จากประสบการณ์ในการตรวจรักษาผู้มีปัญหามีลูกยาก พบว่าทุกวันนี้คนไข้หญิงรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควรมีเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากผู้หญิงมีอายุ 40 ปีขึ้นไปรังไข่จะเริ่มเสื่อมสภาพ ถือว่าเข้าสู่วัยใกล้หมดประจำเดือน ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างปกติ แต่หากภาวะนี้เกิดก่อนอายุ 40 ปีจะนับเป็น “ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย” ซึ่งควรได้รับการแก้ไข เพราะนอกจากจะส่งผลให้มีบุตรยากแล้ว ยังทำให้ร่างกายทรุดโทรมเร็ว เสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุน โรคหลอดเลือดหัวใจต่างๆ อีกด้วย
แพทย์จีนเชน ปรีชาวณิชวงศ์ แพทย์แผนจีนประจำหยินหยางคลินิก เปิดเผยว่า “สาเหตุและปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดรังไข่เสื่อมก่อนวัยมีมากมาย เช่น การทำลายเซลล์รังไข่โดยตรง อาทิ การผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์ หรือถุงน้ำรังไข่ชนิดต่างๆ การรักษามะเร็งในอุ้งเชิงกรานด้วยการฉายแสง โรคทางพันธุกรรม โรคภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง การพักผ่อน ความเครียด มลพิษต่างๆ เช่น โลหะหนักในฝุ่น PM2.5 ไปจนถึงไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
หลายครั้งที่คนไข้ไม่ทราบเลยว่าตนเองกำลังประสบปัญหาภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย เพราะประจำเดือนยังคงมาปกติสม่ำเสมอ มักจะมาทราบอีกครั้งตอนที่ประสบปัญหามีลูกยาก และเริ่มตรวจหาสาเหตุแล้ว ซึ่งหนึ่งในฮอร์โมนที่มีบทบาทในการวินิจฉัยภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัย คือ Anti-Müllerian hormone (AMH) ที่ถูกผลิตออกมาจากไข่ หากรังไข่ยังมีปริมาณไข่อยู่เป็นจำนวนมาก ค่า AMH จะสูง แต่ถ้ารังไข่เริ่มเสื่อม ค่า AMH ก็จะต่ำลง โดยปกติฮอร์โมน AMH ที่ดีต่อการมีบุตรควรจะมีค่ามากกว่า 2 ng/ml
หยินหยางคลินิก คลินิกแพทย์แผนจีน ที่ให้บริการด้านยาจีน ฝังเข็ม นรีเวช บุรุษเวช มีบุตรยาก และโรคทั่วไป จากการให้บริการรักษาผู้ป่วยที่ผ่านมา มีคนไข้ที่มีประวัติการผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์ที่รังไข่มาปรึกษาจำนวนไม่น้อย พบว่าคนไข้ส่วนใหญ่มีภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอย่างฉับพลัน เพราะเนื้อรังไข่จะถูกตัดออกไปด้วยบางส่วน ดังนั้นการรักษาช็อกโกแลตซีสต์จึงควรคำนึงถึงการมีบุตรหลังจากผ่าตัดไปแล้วด้วย โดยเลือกการรักษาด้วยการใช้ยาเป็นหลัก และผ่าตัดเมื่อจำเป็นเท่านั้น ซึ่งอาจจะใช้การรักษาแบบแพทย์แผนจีนด้วยยาสมุนไพรและการฝังเข็มก่อน หากช็อกโกแลตซีสต์ยุบลงแล้ว ก็สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการผ่าตัด เพราะการผ่าตัดอาจทำให้รังไข่เสื่อมก่อนวัยได้
ในทางการแพทย์แผนจีน ภาวะรังไข่เสื่อม มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับ “พลังไตอ่อนพร่อง” เพราะ “ไต” ทางการแพทย์แผนจีนนั้นจะคอยดูแลระบบสืบพันธุ์ด้วยเช่นกัน การที่ไข่น้อยลงไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตามจึงควร “บำรุงพลังไต” เป็นอันดับแรก โดยพลังไตแบ่งออกเป็น ไตหยินและไตหยาง หากไตหยินอ่อนพร่อง คนไข้จะมีอาการขี้ร้อน ตัวร้อน หรือร้อนวูบวาบ เหงื่อออกช่วงหลับกลางคืน หงุดหงิด กระวนกระวาย คอแห้ง หิวน้ำ ช่องคลอดแห้ง ท้องผูก เป็นต้น หากไตหยางอ่อนพร่อง คนไข้จะมีอาการกลัวหนาว หน้าซีดขาว ปัสสาวะบ่อย ปวดเมื่อยเอวหรือเข่า หูมีเสียง เป็นต้น
นอกจากตรวจร่างกายเพื่อดูว่าไตหยินหรือไตหยางอ่อนพร่องแล้ว ยังต้องดูสาเหตุของภาวะรังไข่เสื่อมควบคู่ไปด้วย เช่น ถ้าหากคนไข้เคยผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์ ก็จำเป็นที่จะต้องกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้ดี เพื่อป้องกันการกลับมาของช็อกโกแลตซีสต์ ลดการอักเสบในอุ้งเชิงกราน ดูแลท่อนำไข่ที่อาจจะอุดตันจากพังผืดควบคู่ไปด้วย จึงจะมีประโยชน์กับการตั้งครรภ์ที่สุด เมื่อใช้สมุนไพรจีนและการฝังเข็มรักษาแบบนี้จะสามารถบำรุงรังไข่ ยื้อให้รังไข่เสื่อมช้าลง และได้ไข่ที่มีคุณภาพเพียงพอต่อการตั้งครรภ์ และหากสามารถทำเด็กหลอดแก้วควบคู่ไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้โอกาสการตั้งครรภ์มีสูงขึ้นได้
แนะนำให้ผู้หญิงทุกคนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าติดซีรี่ย์จนนอนดึกเกินไป ควรออกกำลังกายเบาๆ แต่สม่ำเสมอ และถ้าหากต้องทำการผ่าตัดอะไรที่เกี่ยวกับมดลูกหรือรังไข่ ควรปรึกษาคุณหมอหลายๆ ท่าน เพื่อฟังความคิดเห็นและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมกับตนเอง”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 094-794-6006 หรือเข้าเยี่ยมชม Facebook ได้ที่ https://www.facebook.com/chenyinyangclinic ที่ตั้งคลินิก หยินหยางคลินิก 999/1-2 ถนนรัชดา-รามอินทรา แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230