“โจ๊ก SO COOL (โซคูล) กับการเล่นมิวสิกวิดีโอเพลงเศร้า” แค่ฟังไอเดียนี้ก็น่าสนใจและท้าทายอยู่ไม่น้อยแล้วและถ้าเพลงเศร้าเพลงนั้นถูกแต่งคำร้องและทำนองโดยวง MILD (มายด์) และถ่ายทอดโดยน้ำเสียงของ BOY PEACEMAKER (บอยพีซเมคเกอร์) ยิ่งเป็นการผสมผสานที่น่าลิ้มลองอย่างมากนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในเพลง“ยิ้มแห้ง“ ซิงเกิลล่าสุดของ บอย พีซเมคเกอร์ จากค่าย genie records (จีนี่ เรคคอร์ดส) ที่พร้อมมากระแทกความรู้สึกและเรียกน้ำตาผู้ฟังอีกครั้ง อย่างที่บอยทำมาได้ตลอดนับตั้งแต่เพลงแรก
“ผมอยากได้เพลงที่มีเนื้อหา ต้องทำเหมือนตัวเองมีความสุข ต้องทำเหมือนมีรอยยิ้มตลกอยู่ตลอดเวลา เพื่อกลบเกลื่อนความเสียใจของตัวเอง เพื่อไม่ให้ใครรู้“ – นี่คือไอเดียตั้งต้นของเพลงยิ้มแห้ง เพลงอกหักที่บอยอยากจะสื่อสารในมุมมองของคนที่กำลังจะเสียคนรักไป แต่ต้องแสร้งทำเป็นยิ้มแย้มเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายหนี่งรู้ว่าเราเสียใจมากที่ต้องเลิกกับเขาไป เพื่อให้เค้าได้ใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข โดยที่ไม่ต้องกังวลกับคนๆนี้ที่ยังอยู่ตรงนี้ ซึ่งบอยได้บรีฟไอเดียนี้กับวงมายด์ ซึ่งทำหน้าที่ทั้งแต่งและโปรดิวซ์เพลงนี้ให้ ซึ่งที่มาของการร่วมงานกันในครั้งนี้ เกิดจากการคอมเมนต์แซวกันในเฟสบุ๊กเท่านั้น
“แต่งเพลงให้มั่งสิ“ – ประโยคสั้นๆที่บอย ทิ้งไว้ในหน้าเฟสบุ๊กของเป้ นักร้องนำวงมายด์ นำมาสู่การร่วมงานกันของ 2 เจ้าพ่อเพลงเศร้าแห่งยุคสมัย จากเพลงเหงาและอีกนานไหม สู่เพลง “ยิ้มแห้ง” ซึ่งหลังจากนัดทานข้าวด้วยกัน และเวลาผ่านไปเพียงแค่วันเดียว เป้ก็กลับมาพร้อมกับเพลงนี้ บอยจึงตัดสินใจมอบหน้าที่แต่งเพลงให้กับ เป้ วงมายด์ ในทันที ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆในวงก็ร่วมเรียบเรียงและโปรดิวซ์เพลงนี้ ดังนั้นซิงเกิลนี้จึงเป็นเหมือนการร่วมงานกันระหว่าง BOY PEACEMAKER และ MILD ทั้งวง
“ตลกกลบเกลื่อนมันไปวันๆ ยังปลอบตัวเองคำเดิมซ้ำๆ ก็แค่หัวเราะดังๆ กลบเกลื่อนไป…” ประโยคก่อนเข้าท่อนฮุกของเพลงยิ้มแห้ง ที่เปรียบเสมือนประโยคที่อธิบายเนื้อหาหลักของเพลงนี้ ซึ่งเดิมทีเพลงไม่ได้ใช้ชื่อนี้ด้วยซ้ำ แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวของ บอย พีซเมคเกอร์ ที่ชอบนำเพลงที่เสร็จแล้วแต่ยังไม่ปล่อย ไปให้คนรอบตัวฟัง