หลังจากที่ทาง Warner Bros. Pictures ได้ประกาศเชิญชวนแฟนภาพยนตร์เรื่อง “Fantastic Beasts: The Crimes of Grindelwald“ ที่ไม่ว่าจะเป็นใคร จะเป็นศิลปิน นักออกแบบ นักวาดภาพประกอบ หรืออนิเมเตอร์ ฯลฯ ก็สามารถมาอวดฝีมือ สร้างสรรค์ผลงานภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ หรือตัวอย่างภาพยนตร์เท่านั้น โดยกรรมการจะคัดเลือกชิ้นงานที่น่าสนใจขึ้นมาทั้งหมด 5 ชิ้น ซึ่งภาพที่ชนะการประกวด ยังมีสิทธิได้ขึ้นแสดงในแคมเปญโฆษณาทั้งทางสื่อดิจิตอล, ภาพบิลด์บอร์ด และสินค้าที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจได้รับงานต่อเนื่องจากภาพยนตร์อีกด้วย!
และก็กลายเป็นกระแสฮือฮาให้กับแฟน ๆ ชาวไทยไม่น้อย เพราะ 1 ใน 5 ภาพที่ชนะเลิศ เป็นฝีมือการจับไม้กายสิทธิ์แล้วเริ่มเสกอาร์ตเวิร์คของนักออกแบบอิสระชาวไทย คุณอภิชาติ ศรีตรุยานนท์ (โจ้) ที่ผลงานของเขาได้แผยแพร่ให้เห็นฝีมือกันทั่วโลกไปแล้ว และวันนี้มีบทสัมภาษณ์สุด Exclusive ของคุณโจ้-อภิชาติ ว่ากว่าจะมาเป็นผลงานชิ้นนี้มาให้ทราบกันอีกด้วย
Q: แนะนำตัว
A: อภิชาติ ตรีตรุยานนท์ (โจ้) ผมเรียนจบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาการออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพครับ ปัจจุบันทำงานเป็นนักออกแบบอิสระครับ
Q: เข้าสู่โลกเวทมนตร์ได้ยังไง และทำไมถึงหลงรักโลกเวทมนตร์
A: ผมเริ่มจากการได้อ่านหนังสือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ แปลไทย ตอนสมัยป.6 ครับ แล้วพอรู้ว่าภาพยนตร์แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับศิลาอาถรรพ์ เข้าฉาย แล้วมีโอกาสได้ไปดูก็ทำให้รักโลกเวทมนตร์เรื่องนี้มาก จนตัดสินใจขอพ่อซื้อหนังสือยกเซ็ต 5 ภาคแรกมาอ่านแบบจริง ๆ จัง ๆ พออินเทอร์เน็ตมันเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ช่วง ม.2 ผมก็เริ่มทำเว็บแล้วครับ ตอนนั้นอยากทำเว็บโรงเรียนเวทมนตร์แล้วก็มีข่าวแฮร์รี่ด้วยแล้วก็หยุดไปช่วงนึง จนมาสร้างใหม่อีกทีในชื่อ muggle-v.com ตั้งใจเขียนเนื้อหาเชิงวิชาการแฮร์รี่ พอตเตอร์ เพราะอยากให้มันเป็นแหล่งข้อมูลไว้ค้นคว้าหรือหาคำตอบภายหลังได้ง่าย ๆ ทุกวันนี้เลยมีคนมาร่วมทำงานร่วมแปลกันหลายคนเลย ผมไม่ใช่คนเก่งอังกฤษมากเลยต้องมีพี่ ๆ เก่ง ๆ มาช่วยแปลเยอะ ซึ่งทั้งหมดคือติ่งขนานแท้ทั้งหมดเลย ทุกคนอินและเปิดรับความร่วมมือของทีมเพื่อให้บทความมันเป็นที่พึงพอใจสำหรับเรามาก
