ถ้าใช้เหตุผล ผมคงไม่สามารถรักพี่ได้
แต่ถ้าใช้ความรู้สึก ผมคงไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีพี่‛
ประโยคบอกรักของจิ้งที่มีให้กับเอี๊ยมเฉกเช่นที่เด็กหนุ่มวัย 20 จะสามารถขอความรักจากหญิงสาวแม่หม้ายวัย 40 ได้
นับเป็นจุดเริ่มต้นของความรักต่างวัย ที่ไม่ใช่เพียงแค่ว่าเราจะสามารถรักกันได้หรือไม่
แต่เป็นรักต่างวัย ที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างไร
บริษัท เลิฟติจูด โปรดักชั่น จากัด นำทีมนักแสดง ประโยคสัญญารัก หมิว ลลิตา ปัญโญภาส, เต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ, ชญานุช บุญธนาพิบูลย์, นนทิยา จิวบางป่า, ปรัชญานันท์ สุวรรณมณี พร้อมด้วยผู้กำกับ พลัฏฐ์พล มิ่งพรพิชิต เปิดแถลงข่าว และเล่าถึงภาพยนตร์รักต่างวัย ที่จะทำให้คุณประทับใจ 18 กรกฎาคม นี้ ทุกโรงภาพยนตร์
“จิ้ง” (เศรษฐพงศ์ เพียงพอ) เด็กหนุ่มผู้ที่ค้นพบความรักของตัวเองตั้งแต่วัยรุ่นเช่นเดียวกับเด็กทั่วๆ ไป ทว่าความรักของเขาไม่ได้เกิดขึ้นกับคนรุ่นราวคราวเดียวเหมือนคนอื่นๆ เขาได้มอบหัวใจให้กับ “เอี๊ยม” (ลลิตา ปัญโญภาส) ผู้หญิงที่มีอายุแก่กว่าถึง 20 ปี แม้ความรักของทั้งคู่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ทั้งสองก็พยายามปรับจูนและทาอะไรเพื่อกันและกันมากมาย จนเป็นความรักที่น่าอิจฉาในสายตาของใครต่อใคร จิ้งพยายามทาทุกอย่างเพื่อแสดงให้เห็นว่าโตพอที่จะดูแลแฟนสาวได้ ในขณะที่เอี๊ยมพยายามใช้ทุกนาทีที่มีเพื่ออยู่ด้วยกัน ขณะที่เข็มนาฬิกาหมุนเดิน เวลาของความสุขได้ผ่านเข้ามาแล้วผ่านไปอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มอย่างจิ้งก็เริ่มโตและหญิงสาวอย่างเอี๊ยมก็เริ่มร่วงโรย เมื่อความพยายามบางอย่างทาให้ชีวิตรักเริ่มเหนื่อย เมื่อเหตุผลของอีกคนเป็นได้แค่เพียงข้ออ้างสาหรับอีกคน จนนามาสู่คาถามว่า ยิ่งทะเลาะแล้วยิ่งเข้าใจกันมากขึ้น หรือ ยิ่งทะเลาะแล้วยิ่งรู้จักกันน้อยลงกันแน่ ท้ายที่สุดแล้วความรักของทั้งสองจะไปกันรอดหรือไม่…40+20 กาลังรักกัน…ประโยคใดคือคำสัญญาที่ตราตรึงรักคุณ
เกี่ยวกับภาพยนตร์
‘เวลาคนเราจะรักกัน อะไรก็ไม่ใช่อุปสรรคหรอก’ ประโยคความรักแสนธรรมดา แต่ให้ความหมายลึกซึ้ง และคมคาย แทนความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของเอี๊ยมและจิ้ง คู่รักต่างวัยที่อะไรก็ไม่ใช่อุปสรรค ภาพยนตร์เรื่องประโยคสัญญารัก จึงเป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของความรักที่ไม่มีขอบเขตจากัด ในเมื่อคนเรารักกัน อะไรก็ไม่ใช่อุปสรรคทั้งนั้น ไม่ว่าเป็น สภาพแวดล้อม สังคม ความชอบ การแต่งกาย อาหารจานโปรด หรือแม้กระทั่งอายุ ‘ถึงแม้ว่าอายุจะต่างกันมากก็ตาม แต่เราก็ยังรักกันได้’ ภาพยนตร์จึงเปิดด้วยฉากความรักหวานชื่นของจิ้ง เด็กหนุ่มอายุเพียง 20 ปี ที่คบหาดูใจกับสาวหม้ายลูกติดอย่างเอี๊ยมที่มีอายุ 40 ปีเข้าไปแล้ว แต่ทั้งสองก็พยายามที่จะคบหากันประหนึ่งคู่รักธรรมดา ความรักของเอี๊ยมและจิ้ง ยังสื่อผ่าน ‘คาสัญญา’ ที่ทั้งคู่มีให้กันและกัน เปรียบเสมือนพันธะที่ทาให้ทั้งสองไม่สามารถแยกออกจากกันได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่หารู้ไม่ ว่าคาสัญญานั้น ก็มีวันหมดอายุเช่นกัน เนื่องด้วยความคิดที่ต่างแตก และสภาพสังคมที่แตกต่าง