จนกระทั่งรุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า ฟังเพลงอยากจะร้องไห้ เหมือนร้องแบบฝืนยิ้มแบบแห้งๆ มันเลยกลายเป็นไอเดียของชื่อเพลงนี้ ไปโดยปริยาย ซึ่งมันเข้ากับไอเดียหลักของเพลงเสียเหลือเกิน แม้ใจเราจะเจ็บปวดขนาดไหนก็ตามเมื่อคนรักเดินจากไป แต่เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องเสียใจหรือเป็นห่วง ด้วยความที่เราเป็นคนตลกอยู่แล้ว จึงต้องฝืนยิ้มแห้งๆ ออกไป
จากไอเดียของเพลงที่เล่าถึงคนตลกที่ต้องฝืนยิ้มแม้ในใจอยากจะร้องไห้นำมาสู่ไอเดียสำหรับการถ่ายทอดบทเพลงผ่าน Short Film และ Music Video ซึ่งได้ “โจ๊กโซคูล” มาประกบคู่กับ “มะปรางอลิสา” ซึ่งงานนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับบร๊ะเจ้าโจ๊กเพราะแม้จะถ่ายทอดเพลงเศร้ามามากมายแต่เขาเองกลับไม่เคยรับบทที่เศร้าจริงจังขนาดนี้ซึ่งบทบาทของเขาคือหนุ่มอารมณ์ดีที่ตกหลุมรักและได้คบหากับสาวสวยที่รับบทโดยมะปรางแม้ว่าจะต้องเผชิญกับคำครหามากมายว่าไม่เหมาะสมกันแต่ทั้งสองก็ฝ่าฟันและคบหากันมาเป็นเวลายาวนานจนกระทั่งวันหนึ่งที่ความรักกำลังจะเปลี่ยนไปวันที่ฝ่ายหญิงขอเดินออกไปเพื่อเริ่มต้นความรักใหม่วันที่ฝ่ายชายแม้จะเศร้าเพียงไหนแต่สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงการ “ยิ้มแห้ง” เพื่อให้อีกฝ่ายไม่ต้องเป็นห่วงเพื่อให้อีกฝ่ายได้ใช้ชีวิตต่อไป…
โจ๊กโซคูลกับการเล่นมิวสิกวิดีโอเพลงเศร้าคือไอเดียที่ท้าทายทั้งทีมงานคนดูและที่สำคัญคือตัวโจ๊กเองเพราะภาพตลกที่ติดตัวมาตลอดต้องยอมรับว่ามันเป็นการยากเลยทีเดียวที่จะทำให้คนดูอินกับเขาในมุมเศร้าซึ่งกว่าจะรับเล่นบร๊ะเจ้าโจ๊กลำบากใจอย่างมากถึงกับพยายามจะคืนบทหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งวันถ่ายทำเขาถึงกับไปบนบานกับพระพิฆเนศเพื่อให้ร้องไห้ออกมาซึ่งระหว่างถ่ายทำเขาก็ทำได้จริงๆและไม่ใช่แค่นั้นต้องยอมรับว่าโจ๊กสามารถสยบคำครหาได้ทั้งหมดแม้ว่าตอนแรกๆในการชม Short Film อาจจะไม่มั่นใจว่าโจ๊กจะถ่ายทำบทเศร้าได้แค่ไหนแต่เมื่อเรื่องราวดำเนินไปเมื่อผู้ชมเริ่มสัมผัสได้ถึงความรักระหว่างตัวละครของโจ๊กและมะปรางและเมื่อจุดแยกทางมาถึงน้ำตาของคนดูก็ไหลออกมาไม่แพ้กับน้ำตาของบร๊ะเจ้าโจ๊กในหนังสั้นเมื่อเรื่องราวดำเนินต่อไปในมิวสิกวิดีโอเมื่อน้ำเสียงของบอยพีซเมคเกอร์ดังขึ้นมันแทบเข้าไปบาดหัวใจยกระดับความเศร้าเพิ่มดีกรีความทิ่มแทงอารมณ์มากขึ้นไปอีก !
