เปิดฉากมหากาพย์การแสดงสุดยิ่งใหญ่ไปแล้ว สำหรับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่ 4 “EXO PLANET #4 – The EℓyXiOn – in BANGKOK” (เอ็กซ์โซ แพลนเน็ต นัมเบอร์ โฟร์ – ดิ แอลลีเชี่ยน – อิน แบงค็อก) ที่จัดขึ้นถึง 3 รอบ ในวันศุกร์ที่ 16, เสาร์ที่ 17 และอาทิตย์ที่ 18 มีนาคม 2561 ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี โดย ‘EXO’ ก็ได้ตอกย้ำความเป็นราชาแห่งเค-ป๊อปอีกครั้ง ด้วยกระแสตอบรับอันร้อนแรงไม่มีที่สิ้นสุด กับการที่บัตรคอนเสิร์ตถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเหมือนทุกครั้ง ตั้งแต่คอนเสิร์ตครั้งแรกในปี 2557, ครั้งที่ 2 ในปี 2558, ครั้งที่ 3 ในปี 2559 และล่าสุดในปี 2561 กับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่ 4 ที่กลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิมถึง 3 รอบการแสดง พร้อมกันนี้ ยังได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ ‘EXO’ เป็นศิลปินเกาหลีที่สามารถจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตหมดทั้ง 3 รอบภายในระยะเวลาเพียง 5 นาที รวมจำนวนผู้เข้าชมทั้งสิ้นถึง 33,000 คน
โดยในวันที่ 17 มีนาคม 2561 เวลาประมาณ 16.00 น. บริษัท เอสเอ็ม ทรู จำกัด ต้นสังกัดในประเทศไทย และผู้จัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ ได้จัดงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตขึ้น ซึ่งสมาชิก ‘EXO’ ได้แก่ XIUMIN (ซิ่วหมิน), SUHO (ซูโฮ), BAEKHYUN (แบคฮยอน), CHEN (เฉิน), CHANYEOL (ชานยอล), D.O. (ดีโอ), KAI (ไค) และ SEHUN (เซฮุน) ได้ร่วมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความรู้สึกที่ได้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง พร้อมกับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งที่ 4 รวมถึงกระแสตอบรับอันร้อนแรงจากแฟนคลับชาวไทย และไฮไลท์ของคอนเสิร์ต โดยชื่อคอนเสิร์ต “The EℓyXiOn” (ดิ แอลลีเชี่ยน) หมายถึง สวรรค์ที่มีเฉพาะผู้ที่ถูกเลือกเท่านั้น นำเสนอคอนเซ็ปท์สุดยิ่งใหญ่ของการออกตามหาโลกในอุดมคติ โดย ‘EXO’ ตั้งใจมาดึงดูดทุกคนให้ตกอยู่ในสรวงสวรรค์ของพวกเขา พร้อมสร้างช่วงเวลาดี ๆ ร่วมกันในคอนเสิร์ต
ต้อนรับเข้าสู่สรวงสวรรค์ด้วยการปรากฏตัวของ ‘EXO’ พร้อมกับการแสดงอันทรงพลังเพลง ‘The Eve’, ‘Forever’ และเพลงเปิดตัวแนวเร้กเก้ป๊อป ‘Ko Ko Bop’ จากอัลบั้มเต็มชุดล่าสุด “THE WAR” ที่ส่งให้พวกเขาได้ขึ้นแท่นเป็นศิลปินมียอดขายทะลุล้านติดต่อกันเป็นชุดที่ 4 พร้อมตื่นตาตื่นใจไปกับเวทีการแสดงเพลงฮิตอย่าง ‘Growl’, ‘CALL ME BABY’ ไปจนถึงช่วงที่ทุกคนได้มันส์สุดเหวี่ยงไปด้วยกันกับเพลง ‘Drop That’ และ ‘Power’ เวอร์ชั่นรีมิกซ์ รวมทั้งยังมีซิงเกิ้ลภาษาญี่ปุ่นอย่าง ‘Coming Over’, ‘Run This’ นอกจากนี้ ยังมีเวทีพิเศษจากยูนิตแรกของ ‘EXO’ อย่าง EXO-CBX (เอ็กซ์โซ-ซีบีเอ๊ก) ที่ออกมาสร้างความสนุกสนานในเพลง ‘Ka-CHING!’