สิ่งที่ทำให้รักและอุทิศตัวคงเพราะมันเป็นอีกที่ที่เราได้หลีกหนีจากความน่าเบื่อ ความรู้สึกแย่บางอย่างไปชั่วขณะหนึ่ง โลกเวทมนตร์ของ เจ.เค.โรว์ลิ่ง เป็นเหมือนแหล่งน้ำที่ทำให้เราได้เติมพลังก่อนจะไปเผชิญกับสิ่งแย่ ๆ ในความจริงต่อไป ส่วนของเนื้อหาเองก็มีพัฒนาการไปตามช่วงวัย เราเหมือนได้เติบโตไปด้วยกัน เรียนรู้และเอาใจช่วยตัวละครไปด้วยกันจนสุดปลายทาง แม้แต่ภาพยนตร์สัตว์มหัศจรรย์ก็คือเรื่องราวของผู้ใหญ่ที่กำลังโอบกอดแฟนแฮร์รี่ พอตเตอร์ยุคแรกที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ ให้เราได้มีพื้นที่กลับไปเป็นเด็ก กลับไปเติมความสุขอีกครั้ง มันเลยมีพลังที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนรักมาก และถ้าใครช่างสงสัยก็จะยิ่งพาเขาไปรู้จักความลึกซึ้งของเรื่องราวโลกเวทมนตร์มากขึ้น แล้วก็ไม่อาจพรากจากกันไปไหนได้เลย
Q: ทราบข่าวการประกวดจากทางไหน
A: ผมทราบจากทาง Warner Bros. Thailand ที่ลงข่าวชวนทำกิจกรรมเลย จริง ๆ ช่วงนั้นมีงานลูกค้าเยอะมาก จนรู้สึกว่าเราไม่น่าจะได้ส่งประกวดหรอก แต่พอใกล้หมดเวลาส่งผลงาน สมองโจ้เริ่มคิดแต่ภาพที่จะส่งประกวด จนรู้สึกว่า โอเค เหลืออีก 18 ชั่วโมงหมดเวลา ขอทำเพื่อโลกเวทมนตร์ให้เต็มที่แล้วกัน อุตส่าห์มีคนเอามาบอก แถมเปิดรับผลงานทั่วโลก พอคิดกับตัวเองว่าจะเสียดายไหมถ้าไม่ได้ทำมัน โอเค เสียดาย ผมก็ลงมือทำมันตามที่คิดในหัว สเกตช์มือ แล้วก็ขึ้นชึ้นงานจริงในไม่ถึงหนึ่งวันสุดท้ายของการส่งผลงานเลยครับ
Q: ผลงานชิ้นนี้ใช้เวลาคิดคอนเซ็ปท์จนถึงทำเสร็จสิ้นใช้เวลาเท่าไหร่
A: ผมเขียนกำกับใต้แบบสเกตช์ว่าร่างแบบไว้วันที่ 20 ตุลาคมคม ตอนนั้นใจหัวผมจดจ่อแต่จะออกแบบยังไงดี เรียกว่าเทงานที่ต้องทำไปเลย แล้วบอกกับตัวเองว่างานนี้เราต้องส่งนะ ต้องส่งให้ได้ ผมเป็นคนที่ชอบงานลายเส้น งานที่ดูคลีน ๆ แต่มีปริศนาหรือสัญลักษณ์ให้ขบคิดหาคำตอบ ก็เลยตั้งใจว่าเราจะทำงานในสไตล์ที่เราชอบและถนัด งานเรียบ ๆ แต่มีความหมายในนั้น ผมบอกตัวเองตั้งแต่แรกเลยว่า ต้องออกแบบงานที่มันไม่ใช่แค่โปสเตอร์ภาพยนตร์นะ ต้องออกแบบงานที่มันสามารถไปเป็นอย่างอื่นได้ สามารถสร้างเป็นชิ้นงานเจ๋ง ๆ ได้ อาจจะไปสกรีนเป็นลายเสื้อ เป็นเคสโทรศัพท์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ผมคาดหวังแค่ว่ามันจะต้องดูสวยพอจะทำให้คนชอบมัน ต้องห้ามรก ผมไม่ชอบอะไรที่มันรก ๆ เยอะ ๆ
ผมเริ่มขึ้นงานจากแบบร่างเป็นงานกราฟิกใน Illustrator คืนวันที่ 21 ตุลาคม แล้วมาทำต่อตอนเช้าวันปิดรับผลงานวันสุดท้าย ซึ่งเหลืออีกไม่ถึง 18 ชั่วโมงก็จะปิดรับผลงาน ผมส่งให้ทาง Talenthouse ก็ใน 3ชั่วโมงสุดท้าย ตอนนั้นประมาณสี่โมงเย็นจะห้าโมงเย็นแล้วครับ ดีใจกับตัวเองมากที่ทำผลงานส่งทัน
Q: กว่าจะมาเป็นโปสเตอร์ชิ้นนี้ มีอะไรเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานนี้
