“เจ้ย กลับมาแล้วจ้า” “เจเน็ต เขียว” กลับมาอีกครั้ง กับบทบาทเมียสุดที่รักของบักแหยมและแม่แสนดีของลูกชาย ใน “แหยม ยโสธร 3”

 

บทบาท-คาแร็คเตอร์

เจเน็ต เขียวกลับมาแล้วค่ะ “เจ้ย” กลับมาแล้วกับ “แหยม 3” ค่ะ มาสร้างความบันเทิงให้คุณผู้ชมและแฟนๆ แล้วนะคะ สำหรับเจ้ยในแหยมภาคนี้ก็จะแก่ขึ้นค่ะ (หัวเราะ) ยังเป็นคนรักครอบครัว รักลูกและสามีเป็นที่สุด แต่เจ้ยก็กำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง และต้องมาเจอกับเรื่องรักของลูกชายที่ดันไปรักกับลูกสาวของครอบครัวแฟนเก่าของแหยมเข้าให้อีก เจ้ยเลยต้องหาทางออกหัวใจให้กับทั้งตัวเองและลูกๆ อย่างชุลมุนทีเดียว

 

ครั้งแรกที่รู้ว่า “แหยม ยโสธร” กำลังจะกลับมา รู้สึกอย่างไรบ้าง

พี่หม่ำบอกตอนที่เราไปหาสวัสดีปีใหม่ทุกปีอยู่แล้ว พี่หม่ำก็บอกว่า “แหยม 3” จะกลับมาแล้วนะ และเป็นเรื่องราวแบบนี้ๆ เราก็หือ พอเราฟังเนื้อเรื่องว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ กลับมาเป็นแบบนี้ คือมันมีอะไรหลายๆ อย่าง หลายๆ ประเด็นในเรื่องนี้ คือมีปมต่างๆ มากขึ้น ทั้งความรักในอดีตของแหยมกับเจ้ยที่มีความลับอะไรบางอย่างปิดไว้ รวมถึงความรักของรุ่นลูกที่ถูกกีดกัน เพราะดันไปรักกับลูกของคู่ปรับขิงพ่อแม่ มันก็เหมือนกับเป็นชั้นเชิงของเรื่องด้วย พอฟังดูแล้วมันก็น่าสนุก ยิ่งได้มาเล่นแล้วก็ยิ่งสนุกเข้าไปอีก

 

ตัวละคร “เจ้ย” ในภาคนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

ก็จะมีทั้งชิงรักหักสวาท หึงหวง ดุ ฉุนเฉียวขึ้น ผู้หญิงขี้หึงมันก็ต้องอย่างนี้แหละค่ะ ไปดูไปชมเอาว่าหึงโหดขนาดไหน อ้ายแหยมจะเจออะไรบ้าง ภาคแรกเราจะโดนถีบลงน้ำไปแล้ว ภาคที่สองก็มีลูกมีครอบครัวพ่อหวงลูก  และภาค 3 นี่ก็จะเป็นต้องย้อนกลับไปที่การเล่าเรื่องความรักในอดีตจะตามมาหลอกหลอนและคนที่โดนหลอกหลอนที่สุดก็คือเจ้ย ก็จะหึงหวงลมพิษรักผู้หญิงก็จะรุนแรงเลยค่ะ

 

ภาคนี้คู่ปรับคนสำคัญของเจ้ยก็คือ “รำพึง” (แฟนเก่าของแหยม) รับบทโดยพี่มด-เมียตัวจริงของผู้กำกับ

พี่มดเขาเก่งนะคะ เขาจะมีอารมณ์การแสดงแบบของเขาเอง ซึ่งพอพี่หม่ำบอกเค้าก็จะเขินๆ ไม่กล้า อย่างฉากที่ต้องปะทะอารมณ์กันกลางตลาด พี่มดโหดมากฉากนี้แหละ สู้ไม่ถอย ตลาดแทบแตกเลย เราก็บอกพี่มดแรงๆ ได้เลย

