ดีเท่าที่ควร ทีมงานพักไปกินข้าวกัน ผมกับพี่น้ำตาล ก็ยังต้องซ้อมการแสดงกันอยู่กลางน้ำ ยังเคยมีเลยครับ เรียกว่า กว่าจะผ่านงานเรื่องนี้ไปได้ ทำให้ผมเข้มแข็ง อดทน มากขึ้นไปอีกครับ ตอนแรกผมเล่นซีรีส์วัยรุ่นมาหลายเรื่อง ก็คิดว่าตัวเองเล่นได้แล้ว แต่พอมาเล่นเรื่องนี้ โอ้โห รู้เรื่องเลย นี่คือของจริง มันคนละเรื่องกันเลย ยิ่งเป็นละครพีเรียดด้วยแล้ว มันยากกว่าละครธรรมดา เป็นอีกหลายเท่าตัว ตอนแรกก็เครียด แต่ตอนนี้เรารู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ขอบคุณพี่นก สินจัยมากๆ ที่อดทนช่วยสอนผมตลอด แล้วก็ให้โอกาสดี ๆ กับผม ได้มาเล่นละครเรื่องนี้ ผมขอฝากผลงานละครตะวันยอแสงไว้ด้วยนะครับ ฝากติดตามชมกันด้วย อย่าพลาดนะครับ”