เนื่องจากในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจวงการบันเทิงทั้งในประเทศและต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมด้วย Asia Content Business Summit หรือ ACBS  หน่วยงานที่มุ่งให้การสร้างสรรค์สื่อและอุตสาหกรรมคอนเทนต์ของเอเชีย ได้มอบหมายให้ สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ จัดโครงการ “Asia Collaboration Projects” ขึ้นเป็นครั้งแรกในงาน “เทศกาลภาพยนตร์อาเซียนแห่งกรุงเทพฯ  2564”  หรือ BAFF 2021 เพื่อจัดทำภาพยนตร์สั้นจากประเทศต่าง ๆ ในแถบเอเซีย โดยแต่ละเรื่องจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับโรคระบาดโควิด-19 ในปีนี้มีประเทศที่ส่งภาพยนตร์สั้นเข้าร่วมโครงการดังกล่าว 3 ชาติ 3 เรื่อง ได้แก่ ภาพยนตร์ “No Panic” จากประเทศฮ่องกง/ ภาพยนตร์ “WANSTS” (We All Need Someone To Stay) จากประเทศมาเลเซีย  และ ภาพยนตร์ “Volunteer 19…สงกรานต์ 19” จากประเทศไทย

ในส่วนของภาพยนตร์ “Volunteer 19…สงกรานต์ 19”  ของไทย เล่าถึงโควิดได้ทําให้วิถีชีวิตของเราเปลี่ยนไป มาตรการต่าง ๆ ถูกใช้เพื่อยับยั้งมิให้เชื้อร้ายแพร่กระจาย แม้กระทั่งเทศกาลสงกรานต์ที่อยู่คู่ไทยมานานยังต้องหยุด!!! และนี่ก็เป็นปีที่ 2 ที่ต้องงดจัดงานสกรานต์ นักดนตรีหนุ่ม “ปพน” ตัดสินใจกลับบ้านทั้ง ๆ ที่ใจไม่อยากกลับไปเจอหน้า “น้าอ้อย” น้าแท้ ๆ ที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ผู้ซึ่งทำให้เขาเลิกรากับแฟนสาว “เมย์”  เมื่อมีคนติดเชื้อโควิดหนีจากการกักตัวมาที่หมู่บ้านของปพนและน้าอ้อย จึงต้องตามหาตัวผู้ติดเชื้อรายนี้โดยมีปพนติดตามไปด้วย ภารกิจครั้งนี้ทำให้ปพนรู้สึกกับน้าอ้อยเปลี่ยนไป “Volunteer 19…สงกรานต์ 19”  กำกับโดย ตั้ม-พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว นำแสดงโดย เบิ้ล ปทุมราช,ไมเคิล เชาวนาศัย และ ป๊อบปี้-ชนม์นิภา วิเศษสุด

คุณพรชัย ว่องศรีอุดมพร ในฐานะกรรมการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าวว่า “ จุดเริ่มต้นของโครงการ “Asia Collaboration Projects”  เกิดขึ้นจากการประชุมระหว่าง วธ. และ ACBS ได้ประชุมกับหน่วยงานต่าง ๆ จากเอเซีย ได้แก่ จีน,อินโดนีเซีย,ญี่ปุ่น,ฟิลิปปินส์,เกาหลี,มาเลเซีย,ฮ่องกง,อินเดีย,สิงคโปร์ และ ไทย ต้องการจัดทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด 19 ขึ้นมา จึงมอบหมายให้ทางสมาพันธ์ฯ จัดทำภาพยนตร์สั้น 1 เรื่อง แล้วนำหนังสั้นจากมาเลเซียและฮ่องกงมาร้อยรวมกับของไทยให้เป็นเรื่องเดียวกัน การที่ ACBS สนใจเกี่ยวกับเรื่องในช่วงโควิด-19 เป็นเพราะช่วงที่ผ่านมาการระบาดของโรคดังกล่าวส่งผลกระทบกับวงการบันเทิง และยังถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งที่จะบันทึกไว้ เพื่อให้เห็นว่าช่วงที่โควิดระบาดในแต่ละประเทศเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในแง่ของความช่วยเหลือของหน่วยงานต่าง ๆ ในแต่ละประเทศ  อย่างในส่วนของไทย ปี 2019มีการรับมือกับโควิด19 ได้ดี เพราะเรามีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.ทำให้เวลาเกิดโรคระบาดหรือปัญหาด้านสาธารณสุขต่าง ๆ สามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วและดีครับ”

ด้านผู้กำกับ ตั้ม-พุฒิพงศ์ เผยว่า “ตอนที่ได้โจทย์ว่าอยากทำหนังสั้นที่เกี่ยวกับโควิด-19 ผมก็นึกถึง อสม. ครับ เพราะในปี 2019 อสม.เป็นอีกหนึ่งบุคลากรด่านหน้าสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยควบคุมการกระจายของโรค และเป็นหน่วยงานที่ให้ข่าวสารและช่วยเหลือชาวบ้านในต่างจังหวัดเป็นอย่างดี ผมเห็นคนกลุ่มนี้ทำงานหนักมากทั้ง ๆ ที่เงินเดือนของพวกเราไม่ได้เยอะ เขาช่วยด้วยใจจริง ๆ เรื่องนี้ได้ซุป’ตาร์ลูกทุ่ง เบิ้ล ปทุมราช รับบทเป็น “ปพน” และ ไมเคิล เชาวนาศัย แสดงเป็น “น้าอ้อย” ที่เลือกเบิ้ลมาร่วมงาน เพราะโจทย์คือเป็นนักดนตรีต่างจังหวัด ซึ่งตรงกับเบิ้ล เขาเป็นตัวแทนของคนต่างจังหวัด เรื่องฝีมือของเขาไม่ต้องพูดถึง เขาผ่านงานแสดงมาเยอะ ตอนทำงานด้วยกันไม่ต้องบรีฟอะไรมากเลย เขาสามารถทำงานได้ดีครับ ในส่วนของพี่ไมเคิล คาแร็คเตอร์ของน้าอ้อย ต้องเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ และไม่แคร์ว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงกับเขา ซึ่งก็ตรงกับตัวพี่ไมเคิลเช่นกัน ผมเคยอ่านบทสัมภาษณ์พี่ไมเคิล ผมรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ทำในสิ่งที่อยากทำ เขารักงานที่เขาทำพอทั้งเบิ้ลและพี่ไมเคิลมาร่วมงานกัน ผมรู้สึกว่าเขาตอบโจทย์มากครับ ก็อยากให้ทุกคนลองไปชมโครงการ “Asia Collaboration Projects” กันไปดูว่าไทย มาเลเซีย และ ฮ่องกง  แต่ละประเทศสะท้อนเรื่องราวโควิด-19 ในมุมมองต่าง ๆ ออกมาอย่างไรบ้างครับ”

สำหรับภาพยนตร์ชุดฉายต่อเนื่อง (Asia Collaboration Projects) จัดฉายให้ชมฟรี วันที่13 ธ.ค.นี้ เวลา 16.00 น. ที่โรงภาพยนตร์ พารากอนซีนีเพล็กซ์ สามารถสำรองที่นั่งเข้าชมภาพยนตร์ได้ทาง www.baff.go.th และติดตามชมตัวอย่างภาพยนตร์สั้น 3 เรื่อง 3 ชาติได้ทาง https://www.facebook.com/mpcthailand/videos/230839335854378/