“I loved her against reason, against promise, against peace, against hope,
against happiness, against all discouragement that could be.”
- Charles Dickens, Great Expectations -
คุณเคยรักใครสักคนแล้วใช้ความรักนั้นผลักดันให้เกิดเป็นไฟในการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นไหม หรือรักใคร สักคนแล้วรอการกลับมาของคนๆ นั้น ทั้งที่ลึกๆ แล้วก็รู้ว่าเค้าคงไม่มีวันกลับมา Landmeé Collection Fall/ Winter 2018 พาเราย้อนอดีตไปสู่ยุควิคตอเรียน กับเรื่องราวและแรงบันดาลใจจากนิยายของนักเขียนชื่อดังชาวอังกฤษ ชาลส์ ดิกคินส์ (Charles Dickens) เรื่อง Great Expectations ที่ดำเนินเรื่องโดยตัวละครสำคัญคือ Havisham หญิงสาวที่ใส่ชุดแต่งงานสีขาวรอคอยคนรักของเธอในปราสาท การรอคอยที่มีเพียงความหวัง แต่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ส่งผลให้หลานสาวของ Havisham นามว่า Estella ถูกเลี้ยงดูและปลูกฝังไม่ให้เชื่อในเรื่องของความรัก เธอเติบโตขึ้นมาด้วยความรู้สึกต่อต้านความรัก และเชื่อว่าความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้เด็กหนุ่มต่างชนชั้นที่หลงรัก Estella มาตั้งแต่เด็กต้องเพียรทำทุกอย่างเพื่อพิชิตใจของเธอ ท้ายที่สุดแล้ว แม้มันไม่ใช่ความรักที่สุขสมหวัง แต่มันคือความรักในอีกรูปแบบหนึ่ง
ความรัก ความหวัง การรอคอย ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นล่าสุด ภายใต้ชื่อและคอนเซ็ปท์ ‘LOVE IS ALMOST EVERYTHING’ การเดินทางครั้งใหม่ของ #LandmeeGIRLS ที่ครั้งนี้ Landmeé ได้โฟกัสที่ดีเทลของการตัดเย็บสร้างซีลูเอทแบบเสื้อผ้าโบราณ ซึ่งแต่งแต้มนิยามสาววินเทจแบบ #LandmeeGIRLS ให้เด่นชัดขึ้นโครงเสื้อและดีเทลต่างๆ ถูกนำกลับมาทำให้ทันสมัยและปรับใช้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ผ้าหรือการเลือกลูกไม้ ทั้งใหม่และเก่าถูกนำมาผสมผสานและรังสรรค์ผ่านตัวชุดได้อย่างแยบยล หรือแม้แต่กระดุมที่ช่วยแต่งเติมกลิ่นอายวินเทจของคอลเลคชั่นนี้ให้มีความสมบูรณ์ขึ้น ชาลส์ ดิกคินส์ เซ็ตฉากของเรื่องไว้ในยุควิคตอเรียน ส่งผลให้รายละเอียดของการออกแบบคอลเลคชั่นนี้มีเสน่ห์ของความเฟมินีนเฉกเช่นสาววิคตอเรียน อาทิเช่น puff sleeves และ baby doll ruffles ซึ่งล้วนแต่เป็นโครงเสื้อที่ใช้เทคนิคการสร้างแพทเทิร์นที่ซับซ้อน ตลอดจนการเล่นระบายบนตัวชุด ไปจนถึงลายปักที่เป็นประโยคสำคัญในเรื่องซึ่ง ชาลส์ ดิกคินส์ได้เขียนไว้อย่างสวยงาม
ในอีกมุมหนึ่ง คุณกำลังเห็น Havisham รอคอยคนรักของเธอในชุดแต่งงานลูกไม้สีขาว เราจึง ไม่แปลกใจที่คอลเลคชั่นนี้จะดำเนินเรื่องด้วยสีขาวเป็นสีหลัก ตั้งแต่สีขาวบริสุทธิ์ไล่มาจนถึงสีขาวออฟไวท์ และที่สำคัญคงหนีไม่พ้นลูกไม้หลากหลายสี ซึ่งในครั้งนี้ถูกนำมาใช้ทั้งแบบผืนและแบบตัดต่อ ตั้งแต่ลูกไม้สีทอง สีเขียว สีดำหรือแม้แต่สีม่วง ซึ่งล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากความโด่งดังของนิยายเรื่องนี้ ที่ถูกดัดแปลงเป็น ภาพยนตร์ ละครเวที หรือซีรี่ย์ กว่า 250 ครั้ง รวมถึงสัญลักษณ์รูปหัวใจที่แทนความหมายของความรักของผู้หญิง Landmee’ ที่มีความเฟมินีน อ่อนหวาน ในเรื่องการแต่งตัวและการใช้ชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็มีหัวใจที่เข้มแข็ง เธอบูชาความรัก แต่ก็มองว่าความรักไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งสร้างนิยามของสาว Landmeé สมกับชื่อคอลเลคชั่น Love Is Almost Everything ได้อย่างลงตัว
คุณสามารถพบกับเสื้อผ้าของ Landmeé คอลเลคชั่นฟอล/วินเทอร์ 2018 ‘Love Is Almost Everything’ ได้แล้ววันนี้ที่ช็อปณศูนย์การค้าสยามสแควร์วันชั้น 2