โดย
ตุ๊กกี้เผยว่า “1 ปีผ่านไป รวดเร็วมากๆ สำหรับคนที่สูญเสียครั้งยิ่
งใหญ่ที่สุดในชีวิต สิ่งหนึ่งที่กี้ทำได้
ในฐานะประชาชนคนไทยคือเจริ
ญรอยตามพระราชกรณียกิ
จของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะในเรื่องของความพอเพียง ไม่ว่าจะเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี ถ้าเรารู้จัก “ความพอ” เราจะอยู่ได้อย่างมีสติและมี
ความสุข กี้เป็นคนไม่มีบุญ ไม่เคยเจอพระองค์ท่าน เพราะตอนมาอยู่กรุงเทพฯ พระองค์ท่านก็เริ่มประชวร(น้ำ
ตาคลอ) แต่บ้านกี้อยู่ใกล้สนามหลวง เวลาที่มีโอกาสกี้จะไปสนามหลวง หลายครั้งคลุมหน้าคลุมตาไป เพราะบางคนเห็นหน้าเราแล้วตลก กี้ไม่อยากให้เสียบรรยากาศในวั
นที่ทุกคนกำลังร้องไห้ กี้ได้มีโอกาสกิจกรรมทำอะไรเพื่
อพระองค์ท่านหลายครั้ง ภูมิใจทุกครั้งที่ได้เพื่
อในหลวง ล่าสุดมีโอกาสร่วมกับ อสมท ในการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมแสดงการรำที่กรมศิลปากร สุขใจที่ได้ใช้ความสามารถที่
เราถนัด ถ่ายทอดและสืบสานวัฒนธรรมไทย สานต่ออนุรักษ์ความเป็นไทยให้
คงอยู่ ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยค่ะ”
ส่วน
ท๊อฟฟี่เสริมต่อว่า “ปีที่ผ่านมา เราสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุ
ดในชีวิต เป็นความเสียใจที่แม้ว่าวันนี้
ผ่านไป 1 ปีแล้ว ซึ่งรวดเร็วมากในความรู้สึ
กของประชาชนคนไทยทุกคน แต่เมื่อถึงวันที่เวี
ยนบรรจบครบรอบอีกครั้ง ในความรู้สึกของเรายังคงโศกเศร้
าทุกครั้งที่นึกถึง ผมในฐานะของประชาชนสิ่งหนึ่งที่
เราทุกคนสามารถทำเพื่อพระองค์ท่
านได้คือ การทำความดี ซึ่งแนวทางนั้นแล้วแต่ใครจะยื
ดถือปฎิบัติทางด้านไหนก็สุดแล้
วแต่ความสมัครใจ สำหรับตัวผมและครอบครัว รวมถึงทุกคนในวง “3.50” สิ่งที่พวกเราทำหน้าที่และเดิ
นตามรอยพระองค์ท่านคือ เรื่องการให้อภัย ในแต่ละปีๆ มีการพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้
องขัง(นักโทษ)จำนวนมาก เพื่อให้โอกาสคนได้กลับตัวเป็
นคนดีคืนสู่สังคม ให้โอกาสผู้ที่ผิดพลาดได้แก้
ไขในสิ่งที่เคยทำผิดไป ผมในฐานะคนไทยได้มีโอกาสเข้าเป็
นส่วนหนึ่งในการสนองพระองค์
ในโครงการในพระราชดำริ
ของพระองค์ท่าน ได้รวมตัวกับเพื่อนๆ โดยมีบ๊อบบี้เป็นตัวตั้งตัวดี ร่วมเป็นหนึ่งใน
“โครงการผู้สร้างผู้ก่อแต่การดี ใต้ร่มพระบารมี” เข้าไปสร้
างความสุขกิจกรรมสันทนาการให้กั
บผู้ต้องโทษภายในเรือนจำทุกๆเดื
อน เพื่อหวังว่าเราจะได้เป็นส่
วนหนึ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้
กับเยาวชนผู้เคยหลงผิดให้กลั
บออกมามีชีวิตที่ดีในสังคม”