อีกฉากหนึ่งที่ประทับใจที่พี่มดเล่นก็คือ ฉากที่แกต้องเต้นเมียงู จ้ำบ๊ะในงานวัด ต้องบอกเลยว่าพลิ้วสุดๆ เห็นแล้วทุกคนต้องอิจฉาพี่หม่ำแน่นอน (หัวเราะ)

 

“บิ๊กเอ็ม” พระเอกใหม่ที่ต้องมารับบทเป็นลูกชายของเจ้ย การร่วมงานกันเป็นอย่างไร

บิ๊กเอ็มก็เป็นคนน่ารัก น้องเค้าเอาใจใส่ในเรื่องของบท ก็บอกให้เค้าทำการบ้าน เค้าก็จะนั่งท่องบทตั้งแต่แรกเลยนะคะ เค้าก็จะฝึกไว้เลยเพราะกลัวว่าเวลาเอาจริงแล้วถ้าเกิดเล่นไม่ได้แล้วพี่หม่ำจะหงุดหงิด แต่เค้าก็ทำได้ค่ะ รวมถึงน้องมิกซ์ลูกชายคนเล็กในเรื่องก็เล่นเข้าขาสนุกสนานกันดี ไม่มีเครียดเลยค่ะ

 

“หม่ำ จ๊กมก” ในฐานะผู้กำกับ และในฐานะพี่ชายที่ให้โอกาสเรามายืนอยู่ตรงจุดนี้ 

พี่หม่ำใจดี เป็นคนดี แล้วก็ให้โอกาสคนเสมอ อย่างตัวเราเองถ้าไม่มีพี่หม่ำก็ไม่มี “เจเน็ต เขียว” ที่คนรู้จักกันในนาม “เจ้ย แหยม ยโสธร” เพราะคนรู้จักเราว่าเป็นแค่นักร้องที่ร้องเพลงตามเธค ตามเลานจ์ ไม่มีใครรู้จักเลยคือนักร้องโนเนม ก็ถือว่าพี่หม่ำให้โอกาสเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง การได้มาเล่นเป็นเจ้ยในแหยมยโสธร ทำให้คนรู้จักเจเน็ต เขียวกันทั่วประเทศ พี่หม่ำเป็นเจ้านายที่ใจดีอารมณ์ดี เวลาหงุดหงิดก็จะไม่เห็นเค้าหงุดหงิด  นักแสดงหน้าใหม่หรือเก่าก็ไม่รู้ แต่พอ 5 4 3 2 แอ็คชั่น ทุกคนก็จะตื่นเต้น สมาธิมันจะไม่นิ่ง มันจะรน พี่หม่ำก็จะให้กำลังใจโดยไม่บ่นไม่ว่า แต่จะเพิ่มบทเพิ่มมุกเข้าไปให้อีก เรียกว่าเป็นผู้กำกับถั่วงอกค่ะ (หัวเราะ) คือจะเพิ่มบทให้ ถ้าเล่นตามบทไม่ได้ก็คัทและมีเพิ่มบทให้อะไรอย่างงี้ ถ้าทุกคนไม่อยากที่จะมีการบ้านเพิ่มขึ้นๆ ทุกคนต้องทำให้ได้ ทำให้ดีตั้งแต่แรก และจังหวะต้องดี เค้ามีวิธีที่ทำให้ทุกคนมีสมาธิขึ้นมาเอง ก็ทำงานด้วยไม่เครียดเลยค่ะ สนุกสนานดี

 

นักแสดงหน้าใหม่ที่จะได้มีโอกาสมาแจ้งเกิดในหนังเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง

กับนักแสดงรุ่นใหม่ในภาคนี้ ร่วมงานกันก็รู้สึกเด็กมันน่ารักทุกคนค่ะ พูดอีสานเป็นกันทุกคน บางคนก็ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้ใช้ชีวิตในอีสาน แต่ว่าคุณพ่อคุณแม่หรือญาติพี่น้องเค้าอยู่อีสาน เค้าก็พูดได้เก่ง และการแสดงเขาก็โอเค มีสัมมาคารวะ มีมารยาท ก็น่ารักค่ะ แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วค่ะ ก็คือมันเหมือนกับเราได้เจอกันทุกวัน และเด็กๆ ก็ให้ความเคารพกับเรา เราก็รู้สึกดี อยู่ด้วยแล้วมีความสุขค่ะ

 

ประทับใจฉากไหนเป็นพิเศษ

ประทับใจฉากที่ต้องหัวเราะ คือมันยาก มันต้องหัวเราะให้เยอะ ให้กว้าง ให้นาน และให้สะใจที่สุด แล้วคนทั่วไปใครจะทำได้แบบนั้น ไม่ใช่แข่งหัวเราะนะ พี่หม่ำบอกให้หัวเราะเสียงใหญ่ๆ ขำนานอยู่นานค่ะ ขำจนไฝหลุด และเราก็หัวเราะใต้ต้นหว้า และต้นหว้ากับไฝเนี่ยอารมณ์เดียวกันเลย สีเดียวกัน เม็ดเท่ากัน ทีมงานต้องมาช่วยกันหา 3-4 คน ไม่รู้ใครเหยียบจมดินไปไหน เจอแต่ลูกหว้า แต่ไฝหายไปไหนไม่รู้ (หัวเราะ)

 

เสน่ห์และสีสันแบบยกกำลังสามใน “แหยม ยโสธร 3”

เสน่ห์ของแหยมมีเอกลักษณ์อยู่แล้ว ทั้งเรื่องสีสันเสื้อผ้า ทั้งความน่ารักธรรมชาติของชาวอีสาน ความสนุกมุกตลกที่พี่หม่ำใส่มาเต็มๆ เรื่องราวความรักความหึงหวงเป็นเรื่องราวแบบบ้านนอก เรื่องชิงรักหักสวาทที่เข้มข้นกว่าภาคก่อนๆ ดูสบายๆ แต่รับรองว่าแซบหลายจริงๆ ค่ะ

 

ในฐานะที่เป็นนักแสดงที่อยู่กับหนังเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น มีอะไรอยากจะบอกแฟนๆ หนังแหยมยโสธร

หนังเรื่องนี้มีความรู้สึกที่ผูกพันนะ เรานึกว่าเราเป็นเจ้ยจริงๆ บางทีทุกวันนี้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนก็ตาม ทุกคนก็ยังเรียกยังถามว่า “พี่เจ้ย พี่แหยมไม่มาเหรอ” ต้องขอบคุณหนัง “แหยม ยโสธร” ขอบคุณพี่หม่ำ ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่รัก แหยม ยโสธรภาคแรก และทำให้มีแหยมภาค 2 และ แหยมภาค 3  ที่ความสนุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ฝากบอกแฟนๆ ว่า เจ้ยกลับมาแล้วนะคะ  ภาค3 เป็นแม่เจ้ยที่จะหึงหวงแหยมมากแค่ไหน ต้องไปดูกัน หึงหวงเรื่องอะไรไปดูกัน มันมีผู้หญิงคนเก่าเข้ามาในชีวิตอ้ายแหยม เราก็กลัวถ่านไฟเก่าคุ ก็เลยต้องหึงต้องหวงต้องโหด ไปดูกันว่าโหดแค่ไหนนะคะ แต่รับรองโหดมันส์ฮา แซบหลายทั้งสีสันเสื้อผ้า ธรรมชาติสวยๆ มุกตลกโดนๆ คลายเครียดได้แน่นอนค่ะ 8 สิงหานี้นะคะ “แหยม ยโสธร 3” ค่ะ