A: แรงบันดาลใจหลัก ๆ คืองานออกแบบปกบทภาพยนตร์ Fantastic Beasts ของ MinaLima ผมชอบงานของทั้งคู่มาก ชอบมาตั้งแต่ออกแบบให้แฮร์รี่ พอตเตอร์แล้ว แต่ผมก็อยากมีความเป็นตัวของตัวเองด้วย การออกแบบทั้งหมดเลยเป็นการจัดองค์ประกอบให้ดูสมดุลกัน หยิบเอาสัญลักษณ์จากภาพยนตร์มาใช้ตั้งแต่โทนสีเหลืองทองไปทางน้ำตาลเพื่อสื่อสารถึงบ้านฮัฟเฟิลพัฟของ นิวท์ สคามันเดอร์ เครื่องรางยมทูต ไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ของกรินเดลวัลด์ที่ในอนาคตอันไกลจะเป็นของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ ตราของเกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ ไม้กายสิทธิ์ ไปจนถึงสัญลักษณ์เล่นแร่แปรธาตุที่เชื่อมโยงไปถึงตัวของนิโคลัส แฟลมเมลครับ ผมอยากใส่ทุกตัวละครไว้ในภาพโดยที่ไม่ต้องเป็นภาพตัวละคร ก็เลยออกมาเป็นผลงานที่เห็นกันครับ มันอาจจะไม่สมบูรณ์แบบแต่ผมก็ชอบมันนะ ชอบมาก
Q: คาดหวังกับการประกวดครั้งนี้มากน้อยขนาดไหน
A: ยอมรับว่าคาดหวัง แต่ก็ไม่กล้าคาดหวังมาก เพราะพอส่งผลงานเสร็จรู้สึกเลยว่าคนอื่น ๆ ที่ส่งไปคือเจ๋ง ๆ ทั้งนั้น ผมตามไปกดถูกใจหลายชิ้นงานมาก ๆ และชิ้นงานอื่น ๆ อีก 4 ชิ้นที่ได้รับเลือก ผมก็กดถูกใจไว้ก่อนหน้านี้ ด้วยความที่เราตั้งใจกับมันมาก ๆ มันเลยง่ายที่จะคาดหวัง แต่เราก็ไม่อยากผิดหวังเลยไม่กล้าหวังสูง กะว่ามีคนกดถูกใจ มีคนชอบเราก็ดีใจแล้ว แค่นั้นจริง ๆ
Q: ทราบผลแล้วรู้สึกยังไงบ้าง
A: จริง ๆ ผมทราบผลก่อนวันประกาศผลทางการมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 3 แล้วครับ ผมตื่นเต้นมากที่ได้รับจดหมายแสดงความยินดีจากทาง Talenthouse ก็รีบส่งหลักฐานต่าง ๆ ไปให้เขาเพื่อยืนยันตัวตนต่าง ๆ แล้วก็โดนสั่งว่า “ต้องเก็บเป็นความลับจนกว่าจะมีประกาศผลทางการนะ” ก็เลยตื่นเต้น จนถึงที่ทาง Warner Bros. ออกประกาศไปทางช่องทางทางการของภาพยนตร์ทั้งหมด คืนนั้นผมเครียดกับงานมากจนลืมเลยว่าจะมีประกาศผล รู้ตัวอีกทีคือเช้าวันที่ 7 ตอนที่ผมเปิดโทรศัพท์ เปิดอินเทอร์เน็ต แล้วทุกข้อความจากคนจำนวนมากก็ส่งมาหาผม มันท่วมท้นมากจริง ๆ ความรู้สึกของการชนะ มันไม่เท่าความรู้สึกของคนที่มายินดี ผมดีใจที่ชนะ ที่จะได้เงินรางวัล แต่มีความสุขที่ได้เห็นคนชื่นชอบมัน รักมัน และยินดีกับเรา ผมชอบเวลาเห็นคนมีความสุข^ ^
Q: สิ่งแรกที่ทำหลังจากรู้ผลการประกวด