ตั้งแต่นาทีแรกของ Short Film ยิ้มแห้งที่เห็นตัวละครของโจ๊กและมะปรางเชื่อว่าผู้ชมอาจจะรู้สึกว่าเขาทั้งสองไม่เข้ากันเสียเลยไม่น่ามีความเป็นคู่รักกันได้นั่นกลับทำให้เรื่องราวของหนังสั้นและมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ยิ่งใช่มากขึ้นสองคนที่ดูจะไม่เข้ากันแต่ความรักที่ไม่มีกฎเกณฑ์และขอบเขตทำให้คนสองคนมาอยู่ด้วยกันได้แต่วันหนึ่งเมื่อ “รอยยิ้ม” หมดอายุขัยเสียงหัวเราะไม่สามารถรั้งคนรักได้อีกต่อไปทางแยกจึงมาถึงความน่าสนใจของมิวสิกวิดีโอ “ยิ้มแห้ง” นอกจากการแสดงของทั้งโจ๊กและมะปรางแล้วยังมีปมสำคัญที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้และเมื่อมันถูกเฉลยยิ่งเพิ่มอารมณ์เศร้าให้ถึงขีดสุดมากยิ่งขึ้นรวมถึงการสร้างกิมมิกของชีวิตคู่ของสองตัวละครนี้ทั้งมุกการจีบมุกการบอกรักมุกการขอเป็นแฟนที่ทั้งน่ารักและเต็มเปี่ยมด้วยอารมณ์ขันแต่ในวันที่มีความสุขยิ่งยิ้มกว้างขนาดไหนในวันที่ต้องจากลายิ่งยิ้มไม่ออกมากขึ้นเท่านั้น
เชื่อว่าหลายคนน่าจะอินกับเพลง “ยิ้มแห้ง” ได้อย่างไม่ยากด้วยประสบการณ์ที่ต้องปล่อยคนรักไปตามทางของเขาแต่ด้วยความรักที่เรายังมีให้ก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องลำบากใจต้องแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มทั้งๆที่ในใจอยากจะร้องไห้ออกมามากแค่ไหนการที่ฟังเพลงนี้ไปพร้อมๆกับการดูหนังสั้นและมิวสิกวิดีโอยิ่งยกระดับความอินมากไปอีกโดยเฉพาะคนที่มีประสบการณ์ความรักที่ถูกมองว่าไม่เหมาะสมกันตัวละครของบร๊ะเจ้าโจ๊กในหนังสั้นเหมือนเป็นตัวแทนของ Loser ที่ก็มีหัวใจแม้สังคมจะมองเขาว่าเป็นคนหน้าตาไม่ดีเล่นตลกไปวันๆไม่เหมาะกับคนสวยอย่างตัวละครมะปรางเป็นเหมือนดอกฟ้ากับหมาวัดแต่เขาก็อยากเอื้อมมือขึ้นไปเด็ดดอกฟ้าทุกคนย่อมอยากมีความรักที่ดีทุกคนย่อมต้องเคยตกหลุมรักใครสักคนแม้เราจะรู้ตัวดีว่าเราไม่คู่ควรก็ตามนี่คือประเด็นที่เชื่อว่าผู้ชมส่วนใหญ่จะอินได้อย่างแน่นอน
นอกจาก Short Film และ Music Video ที่ดึงอารมณ์ร่วมจากผู้ชมขั้นสุดแน่นอนว่าหัวใจหลักคือเสียงร้องทำนองและเนื้อเพลง “แต่ต้องฝืนยิ้มให้กลบไว้ทุกคราบน้ำตา..” ทุกครั้งที่บอยพีซเมคเกอร์ร้องประโยคนี้ในท่อนสุดท้ายของฮุกมันบีบหัวใจคนฟังทุกครั้งซึ่งความดีงามของเพลงนี้บอยยกเครดิตให้กับวง MILD แบบเต็มๆที่ทุ่มเทให้กับการอัดเพลงนี้แม้จะมีการแก้เพลงดึกดื่นแค่ไหนก็ตามจะตี 4 ก็ยังทำงานกัน – “การทำงานสนุกมากครับ Spirit ของน้องทุกคนยอดเยี่ยมมาก ทุกคนยอมมารวมตัวที่ห้องซ้อมของพวกเขา แล้วก็เรียบเรียงเพลงกันแบบสดๆ อัดสดๆตรงนั้น อัดเสร็จเดินไปฟังกัน ถ้ายังไม่พอใจ ยังไม่ชอบก็เดินกลับไปซ้อมกันใหม่คิดใหม่ เอาจนกว่าจะได้สิ่งที่ทุกคนพอใจที่สุด น้องทุกคนเก่งมาก สามารถปรับเปลี่ยนทุกอย่างได้แบบในเวลาชั่วพริบตา“ – บอย พีซเมคเกอร์ กล่าวถึงความอัจฉริยะของวง MILD ที่ทำให้เพลง ยิ้มแห้ง ออกมาสมบูรณ์แบบมากที่สุด
ติดตามฟังเพลง “ยิ้มแห้ง” ซิงเกิลใหม่จาก Boy Peacemaker ได้แล้วทาง JOOX Thailand #JOOXArtistofTheMonth #BoyPeacemaker #genierecord #ยิ้มแห้ง