เชื่อว่าแฟน ๆ ที่ชื่นชอบภาพยนตร์แนวซอมบี้จะต้องรู้จักเรื่อง “Train to Busan” อย่างแน่นอน เพราะนับว่าเป็นภาพยนตร์ซอมบี้จากเกาหลีใต้ที่กระแสแรงสุด ๆ ประกาศศักดาวงการ K-Zombie สู่สายตาโลก ถูกนำไปฉายกว่า 160 ประเทศ กวาดรายได้กว่า 140 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมทั้งในประเทศไทยก็เทใจให้กันทั้งสิ้น โดยเฉพาะกับพระเอก “กงยู” ที่ใคร ๆ ก็อยากหนีตายไปกับเขา!และในปี 2020 ซอมบี้ระบาดหนักอีกครั้ง เมื่อผู้กำกับ “ยอนซังโฮ” ปล่อยไม้เด็ดเล่าเรื่อง 4 ปีให้หลังเหตุการณ์ “Train to Busan” สู่ปรากฏการณ์ครั้งใหม่ใน “Train to Busan: Peninsula” และก่อนที่จะไประเบิดความมันส์ครั้งนี้ มาล้วงลึกไอเดียของผู้กำกับ ผู้สร้างจักรวาลซอมบี้เกาหลีว่า ทำยังไงคนถึงคลั่งกันสนั่นโลกขนาดนี้?
“ผมอยากรู้ว่าการนำเสนอซอมบี้ในสไตล์เกาหลีมันจะออกมาเป็นอย่างไร”
แฟน ๆ อาจจะเคยดูภาพยนตร์ซอมบี้มามากมายหลายเวอร์ชั่น แต่นี่เป็นครั้งแรกในการเอาซอมบี้เกาหลีมาเป็นหลักในหนังตลาด “ผมเลือกให้เรื่องเกิดในรถไฟใน Train to Busan เพราะคิดว่าความเร็วของรถไฟเคทีเอ็กซ์ จะช่วยเพิ่มความตึงเครียด ความโกลาหล กระตุ้นอะดรีนาลีนคน ตอนแรกผมกังวลว่าคนดูจะอินหรือเปล่า แต่พอผมเห็นซอมบี้ที่แสดงในเรื่อง หลังแต่งหน้าแล้ว มันน่ากลัวจริง ๆ ผมเลยเลือกใช้เอ็กซ์ตร้าในทุก ๆ ซีน แทนที่จะใช้ซอมบี้ซีจี ถ้าถามว่าใครคือฮีโร่ที่แท้จริงของหนังต้องบอกเลยว่า เหล่านักแสดงเอ็กซ์ตร้านี่แหละ”
“ที่ผ่านมาซอมบี้ถูกตีค่าต่ำมาตลอด”
นี่คือภาพบรรยากาศผู้กำกับและทีมนักแสดงไปงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ครั้งที่ 69 พวกเขาปลุกกระแสซอมบี้ดังทั่วโลก ได้รับคำชื่นชม และการตอบรับอย่างดี โดยผู้กำกับเองเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องการทำหนังซอมบี้ว่า “ถ้าแวมไพร์ถูกจัดอยู่ในหมวด ‘เหนือมนุษย์’ ผมคิดว่าซอมบี้เองก็เช่นกัน ผมตระหนักได้ว่า ซอมบี้ไม่ใช่ปีศาจ พวกมันจับตัวเป็นสังคมได้ มันคือมนุษย์ ที่ละทิ้งสามัญสำนึกเหลือไว้แต่สัญชาตญาณดิบ”
“ซอมบี้เกาหลีไม่ใช่แค่สัตว์ประหลาดหรือปีศาจที่พวกเราต้องสู้กับมัน”
หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้ผู้คนต่างชื่นชอบซอมบี้เกาหลีกันทั้งโลก ผู้กำกับชื่อดังก็ได้พูดถึงเหตุผลและไอเดียการสร้างผลงานของเขาไว้ว่า “ซอมบี้เกาหลีไม่ใช่แค่สัตว์ประหลาดหรือปีศาจที่พวกเราต้องสู้กับมัน แต่พวกมันคือครอบครัว และเพื่อนร่วมงานของเราเมื่อไม่กี่นาทีก่อน”
“ผมใช้เวลาเตรียมงาน Peninsula ถึงหนึ่งปีเต็มจำนวน CG ที่ใช้มากกว่าสองเท่าของ Train to Busan”
ในงานแถลงข่าวภาพยนตร์เรื่อง “Train to Busan: Peninsula” ภาคใหม่จากจักรวาลเดียวกับ Train to Busan ผู้กำกับ “ยอนซังโฮ” ได้เผยถึงการเตรียมงานว่า “ผมใช้เวลาเตรียมงานถึงหนึ่งปีเต็ม พยายามที่จะแสดงมุมมองและการเคลื่อนไหวที่มันกว้างกว่าเดิม ใน “Train to Busan: Peninsula” คนดูจะรู้สึกถึงความลุ้นระทึกแบบเดียวกันกับที่ตัวละครในเรื่องรู้สึก เหมือนกับได้ไปเสี่ยงภัยในดินแดนของโลกที่ไม่รู้จักและถูกฝูงซอมบี้ไล่ล่า”
“ในโลกหลังโลกาวินาศ ความหวังเป็นทางเลือกสุดท้ายของมนุษยชาติ”
ท้ายที่สุดผู้กำกับได้สรุปถึงไอเดียของภาพยนตร์เรื่อง “Train to Busan: Peninsula” ที่เรากำลังจะได้ดูกันเร็ว ๆ นี้ ว่า “ในโลกหลังโลกาวินาศ ความหวังเป็นทางเลือกสุดท้ายของมนุษยชาติ และได้โปรดคิดถึงภาพยนตร์ราวกับว่ามันเป็นเรื่องราวของคนที่ต้องการจะจุดประกายความหวังเสมือนกับที่พึ่งสุดท้าย”
“ยอนซังโฮ” ก้าวสู่ตำแหน่งผู้กำกับแถวหน้าของเกาหลี และ “Train to Busan: Peninsula” เป็นผลงานชิ้นใหม่ที่รอให้คนทั้งโลกพิสูจน์ เตรียมสัมผัสกับโลกหลังโลกาวินาศ การหนีตายจากฝูงซอมบี้คลั่งทั่วคาบสมุทร กับ “Train to Busan: Peninsula” ประทับตรา Official Selection จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 2020 มาแน่! 23 กรกฎาคม นี้ ในโรงภาพยนตร์
Peninsula ฝ่านรกซอมบี้คลั่ง – Official Trailer [ ตัวอย่างซับไทย ]