A: ยิ้มครับ ยิ้มกว้างให้กับหน้าจอโทรศัพท์ ขนาดรู้ผลก่อนหน้าแล้ว แต่มันพิเศษมาก ทุกคนที่รู้ก็ถล่มติดต่อผมทุกช่องทางเพื่อให้มารู้ข่าวประกาศ แต่ผมปิดทุกช่างทางแล้ว พอรู้ว่าตัวเองชนะก็เลยขอบคุณทุกคน ไล่ขอบคุณทุกคนที่ยินดีกับผมเลย ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ขอบคุณตั้งแต่ทาง Talenthouse ที่เลือกงานเรา ขอบคุณ Warner Bros. ที่เปิดโอกาสให้แฟนทั่วโลกส่งผลงาน ขอบคุณคนที่เป็นแรงผลักดันให้ผมตัดสินใจทำมันออกมา ผมดีใจมากที่วันนี้ก็มาถึง วันที่ เจ.เค.โรว์ลิ่ง รีทวีตผลงานผมในทวิตเตอร์ มันเหมือนเจ.เค.มาบอกผมด้วยตัวเองว่า “ฉันชอบงานคุณ” ถึงแม้สุดท้ายไม่รู้ว่าเจ.เค.จะมีส่วนในการตัดสินไหม หรือรีทวีตไปตามปกติที่เธอทำ ผมก็ดีใจที่อย่างน้อยที่สุดเหมือนผมได้ขยับเข้าใกล้ เจ.เค.มากขึ้นอีกนิด หวังว่าจะมีโอกาสในชีวิตได้เจอ เจ.เค. จริง ๆ ผมอยากขอบคุณเธอ กอดเธอ แล้วก็ร้องไห้ใส่เธอแรง ๆ
Q: มีช่องทางให้คนที่สนใจได้ติดตามผลงานมั้ย
A: ปกติถ้าผลงานส่วนใหญ่ที่ทำงานผมจะลงไว้ที่ ig https://www.instagram.com/atreeriddle/ หรือเฟสบุ๊คเพจ https://www.facebook.com/ATreeStudio/ ครับ ส่วนเฟสบุ๊กส่วนตัวก็ https://www.facebook.com/aphichat.wc ครับ ทวีตเตอร์ส่วนตัวก็ https://twitter.com/atmriddle แต่ทวิตเตอร์อย่าไปตามเลยครับ ไม่มีสาระอะไรเลย 555
Q: มีอะไรอยากทิ้งท้ายมั้ย
A: ทุกวันนี้ก็ยังมีคนอีกมากมายที่มองว่าการติ่งหรือรักอะไรพวกนี้มาก ๆ มันเป็นเรื่องไร้สาระ ผมเคยได้ยินคนบอกว่า แฮร์รี่ พอตเตอร์ ไร้สาระเยอะมาก และถ้าใครมาบอกว่าสิ่งที่ผมทำอยู่มันไร้สาระ ผมก็จะบอกว่า ทุกวันนี้ผมเก่งภาษาอังกฤษมากขึ้นก็เพราะแฮร์รี่ พอตเตอร์ ผมเปิดกว้างรับฟังและเปิดกว้างให้กับหลายอย่างเพราะแฮร์รี่ พอตเตอร์ ผมทำงานหาเลี้ยงตัวเองทุกวันนี้มันอาจไม่ใช่เพราะแฮร์รี่ พอตเตอร์ โดยตรง แต่แฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมอยากทำเว็บไซต์เป็น อยากทำงานออกแบบได้เจ๋ง ๆ อยากทำอะไรที่มีประโยชน์กับคนอื่น ๆ ทั้งหมดนี้ผมมองว่ามันมาจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ ทั้งหมด เพราะฉะนั้นอย่าได้สนใจว่าคนที่มีทัศนคติเป็นลบจะทำร้ายความรู้สึกคุณมากแค่ไหน แต่ผมอยากให้เชื่อเสียงหัวใจตัวเองนะ เชื่อแล้วไปให้สุด เพราะถ้าเรายังตื่นเต้นที่ได้ทำมันทุก ๆ ครั้ง สำหรับผมผมว่าผมมาถูกทาง หลายอย่างมันจะสำเร็จได้มันต้องใช้เวลาจริง ๆ กว่าจะมาถึงจุดนี้ ผมก็ผ่านอะไรมาเยอะมาก การออกแบบเอง ผมก็ฝึกและพัฒนามาเยอะมากเหมือนกันถ้าให้มองกลับไปมองดูงานเก่า ๆ
สิ่งที่ผมหวังที่สุดในตอนนี้คือมีโอกาสได้เจอ เจ.เค.โรว์ลิ่ง ได้ขอลายเซ็นเธอด้วยตัวเองสักวัน และอยากให้ภาพยนตร์ภาคต่อไป ประเทศไทยจะมีโอกาสได้มีงานแฟนอีเวนต์ใกล้ชิดนักแสดงเหมือนญี่ปุ่นหรือจีนบ้างจังเลย แฟน ๆ โลกเวทมนตร์ในไทยสามารถแสดงออกความรักได้เหมือนประเทศอื่น ๆ ขอแค่โอกาสให้เราได้แสดงออก ผมเชื่อว่าทุกคนพร้อมจะปล่อยความรักออกมาอย่างสุดแรงในวันนั้นเลย หวังจริงๆ ครับ ^ ^