คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถ้าจะพูดถึงกลุ่ม ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปลูกทุ่งแนวใหม่ สุดเซ็กซี่ ยุดแรกๆต้องมีชื่อ กลุ่มศิลปิน บลูเบอร์รี่ อาร์สยาม เพราะนอกจากเสียงร้องที่ต้องบอกว่าดีแล้ว นักร้องสาวค่ายอาร์สยามจะมีจุดเด่นที่ความเซ็กซี่ ล่าสุดหลังจากมีข่าว ผู้ปลุกปั้น ศุภชัย นิลวรรณ โบกมือลาอาร์เอสฯ จนสะเทือนวงการลูกทุ่ง ทำให้ “ออม อาร์สยาม” ตัดสินใจปิดตำนานบลูเบอร์รี่ หันเอาดีธุรกิจ!!
“ออม อาร์สยาม” (เพลินศิลป์ เกตุแก้ว) กล่าวว่า “ก็รู้สึกกับครั้งนึงในชีวิตที่เราผ่านมา เราเคยเดินไปแตะจุดที่พีคที่สุดในการเป็นศิลปิน ได้เดินทางไปออกคอนเสิร์ตทั่วไทย ได้มีโอกาสเดินทางไปเป็นตัวแทนศิลปินจากประเทศไทยในต่างประเทศ ออมว่าออมเกิดมาชีวิตนี้ออมคุ้มค่ามากๆ ได้เจอคนหลายรูปแบบ ได้มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิต ได้เห็นเบื้องหน้าและเบื้องหลังของคนในวงการมายา ได้ผ่านทั้งจุดที่มีความสุขที่สุดและเจ็บที่สุดในการทำงานและทุกๆอย่างมันคือความทรงจำและบทเรียนที่สำคัญมากๆ มันเป็นสิ่งที่ส่งต่อให้เราออกแบบทางเดินเราต่อได้
ใจหายไหม ที่ต้องปิดตำนานแยกย้าย
ถามว่าลึกๆนั้นใจหายมั้ย ก็คงตอบได้ว่าใจหายมากๆ เพราะ ออมก็ยังคงรักการร้องเพลงนะคะ เพราะตอนนี้ถึงจะไม่ได้ออกงานในนามบลูเบอร์รี่ ทางลูกค้าก็สามารถซื้องานคอนเสิร์ตแยกเดี่ยวของออมได้ และทุกครั้งที่ขึ้นไปยืนร้องเพลงทุกทีเราก็มีความสุขและไม่อยากลงจากเวที และก็คิดถึงภาพบรรยากาศเก่าๆที่เคยตระเวนออกคอนเสิร์ตทุกวัน แต่ก็อย่างว่าค่ะอาจจะถึงเวลาของคลื่นลูกใหม่ๆที่เข้ามาแล้ว เราก็ต้องเข้าใจในวัฏจักรนี้ ถามว่าท้อมั้ยที่หลังๆมางานเพลงเราลดลง ก็มีบ้างคะ เราก็ค่อยๆทำใจไว้ตั้งนานแล้ว และออมเองก็ได้แพลนทุกอย่างไว้สำรองประมาณ 5ปีก่อนหน้านี้ แล้วว่าเราควรจะทำอะไรถ้าวงจรชื่อเสียงของเรามันค่อยๆหมดไป และมีคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่ โชคดีที่ออมวางแผนการเงินไว้ด้วยค่ะ เพราะแม่กับพ่อจะเตือนออมตลอดว่างานในวงการมันไม่ได้มั่นคง มันจะมีเวลาของมัน ให้มีสติและถึงขั้นบังคับให้เราวางแพลนไว้ให้หมดตั้งแต่เพลงชิมิดังเลยค่ะ
ใช่ค่ะถามว่า ทำไมออมถึงหันมาทำธุรกิจ และทำไมดารานักร้องพอออกจากวงการแล้วต้องหันมาทำธุรกิจ ถ้าในส่วนตัวออม ออมชอบขายของ ชอบความสวยความงาม ชอบเครื่องสำอางและออมว่าออมถนัดด้านนี้และรักในงานด้านนี้ ออมชอบคิดไอเดียทางการตลาด เงินที่ออมเก็บจากตอนที่มีคอนเสิร์ตออมก็เอามาต่อยอดค่ะ มาลงทุน ขายดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ปิดไปบ้าง เปลี่ยนมือบ้าง ก็ทำไปค่ะไม่ท้อเพราะมันท้าทายดี ออมชอบเรียนการตลาด ลงคอร์สเรียน ทั้งในไทยและต่างประเทศ เรียนภาษาเพิ่ม ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น เพราะออมถือว่า การลงทุนพวกนี้ แพงหน่อยแต่มันก็ใช้ทำเงินได้ ล่าสุดตอนนี้พอเราไปเห็นไปลองอะไรดีๆ ของคุณภาพดีๆที่ญี่ปุ่นก็เลยอยากลองนำเข้ามาขายให้คนไทยดู อย่างใจในแอปพลิเคชั่น “อัพมี” ที่ออมทำตอนนี้ เป็นแอพที่สามารถช็อปออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งออม รับตำแหน่งผู้บริหารฝ่ายการตลาดในไทยและอาเซียน อัพมี” (Upme application)ถือเป็น แอปพลิเคชั่นช๊อปปิ้งออนไลน์แบบไลฟ์สด เจ้าแรกในไทยและอาเซียน เราใช้กลุยุทธ์ กลุ่ม Influencer / KOL (ดารา,เซเลบ,บล็อกเกอร์ชื่อดัง) คอยเป็นผู้นำเสนอสินค้า ซึ่งถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็สามารถดาวน์โหลดอัพมี(Upme application) ได้ทั้งระบบไอโอเอส และแอนดรอยด์ ที่แอพ สโตร์ และกูเกิล เพลย์ และสมัครใช้บริการได้ง่ายๆค่ะ