สามารถฟังเพลง “I Still Have Faith In You” และเพลง “Don’t Shut Me Down” ได้ที่นี่ 

“ABBA” หนึ่งในวงป็อประดับตำนานที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล ได้ประกาศว่า พวกเขากลับมาอีกครั้งเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ด้วยคอนเสิร์ตครั้งใหม่ที่ปฏิวัติวงการ ที่จะได้เห็น Agnetha, Björn, Benny และ Anni-Frid แสดงคอนเสิร์ตแบบดิจิทัลกับวงดนตรีสดกว่า 10 ชิ้น ในสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อคอนเสิร์ตนี้โดยเฉพาะในลอนดอน ที่จะเริ่มเปิดการแสดงตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป และนอกจากนี้ “ABBA” ยังได้ประกาศสตูดิโออัลบั้มใหม่ล่าสุดของพวกเขาอีกด้วย

“ABBA” เวอร์ชั่นดิจิทัลถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคการจับภาพเคลื่อนไหวการแสดงของสมาชิกทั้ง 4 คน โดยมีทีมงานสร้างกว่า 850 คนจาก Industrial Light & Magic บริษัทที่ก่อตั้งโดย George Lucas ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของพวกเขาที่ได้ร่วมทำงานกับวงการดนตรี เป็นการกลับมาในรอบ 40 ปี ตั้งแต่พวกเขาได้ปล่อยสตูดิโออัลบั้มล่าสุด

“The Visitors” ออกมา นอกจาก “ABBA” จะได้อัดเพลงใหม่ 2 เพลงขึ้นมาอย่าง ‘I Still Have Faith In You’ และ ‘Don’t Shut Me Down’ สำหรับโชว์ในคอนเสิร์ต พวกเขาได้ช่วยกันอัด และโปรดิวซ์อัลบั้มใหม่ขึ้นที่สตูดิโอของ Benny Riksmixningsverket ในสตอกโฮล์ม อัลบั้ม “Voyage” จะปล่อยออกมาให้ทั่วโลกได้ฟังกันวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ผ่านค่าย Universal Music Group

คอนเสิร์ต “ABBA VOYAGE” จะเริ่มเปิดให้เข้าชมในวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ที่ ABBA Arena จุคนได้ถึง 3,000 คน ตั้งอยู่ที่ Queen Elizabeth Olympic Park ในลอนดอน โดยตั๋วคอนเสิร์ตเปิดให้จองล่วงหน้าแล้ววันนี้ที่ abbavoyage.com และจะเริ่มจำหน่ายบัตรอย่างเป็นทางการในวันอังคารที่ 7 กันยายนนี้เป็นต้นไป

โดยคอนเสิร์ต “ABBA VOYAGE”ได้รับความช่วยเหลือจาก: โปรดิวเซอร์ Svana Gisla (David Bowie Blackstar/Lazarus, Beyoncé และ Jay Z สำหรับ HBO, Springsteen และ I), โปรดิวเซอร์ Ludvig Andersson (And Then We Danced, Yung Lean – “In My Head” , Mamma Mia! Here We Go Again), ผู้กำกับ Baillie Walsh (Flashbacks of a Fool, Being James Bond, Springsteen and I), ผู้อำนวยการสร้างร่วม Johan Renck (Spaceman, David Bowie Blackstar/Lazarus, Chernobyl) และนักออกแบบท่าเต้น Wayne McGregor CBE (The Royal Ballet,บริษัท Wayne McGregor, Paris Opera Ballet)

ด้าน Svana Gisla โปรดิวเซอร์ และ Ludvig Andersson โปรดิวเซอร์ เผยว่า: “ความมหัศจรรย์ของ ABBA และความพยายามของทีมที่ยอดเยี่ยม ในที่สุดก็มาถึงวันที่ทุกคนรอคอย การได้ร่วมแบ่งปันความพยายามนี้กับคนทั้งโลกก็เป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจสำหรับพวกเรา และเราแทบอดใจไม่ไหวที่จะต้อนรับทุกคนสู่อารีนาของเราในลอนดอน สถานที่ที่ทำให้เรามีความสุข”

