กรุงเทพฯ: หลายต่อหลายค่ายต่างพากันมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์กีฬา เพื่อหวังแย่งชิงฐานผู้ชม แต่จานดาวเทียมสีส้ม ไอพีเอ็ม กับมองข้ามช่อง เร่งพัฒนาระบบความคมชัด ดันกีฬาไทยสร้างเนื้อหารายการของตนเอง หวังโกยคะแนนนิยมคนท้องถิ่น
นายมานพ โตการค้า ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอพีเอ็มทีวี จำกัด ผู้ทำธุรกิจจานดาวเทียมสีส้ม ภายใต้แบรนด์ ไอพีเอ็ม ซึ่งไม่มีค่าบริการรายเดือน กล่าวว่า ปัจจุบันไอพีเอ็มได้นำเสนอเนื้อหารายการครบทุกประเภท เพื่อสนองตอบความต้องการของผู้ชมทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของสารคดี กีฬา ท่องเที่ยว การ์ตูน วาไรตี้ รายการเชิงศิลปวัฒนธรรมรวมถึงละครอีกด้วย สำหรับเรื่องของกีฬาซึ่งอยู่ในความสนใจของผู้ชมค่อนข้างสูงนั้น ต้องยอมรับว่าไอพีเอ็มไม่ได้ให้น้ำหนักไปในเรื่องของการซื้อลิขสิทธิ์กีฬา ส่วนใหญ่เราเน้นกีฬาไทย 70 เปอร์เซ็นต์ กีฬาต่างประเทศ 30 เปอร์เซ็นต์ แต่หลักบนแพลทฟอร์มโฟกัสไปที่ภาพยนตร์ การ์ตูน สารคดี และวัฒนธรรมของท้องถิ่น
“ไอพีเอ็มไม่เน้นประเภทกีฬาสดพราะเห็นว่ากีฬาสด มันเป็นฤดูกาล ทำให้เปลี่ยนกันง่าย ทางไอพีเอ็มจึงกำหนดทิศทางชัดเจนไปเน้นกีฬาที่สามารถออกอากาศได้ในระยะยาว หรือเป็นกีฬาของคนไทยเอง และเป็นกีฬาที่บริษัทสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนา และมีลิขสิทธิ์เป็นของตนเองได้
ที่ผ่านมาไอพีเอ็มได้เข้าร่วมสนับสนุนกีฬาฟุตซอล หรือกีฬาระดับท้องถิ่น โดยร่วมกับองค์กรภาครัฐในการพัฒนากีฬาเหล่านั้นขึ้นมา กรณีกีฬาต่างประเทศจะเน้นกีฬาที่ไม่เป็นสนามหรือกีฬาสด เพราะกีฬาหากได้ลิขสิทธิ์ปีนี้มา แล้วได้รับความนิยมมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือจะมีการแย่งซื้อสิทธิ์กันมากขึ้น ซึ่งไอพีเอ็มไม่ต้องการโฟกัสไปที่กลุ่มนั้น ที่ผ่านมาไอพีเอ็มไม่หยุดนิ่ง เราอยู่ในช่วงการพัฒนาเทคโนโลยีและเปลี่ยนระบบการออกอากาศใหม่เพื่อรองรับ ดาวเทียมใหม่ SES8 ให้สามารถรองรับช่องแบบธรรมดาได้ 300 ช่อง และระบบ HD ได้ 40 ช่อง เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับผู้ชมได้อย่างครอบคลุมมากที่สุดนั่นคืออีกหนึ่งเป้าหมายที่ไอพีเอ็มได้วางไว้ เราพยามแข่งกับตัวเอง พัฒนาตัวเองทุกวัน เพื่อกลุ่มผู้ชมของเรา” นายมานพ กล่าวทิ้งท้าย