คนหนึ่งยังเป็นนักศึกษา ที่ยังพึ่งพาการเงินจากที่บ้าน ส่วนอีกคนทางานมั่งคง จัดการค่าใช้จ่ายด้วยตัวเอง คนหนึ่งเริ่มเป็นหนุ่ม ในขณะที่อีกคนกาลังโรยรา คนหนึ่งอยากโตให้มากกว่านี้ เพื่อดูแลใครสักคน แต่อีกคนอยากเด็กลงกว่านี้ เพื่อไม่ให้อีกคนต้องอับอาย แต่ความรักไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการที่จะอยู่ร่วมกัน ทาให้ความรักของทั้งคู่ ที่แท้จริงแล้วต้องพบเจอกับอุปสรรคต่างๆ มากมายทาให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีครบทุกรส ไม่ว่าจะเป็น สุข สนุก ทุกข์ เศร้า และช่วยลุ้นความรักของทั้งสอง ว่าจะสามารถประคองความรักให้ผ่านพ้นอุปสรรคเหล่านี้ได้หรือไม่ ภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงมีหลากหลายประโยคที่ตัวละครได้แสดงออกมา ซึ่งก็คือ ‚ประโยคสัญญารัก‛ ที่สื่อผ่านความรักไปพร้อมกับคาสัญญา และเป็นที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้
นักแสดง
เอี๊ยม [ลลิตา (ปัญโญภาส) ศศิประภา]
หม้ายสาววัย 40 หลังจากหย่าได้ไม่นาน เธอก็กลับมาอยู่ที่เมืองไทย ไปเป็นครูพิเศษสอนภาษาอังกฤษ แล้ววันหนึ่งเธอได้สนิทกับเด็กม.6 คนหนึ่งชื่อ ‚จิ้ง‛ ก่อนความสนิทจะถักทอสายใยเป็นความรัก ระหว่างครูกับศิษย์ เอี๊ยมมีนิสัยขี้น้อยใจ ขึ้หึง คิดมาก ชอบวางแผน ชอบเอาชนะ รักการดูหนังและวาดภาพเป็นชีวิตจิตใจ ติดแฟน เป็นลูกสาวที่ไม่ค่อยสนิทกับแม่มีอะไรมักจะไม่ค่อยปรึกษาที่บ้าน
จิ้ง (เศรษฐพงศ์ เพียงพอ)
นักศึกษาปี4 เรียนนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ ชอบการถ่ายรูป ชอบไปเที่ยวทะเล เป็นคนที่พยายามจะไม่คิดมาก ทาอะไรแล้ว มีความสุขก็ทา ติดเพื่อนแต่ก็รักแฟนมาก เป็นคนโชคดีมาก ที่เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น ทว่าลึกๆ ก็ทาให้เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ที่อยากจะโตพอสาหรับใครสักคน คาสัญญาอาจจะไม่ได้เปลี่ยนอะไร ใหญ่โตสาหรับจิ้ง แต่จะทาให้เขาโตพอจะเข้าใจคาว่าผู้ใหญ่จริงๆ
เฌอ (ชญานุช บุญธนาพิบูลย์)
นักศึกษาปี 2 สวยใส เป็นคนที่ให้ความสาคัญกับคาว่าแฟนมาก เป็นคนที่มีความอดทนและความพยายามสูง ยอมปรับเปลี่ยน เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ถึงไม่ชนะแต่ก็แพ้ไม่ได้
ผลงานที่ผ่านมา
ภาพยนตร์
รักเว้ยเฮ้ย
เพลย์ (กรกันต์ สุทธิโกเศศ)
นักแสดงดาวรุ่ง ที่จริงๆ แล้วฝันอยากเป็นนักร้อง เขาแต่งเพลงขึ้นมา เพื่อหวังจะมีเพลงที่แต่งเองสักครั้ง เขามีความฝันเกินกว่า จะให้อะไรมาผูกมัดเขาไว้
ลิฟท์แก้ว ( เบบี้มายด์ ปรัญานันท์ สุวรรณมณี )
ผู้กากับภาพยนตร์
บูม พลัฏฐ์พล มิ่งพรพิชิต
ผู้กากับคลื่นลูกใหม่ จากรั้วมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ลูกศิษย์ของผู้กากับและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง ‘ อ๊อด บัญฑิต ทองดี ‘
บูม พลัฏฐ์พล ได้นาหลากหลายมุมมองความรักของชีวิตคนรอบข้าง มาเรียบเรียงเป็นบทภาพยนตร์ที่มีเรื่องราวและเต็มไปด้วยประโยคสัญลักษณ์ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘ประโยคสัญญารัก’ ที่สื่อมุมมองของความรัก ผ่านตัวละคร ได้อย่างมีนัยยะ ลึกซึ้ง คมคายและกินใจ
ข้อมูลเพิ่มเติม
Facebook : www.facebook.com/presentperfectcontinuoustense