ดู MV Call Me Cruella ได้เต็มๆ ที่นี่

“Florence Welch” ศิลปินดังผู้เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ และเป็นหัวหน้าวง “Florence + The Machine” ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ จากสตูดิโออัลบั้มที่ได้รับการชื่นชมอย่างแพร่หลายทั้ง 4 อัลบั้มของเธอมียอดขายหลายล้านชุดทั่วโลก นอกจากรางวัล Brit Album of Year Award สำหรับการเปิดตัวครั้งแรกของ Lungs เมื่อปี 2009 ซึ่งเพลงHow Big, How Blue, How Beautiful ในปี 2015 ก็ยังติดอันดับชาร์ตในประเทศอังกฤษและอเมริกาอีกด้วย และ “Florence Welch” ยังได้รับรางวัล Ivor Novello International Achievement Award

ในด้านการเขียนเพลง ล่าสุดเธอได้เริ่มเส้นทางการแสดงของเธอในซีรีย์ที่จะทำการออกอากาศทางโทรทัศน์ของ HBO และ Sky Atlantic นั่นก็คือ “The Third Day” และเธอยังได้รับโอกาสให้ร่วมร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ “CRUELLA” ในเพลง “CALL ME CRUELLA” อีกด้วย

“Florence Welch” เผยว่า “เพลงดิสนีย์เป็นเพลงแรกๆ ที่เธอฝึกร้องตอนเรียนร้องเพลง เพราะฉะนั้นการที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแต่งและร้องเพลงประกอบ ‘CRUELLA’ ถือเป็นการเติมเต็มความฝันวัยเด็กของฉัน และฉันรู้สึกขอบคุณ Nicholas Britell  และ Disney ที่ให้อิสระและเชื่อใจให้สร้างสรรผลงานชิ้นนี้สำหรับ CRUELLA”

ในด้านของนักแต่งเพลงผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ถึง 2 ครั้ง และเจ้าของรางวัล EMMY อย่าง Nicholas Britell ได้กล่าวถึง “Florence Welch” ว่า

“ผมเป็นแฟนเพลงของ Florence และผมมีความสุขในการทำงานร่วมกับเธอในเพลง “CALL ME CRUELL” ทั้งเพลงนี้และในส่วนของเพลงบรรเลง เรามีจุดประสงค์หลักที่จะดึงแง่ประกอบของร็อกแบบดิบ ๆ ของลอนดอนในยุค 60’s และ 70’s เราอัดทุกอย่างโดยใช้ เครื่องมือวินเทจเทปอะนาล็อกที่ Abbey Road และ AIR สตูดิโอในลอนดอนผสมผสานออร์เคสตรากับกีตาร์ และเบสไปฟ้า ออแกน เปียโน และกลอง”

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง “CRUELLA” มีกำหนดเข้าฉายทาง Disney + ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ เป็นเรื่องราวของความขบถในช่วงแรกเริ่มของหนึ่งในตัวร้ายชื่อกระฉ่อน ที่มีความจัดจ้านด้านแฟชั่นที่สุดในวงการภาพยนตร์ ครูเอลล่า เดอ วิล “ครูเอลล่า” (เอ็มม่า สโตน)

คือเรื่องที่เกิดขึ้นในลอนดอนปี 1970 ระหว่างการปฏิวัติแฟชั่นสไตล์พังค์ร็อค นักต้มตุ๋นวัยรุ่นชื่อ “เอสเตลล่า” หญิงสาวผู้ชาญฉลาดและมีความคิดสร้างสรรค์ มุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อให้กับตัวเองผ่านการออกแบบของเธอ เธอรวมกลุ่มกับคู่หูจอมโจรที่ชื่นชอบความวายป่วงของเธอ ร่วมมือกันเพื่อหาเลี้ยงชีพของพวกเขาบนถนนแห่งลอนดอน วันหนึ่ง ประกายแฟชั่นของ เอสเตลล่า ได้ไปเข้าตา บารอนเนส วอน เฮลล์แมน (เอ็มม่า ธอมป์สัน) ตำนานแฟชั่นสุดชิคและเลิศหรูที่สุดในวงการ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ก่อให้เกิดเรื่องราวที่จะพลิกโฉม เอสเตลล่า ให้เปิดรับด้านมืดอันร้ายกาจของเธอและกลายเป็นเจ้าแม่แฟชั่นผู้เกรี้ยวกราดและเต็มไปด้วยความอาฆาต ครูเอลล่า

ภาพยนตร์ก็น่าดู เพลงประกอบภาพยนตร์ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญของหนัง ดังนั้นห้ามพลาดเซฟเพลง“CALL ME CRUELLA” ไว้ในเพลย์ลิสต์ได้เลย

สามารถฟังเพลงจากอัลบั้ม “CRUELLA” ได้ที่นี่

1.          Nicholas Britell – Call me Cruella – Florence + The Machine
2.          Nicholas Britell – Cruella – Disney Castle Logo
3.          Nicholas Britell – The Baroque Ball
4.          Nicholas Britell – The Most Dreadful Accident
5.          Nicholas Britell – The Drive to London
6.          Nicholas Britell – Red Hair Dye
7.          Nicholas Britell – The Baroness Needs Looks
8.          Nicholas Britell – I Think You’re Something
9.          Nicholas Britell – Everything’s Going So Well
10.        Nicholas Britell – The Necklace
11.        Nicholas Britell – The Angle
12.        Nicholas Britell – Surveillance
13.        Nicholas Britell – I Like to Make an Impact
14.        Nicholas Britell – Oh That’s a Hybrid
15.        Nicholas Britell – Revenge / Let’s Begin
16.        Nicholas Britell – Putting the Dresses in the Safe
17.        Nicholas Britell – Get It Open / Moths
18.        Nicholas Britell – Oh, That’s Why You’re Peeved
19.        Nicholas Britell – The True Story of Cruella’s Birth
20.        Nicholas Britell – I’m Cruella
21.        Nicholas Britell – A Great Tribute / She’s Here
22.        Nicholas Britell – The Cliff
23.        Nicholas Britell – She Jumped!
24.        Nicholas Britell – Goodbye, Estella
25.        Nicholas Britell – Call me Cruella (Instrumental Version) – with Florence + The Machine
26.        Nicholas Britell – Orchestral Waltz (Bonus Track)

ติดตาม Universal Music Thailand ใน Platform ต่างๆ ได้ที่

FACEBOOK  INSTAGRAM  TWITTER  TIKTOK