เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา คุณ ‘Lee Soo Man’ (ลี ซูมาน) โปรดิวเซอร์กิตติมศักดิ์แห่งค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลี S.M. Entertainment (เอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์) ได้รับรางวัลสาขาวัฒนธรรมการทูต จากงาน ‘Youngsan Diplomat of the Year 2016 Award’ ที่จัดขึ้นที่โซล พลาซ่า โฮเทล ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งคุณ ‘Lee Soo Man’ ถือเป็นบุคคลสำคัญด้านวัฒนธรรมเกาหลีคนแรกที่ได้รับรางวัลจากสาขานี้ ในฐานะที่เป็นผู้เผยแพร่ และยกระดับวัฒนธรรมเกาหลีสู่ประชาคมชาวโลกในแง่ทางการทูต
สำหรับรางวัล ‘Youngsan Diplomat Award’ เป็นรางวัลที่มอบเป็นประจำทุกปีแก่ภาครัฐ และบุคคลที่สร้างคุณงามความดีให้แก่ประเทศชาติ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ทาง the Seoul International Forum (เดอะ โซล อินเทอร์เนชั่นแนล ฟอรั่ม) ได้ทำการคัดเลือกให้บุคคลเข้ารับรางวัลสาขานี้ โดยคุณฮัน ซึงจู ประธานคณะกรรมการฝ่ายต่างประเทศของงาน ได้กล่าวว่า คุณ ‘Lee Soo Man’ เป็นผู้ริเริ่มที่ทำให้กระแสวัฒนธรรมป๊อปเกาหลีเป็นที่แพร่หลาย
โดยในงานรับรางวัลนี้ คุณ ‘Lee Soo Man’ (ลี ซูมาน) ได้ขึ้นบรรยายในหัวข้อคอนเซ็ปต์ใหม่ในการสร้างวัฒนธรรมคอนเทนต์ ที่สามารถเป็นสื่อทางการทูตผ่านวัฒนธรรมเคป๊อป ดังนี้
“เคป๊อป กลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ของเกาหลี และกระแสเกาหลีฟีเวอร์นี้ ไม่ได้เป็นแค่คอนเทนต์ในด้านวัฒนธรรมอย่างเดียว แต่กลับรวมไปถึงด้านความงาม อาหาร แฟชั่น ไอที การท่องเที่ยว และอื่น ๆ ที่กำลังส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของคอนเทนต์ทางด้านวัฒนธรรมของเกาหลี และวัฒนธรรมเคป๊อปนั้น เป็นสิ่งที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของชาติอีกทางหนึ่งเช่นกัน” พร้อมทั้งกล่าวว่า “สำหรับผม วัฒนธรรมมาก่อน และเศรษฐกิจจะตามมา (‘Culture First, Economy Next’) เพราะเมื่อสร้างวัฒนธรรม เศรษฐกิจก็จะเกิดขึ้น กล่าวคือ เป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของชาติให้แข็งแรง”
นอกจากนี้ ยังได้เผยถึงมุมมองในอนาคตของค่าย S.M. Ent. ว่า “S.M. กำลังมองอนาคตผ่านมุมมอง 2 แบบหลัก คือ โลกของเซเลบบริตี้ และโลกของหุ่นยนต์ โดย S.M. กำลังค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับการสร้างความสุข และความสนุกให้กับผู้คนผ่านวัฒนธรรม และความบันเทิงในโลกอนาคตที่กำลังจะมาถึง” พร้อมกล่าวเสริมว่า “S.M. ได้ร่วมลงทุนในบริษัทสัญชาติอเมริกันที่เชี่ยวชาญทางด้าน AI อย่างบริษัท ObEN และได้ก่อตั้งบริษัท AI Stars ขึ้นในฮ่องกง โดยหลังจากนี้ S.M. มีแผนที่จะขยายธุรกิจเอเจนซี่ที่นำเสนอคอนเทนต์ใหม่ที่รวมเอาเทคโนโลยี AI กับเซเลบบริตี้เข้าไว้ด้วยกันในเอเชีย และขยายขอบเขตไปทั่วโลก“
ไม่เพียงเท่านี้ ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ในโลกอนาคตที่เราคาดหวังไว้ คงจะเป็นโลกที่แข่งขันกันระหว่าง อเมริกา ยุโรป และเอเชีย กล่าวคือ การแข่งขันระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตก ซึ่งผมคิดว่า เซเลบบริตี้อันดับที่ 1 ของโลก และวัฒนธรรมคอนเทนต์ ควรสร้างมาจากการร่วมมือกันของชาติต่าง ๆ ในเอเชีย ถ้าหากประเทศในเอเชีย อาทิ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ สามารถร่วมมือกันได้ เราก็จะสามารถสร้างฮอลลีวูดในแบบฉบับโลกตะวันออกได้ ซึ่งจะเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเซเลบบริตี้ระดับโลกก็จะเกิดจากที่เอเชียแห่งนี้”
ก่อนจะกล่าวปิดท้ายว่า “อนาคตของเกาหลีในแง่ของการแข่งขันระหว่างโลกตะวันออกกับโลกตะวันตกนั้น เราจะต้องร่วมมือกับประเทศในแถบเอเชียด้วยกัน ผมเชื่อว่าเกาหลีมีความสามารถในการผลิตที่จะสร้างเซเลบบริตี้ และคอนเทนต์ที่แข็งแรง อีกทั้งเรายังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่ง และรักษาระดับการแข่งขันนี้ไว้ได้ ด้วยการเตรียมพร้อม และปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2045”
โดยหลังจากจบงาน คุณ ‘Lee Soo Man’ ยังได้บริจาคเงินรางวัลที่ได้มาทั้งหมดให้กับโครงการ ‘SMile for U’ (สไมล์ ฟอร์ ยู) ซึ่งเป็นโครงการร่วมมือ และสนับสนุนระหว่าง S.M. Ent กับ คณะกรรมการ UNICEF เกาหลี ที่ให้ความช่วยหลือ และสนับสนุนเด็กในเอเชียด้านการเรียนดนตรี
ทั้งนี้ คุณ ‘Lee Soo Man’ ได้จบการศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ จากนอร์ธบริดจ์ แคมปัส มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ที่ซานตาบาร์บารา โดยระหว่างที่ทำการศึกษาที่สหรัฐอเมริกานั้น หลังจากที่ได้ไปเยี่ยมชม MTV ก็เกิดความคิดที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตลาดเพลง จึงได้กลับมาที่ประเทศเกาหลีใต้ และก่อตั้งบริษัทเอสเอ็ม เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ ขึ้นในปี 1995 โดยมีแผนการที่จะค้นหา พัฒนาศิลปินให้ก้าวไปถึงตลาดต่างประทศ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศเกาหลีใต้เช่นกัน ที่มีการพัฒนา และสร้างไอดอลเพื่อมาเป็นไอคอนตัวแทนของเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น H.O.T., Shinhwa, S.E.S, EXO, BoA และอื่น ๆ นอกจากนี้ เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา คุณ ‘Lee Soo Man’ ยังนับเป็นชาวเกาหลีคนแรกที่ได้รับรางวัลจากงาน ‘2016 Asia Game Changer Awards’ อีกด้วย