ด้าน Baillie Walsh, ผู้กำกับ เผยว่า: “ฉันดู ABBA ชนะการประกวด Eurovision ในปี 1974 และไม่เคยคิดเลยว่า 47 ปีต่อมาฉันจะอยู่กับพวกเขาในการเดินทางที่ไม่ธรรมดานี้ บางครั้งชีวิตก็แปลกและวิเศษมาก”

ด้าน Wayne McGregor นักออกแบบท่าเต้น เผยว่า: “ลองนึกภาพ เติบโตขึ้นมาทางตอนเหนือของอังกฤษในยุค 70 ฉันในอายุ 8 ขวบที่กำลังเต้นอยู่ในห้องบอลรูม ละตินและดิสโก้ไปกับเพลงของ ABBA และจู่ ๆ ฉันก็ก้าวเข้าสู่ปี 2020 อย่างรวดเร็ว ในสวีเดนและเต้นรำกับ ABBA ในชีวิตจริง! ฉันกำลังจะอายุ 50 ปีและฉันก็รู้สึกเหมือนข้ามเวลาอีกครั้ง นั่นคือความมหัศจรรย์ของ ABBA เราได้แบ่งปันความสร้างสรรค์และสนุกสนานมากมายกับทีมงานเพื่อทำให้อะไรที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้สำหรับ ABBA Voyage: เวทมนตร์ของเทคโนโลยี ศิลปะ และนวัตกรรมความบันเทิง พวกเรามีเพลงใหม่ ท่าใหม่ เพลงคลาสสิก ท่าคลาสสิก: ABBA คือการเต้นรำ และจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป แล้วเจอกันบนฟลอร์เต้นรำ”

ด้าน Sir Lucian Grainge ประธานและซีอีโอ Universal Music Group เผยว่า: “ตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพการงานของผม ผมได้มีโอกาสร่วมงานกับ ABBA โดยตรงมาหลายปี เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่ได้อยู่ท่ามกลาง ABBA และดนตรีของพวกเขา ความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้ขอบเขต และท่วงทำนองที่ไร้กาลเวลาทำให้เราอยากร่วมงานกับพวกเขาในทุกงานที่พวกเขาทำ เพราะเรารู้ว่ามันจะยอดเยี่ยมมาก”

เกี่ยวกับ “ABBA”

ด้วยยอดขายกว่า 400 ล้านอัลบั้มทั่วโลก เพลงฮิตอันดับ 1 ถึง 17 เพลง และการสตรีมทั่วโลกกว่า 16 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ “ABBA” เป็นหนึ่งในวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดตลอดกาล นับตั้งแต่เพลงฮิตอย่าง ‘Waterloo’ ในปี 1974ดนตรีของ “ABBA”ได้ครองใจผู้คนทั่วโลก และวันนี้เพลงที่พวกเขาสร้าง เขียนและโปรดิวซ์โดย Benny Andersson และ Björn Ulvaeus และร้องโดยAgnetha Fältskog และ Anni-Frid ในศตวรรษที่ 21 “ABBA”

ได้รับความนิยมมากกว่าที่เคย “ABBA Gold” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1992 เพิ่งผ่านสัปดาห์ที่ 1,000 บนชาร์ตอัลบั้มของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำลายสถิตินี้ นอกจากนี้คอนเทนต์ที่ใช้แฮชแท็ก #ABBA บนTikTok มียอดวิวทะลุหนึ่งพันล้านครั้ง โดยไม่มีเพลงอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์ม “ABBA” ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Rock N’Roll Hall of Fameในปี 2010 และ ‘Dancing Queen’ ซึ่งเป็นหนึ่งในเพลงที่พวกเขาชื่นชอบมากที่สุด ถูกเพิ่มลงใน GRAMMY Hall of Fameในปี 2015

ติดตาม “ABBA” ใน Platform ต่างๆ ได้ที่

FACEBOOK | INSTAGRAM | TWITTER | TIKTOK

ติดตาม Universal Music Thailand ใน Platform ต่างๆ ได้ที่

FACEBOOK | INSTAGRAM | TWITTER | TIKTOK