ไฮไลท์สำคัญของคอนเสิร์ตนี้ คือ การแสดงโซโล่โชว์ความสามารถของแต่ละสมาชิกเพื่ออัพเกรด และทำให้โชว์สมบูรณ์แบบมากขึ้น เริ่มจาก ‘BAEKHYUN’ กับ ‘XIUMIN’ ที่มาเต้นดวลกันแบบเท่ ๆ ในช่วง ‘Battle Scene’, ‘KAI’ ออกมาพร้อมเพลง ‘I See You’ โชว์ลีลาการเต้นอันมีเอกลักษณ์สุดพลิ้วไหว, ‘D.O.’ โชว์เสียงนุ่มละมุนในเพลง ‘For Life’ เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษที่มี ‘CHANYEOL’ มาร่วมเล่นเปียโน, ‘SUHO’ โชว์เสน่ห์ความเซ็กซี่ในเพลง ‘PLAYBOY’, ‘CHANYEOL’ โชว์สกิลแร๊ปอันเต็มไปด้วยอารมณ์ในเพลงใหม่ที่แต่งขึ้นเองขณะที่คิดถึงสมาชิกอย่าง ‘Nine Hands’, ‘CHEN’ มาพร้อมกับเพลง ‘Heaven’ ที่ถูกปรับจังหวะใหม่ให้ได้ฟังเสียงร้องอันทรงพลังกันแบบชัด ๆ ด้าน ‘SEHUN’ ออกมาโชว์เสน่ห์อันน่าหลงใหลในเพลง ‘GO’ ที่เจ้าตัวได้มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้องเพลงนี้ด้วย
ความตระการตายังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะองค์ประกอบทุกอย่างทั้งเวทีการแสดง, บทเพลง, คลิปวีดีโอ และโปรดักชั่นต่าง ๆ ได้ถูกออกแบบมาให้เชื่อมโยงเป็นมหากาพย์เรื่องหนึ่ง รวมถึงจอ LED ขนาดยักษ์ 5 จอที่เรียงต่อกันหน้าเวทีทำให้เห็นภาพมุมกว้างแบบพาโนรามา อีกทั้งยังมีรถเลื่อนที่ถูกยกมาไว้ในคอนเสิร์ตให้แฟน ๆ รอบฮอลล์ได้ใกล้ชิดกับหนุ่ม ๆ กันมากขึ้นไปอีก ทางด้านแฟนคลับ EXO-L (เอ็กซ์โซ-แอล: ชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ) ก็ได้เตรียมหลากหลายโปรเจกต์คอยสร้างความประทับใจให้หนุ่ม ๆ ‘EXO’ เช่นกัน ทั้งการเปลี่ยนทะเลแท่งไฟสีเงินให้ทั่วทั้งฮอลล์กลายเป็นสีสัน และสัญลักษณ์ต่าง ๆ รวมถึงป้ายแบนเนอร์ความหมายดี ๆ อย่าง “วันนี้ EXO & EXO-L ห่างกันแค่เพียงเอื้อมมือ”, “ฉันจะจดจำทุกวินาทีที่ได้อยู่กับ EXO” และ “มาร่วมสร้างตำนานไปด้วยกัน WE ARE ONE” เป็นต้น เรียกได้ว่า เหล่าผู้ถูกเลือกที่ได้เข้ามาสู่สรวงสวรรค์แห่งนี้ ต่างก็ตกอยู่ในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความสุข สนุก อิ่มเอมหัวใจ ซึ่งไม่สามารถตามหาได้จากที่ไหน นอกจากที่ “The EℓyXiOn” สรวงสวรรค์ของราชาแห่งเค-ป๊อปที่แท้จริงอย่าง ‘EXO’ เพียงที่เดียวเท่านั้น
ภาพบรรยากาศเพิ่มเติม