ดา เอ็นโดรฟิน ดึงประสบการณ์แฟนเพลงถ่ายทอด “เวลาสุดท้าย” เตรียมเป็นเจ๊ดันเปิดค่ายเอง แง้มธีมงานแต่ง ลั่นพร้อมเปิดอู่

เพราะเคยอยู่ร่วมโมเมนต์สุดท้ายของแฟนเพลง ทำให้ ดา เอ็นโดรฟิน ถ่ายทอดเพลง “เวลาสุดท้าย” เพลงที่เป็นตัวแทนชีวิตสุดรันทดของ มิน พีชญา นางเอกของภาพยนตร์เรื่อง “ไสหัวไปนายส่วนเกิน” ซึ่งแสดงคู่กับ อนันดา เอเวอริ่งเเฮม และจะเข้าฉายในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ ออกมาได้แตกกระจุย แถมต้องร้องร่วมกับเครื่องดนตรีออร์เคสตราอีก 14ชนิด งานนี้ ดา บอกท้าทายและก็ภูมิใจมาก ก่อนจะอัพเดทเรื่องหุ้นกับคู่หมั้น เดนนิส เปิดค่ายเพลง งานแต่งที่จะเกิดขึ้นเดือนหน้านี้

“ตอนจะอัดร้อง ดานึกถึงน้องฟ้าที่เป็นโรคมะเร็งสมองค่ะ ดาได้เจอกับน้องเค้าในโมเมนต์สุดท้ายของชีวิต คุณแม่น้องเขียนจดหมายแล้วไปแปะไว้ในแฟนเพจของเอ็นโดรฟิน บอกว่าน้องฟ้าขอคำอธิษฐานไว้ 3 ข้อ หนึ่งในนั้นคือ อยากเจอ ดา เอ็นโดรฟิน น้องก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกกี่วันเพราะมะเร็งลามไปหมดแล้ว ตอนนั้นดาเพิ่งกลับมาจากทัวร์คอนเสิร์ตต่างประเทศ คืออ่านปุ๊บก็คิดเลยว่าต้องไป ทั้งที่ไม่เคยเจอไม่รู้จักน้องเค้ามาก่อน ดาไปถึงโรงพยาบาลบ้านแพ้วประมาณบ่ายสอง ตอนนั้นน้องคือหลับแต่ยังรับรู้ ยังกระพริบตากระดิกนิ้วได้ ดาถือลูกโป่งแล้วก็ร้องเพลง “อย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง” เพราะมีชื่อน้องเค้า พ่อกับแม่เค้าก็โฮเลย ไอ้เราก็กลั้นไม่ให้ร้องตาม พยาบาลก็ร้อง คือเหมือนมาส่งน้องเค้าแล้วตีสี่อีกวันน้องก็ไปค่ะ เคสนี้เลยช่วยส่งฟิลลิ่งตัวนางเอกให้ดา เราเห็นใจในมุมที่พ่อแม่เค้าต้องเสียลูก ถ้าดามีชีวิตเหลืออยู่แค่นี้ จะใช้ชีวิตยังไงให้ยิ้มเหมือนนางเอกค่ะ สิ่งที่ยากที่สุดคงเป็นเรื่องการเรียบเรียงตัวเองจะร้องยังไงไม่ให้ไปกวนออร์เคสตรา เยอะไปน้อยไปก็ไม่ดี เป็นความท้าทายที่ดาอยากรับงานนี้ด้วย กระแสก็ดี เพิ่งปล่อยเพลงไปวีคเดียวจะล้านวิวแล้ว หนังจะไปฉายที่ไต้หวันด้วย อินเนอร์หนังและเพลงของจีนกับบ้านเราคล้ายกัน ถ้าดูหนังน่าจะอินกับเพลงมากกว่านี้ด้วยค่ะ

งานของตัวเอง ตอนนี้ก็เพิ่งทำค่ายร่วมกับเดนนิสค่ะ ชื่อว่า BARS Entertainment” (บาร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) มองน้องๆไว้ 3-4 คน คนที่อาจจะไม่ได้ไปต่อในรายการแต่เค้ามีของ ก็อยากทำให้น้องๆมีศักยภาพไประดับสากลได้ เข้าใจว่าค่ายเพลงเกิดขึ้นเยอะแต่จะอยู่ยาวได้อย่างไร อันนี้สำคัญที่สุด น่าจะได้ฤกษ์คายตะขาบให้น้องๆมีผลงานก่อนสงกรานต์ค่ะ

ดา เดนนิสส่วนเรื่องงานแต่ง ตอนนี้คิวคร่าวๆคือ เดือนธันวาคม จะมีพิธียกน้ำชา ก็จะเป็นไทยจีน เพราะครอบครัวเดนนิสเป็นคนจีน เป็นการเจอกันครั้งแรกของทั้งสองครอบครัวด้วย ส่วนปาร์ตี้เวดดิ้งจริงๆวางไว้ก่อนเมษายน พี่ๆนักร้องนักดนตรีที่ดาเคยไปงานพี่ๆ ต้องมากันนะ 555 คิดไว้แล้วว่าจะจัดเป็นมิวสิกเฟสติวัลจ้ะ เราอยากทำให้เวดดิ้งเราสนุกที่สุด ไม่ต้องมีพิธีรีตอง บ่าวสาวเดินเข้างาน พูดนิดหน่อย 5โมงเริ่มโชว์แรกเลย จัดไปยาวๆถึงเที่ยงคืน สถานที่คือเซ็นทารา บอกคุณป็อก ไมนด์เซตไว้แล้ว  เรื่องทายาทก็จะปล่อยเป็นธรรมชาติตั้งแต่หลังยกน้ำชาเลย ดาอยากมีลูกหลายๆคน เอาเป็นแฝด 3 ครั้งเลยได้ไหม ถามคุณหมอให้ที ให้คุณพ่อกระเตงลูกไปฟังแม่ร้องเพลง หลังจากนี้คงต้องบาลานซ์ชีวิตทั้งสองประเทศสองครอบครัวให้ดีๆค่ะ คุณแม่ของเดนนิสก็รอให้ไปฉลองที่แคลิฟอร์เนียด้วย และภายในปีถึงปีครึ่งนี้ถ้าไม่เจอโรคเลื่อนอีก คงได้เจอคอนเสิร์ตใหญ่ของดาค่ะ”