อัลลี่ (Allie) แบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น โดย บริษัท คาเนโบ คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอความงามในรูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด “ความงาม เพื่อโลกที่ยังยืน” ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์กันแดดใหม่ปกป้องผิวจากรังสียูวี พร้อมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไร้สารอันตรายต่อปะการังและสัตว์ทะเล พร้อมชวน “นท เดอะสตาร์” นางฟ้าเกาะเต่าและเหล่ายูทูปเบอร์สาวร่วมกิจกรรม Allie เปิดท้องทะเลไทย หัวใจรักษ์โลก แลกเปลี่ยนความรู้ด้านการอนุรักษ์ทะเล พร้อมร่วมกันปลูกปะการังและทดสอบคุณสมบัติครีมกันแดดใหม่ ณ อุทยานใต้ทะเล เกาะขาม สัตหีบ จังหวัดชลบุรี
กิจกรรม “Allie เปิดท้องทะเลไทย หัวใจรักษ์โลก” เป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นเพื่อให้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและท้องทะเล ต่อเนื่องจากที่ อัลลี่ ประเทศญี่ปุ่น จัดทำโครงการร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรของฮาวาย ในการจัดกิจกรรมเชิงอนุรักษ์ช่วยฟื้นคืนทะเลให้กลับมางดงาม ภายใต้แนวคิด “ความงาม เพื่อโลกที่ยังยืน”
นอกจากจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้ว อัลลี่ ยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กันแดดให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในทุกส่วนของผลิตภัณฑ์ ทั้งการยกเลิกการใช้สารดูดซับรังสียูวีจำพวก OMC ที่ประกอบด้วยสาร Octinoxate, Oxybenzone, 4-Methylbenzylid Camphor (4MBC) และ Butylparaben ซึ่งมีงานวิจัยพบว่าเป็นอันตรายต่อสัตว์ทะเลบางชนิดและขัดขวางการเจริญเติบโตของปะการัง โดย อัลลี่ ได้พัฒนานวัตกรรมเนื้อเจลใหม่ที่สามารถจับตัวกันเป็นโครงสร้างแบบตาข่าย เกิดเป็นชั้นฟิล์มบางๆ ช่วยกันแดด ยึดติดผิวได้ดีและให้ผลในการดูดซับรังสียูวีได้เช่นเดียวกับสาร OMC อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพการกันแดด SPF50+/PA++++ และมีความเบาสบาย ไม่หนักผิว ป้องกันการเสียดสีและกันน้ำได้สูงสุด รวมไปถึงในส่วนของบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับกิจกรรม “Allie เปิดท้องทะเลไทย หัวใจรักษ์โลก” ที่จัดขึ้นที่ประเทศไทยนั้น เนื่องจากประเทศไทยมีทรัพยากรทางทะเลที่สมบูรณ์ มีทะเลที่สวยงาม มีความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล สัตว์ทะเลและปะการัง ที่ต้องช่วยกันรักษาไว้ให้เป็นสมบัติของโลก โดย อัลลี่ เลือกเปิดตัวกิจกรรมครั้งนี้ ณ อุทยานใต้ทะเล เกาะขาม สัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพราะเกาะขามเป็นแห่งแรกที่มีการเคลื่อนย้ายปะการังที่กำลังเสื่อมโทรม มาไว้ที่เกาะขามเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างแนวปะการังในบริเวณที่เสื่อมโทรมและตายไปให้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นแหล่งเพาะพันธ์และปลูกปะการังที่สำคัญของไทยอีกด้วย
โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นมีการเชิญคณะผู้บริหาร อัลลี่ ประเทศไทย พร้อมด้วย นท พนายางกูร (นท เดอะสตาร์) และเหล่ายูทูปเบอร์สาว มาร่วมเรียนรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองในการอนุรักษ์ปะการังและท้องทะเลไทย กับ อาจารย์ประสาน แสงไพบูลย์ ผู้คิดค้นวิธีการปลูกปะการังเขากวางผ่านท่อพีวีซี ถึงเทคนิคและวิธีการฟื้นฟูปะการัง พร้อมร่วมลงมือปลูกประการังเขากวางในพื้นที่อุทยานใต้ทะเลเกาะขามสัตหีบ รวมถึงร่วมกันทดสอบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดใหม่จาก อัลลี่ ระหว่างทำกิจกรรมในครั้งนี้อีกด้วย
ด้าน นท พนายางกูร หรือ นท เดอะสตาร์ ซึ่งพักหลังเดินหน้ากับงานด้านอนุรักษ์ท้องทะเลที่เกาะเต่าอย่างเต็มตัว จนได้รับฉายา นางฟ้าเกาะเต่า กล่าวถึงที่มาของงานอนุรักษ์และการร่วมกิจกรรม “Allie เปิดท้องทะเลไทย หัวใจรักษ์โลก” ว่า “เริ่มจากเป็นคนชอบดำน้ำ แล้วอยากทำอะไรที่ลึกซึ้งมากขึ้น เลยอยากเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะพอเราดำไปถึงจุดหนึ่งเรารู้ว่า แค่ไม่กี่ปีปะการังเปลี่ยนแปลงไปเยอะมาก ตายไปเยอะมาก จากปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาวะของน้ำเอง หรือจากการท่องเที่ยว ทุกวันนี้เลยไม่ใช่ดำน้ำเพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่ดำเพื่อให้เข้าใจว่า สิ่งแวดล้อมตรงนั้นเป็นอย่างไรและเราจะดูแลมันอย่างไรได้บ้าง ถ้านับระยะเวลาที่หันมาทำงานด้านนี้อย่างจริงจังก็ประมาณ 3 ปีแล้ว
กิจกรรมที่ได้มาร่วมกับ อัลลี่ ในวันนี้ รู้สึกชื่นชมความใส่ใจและการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมของอัลลี่ ทำให้รู้สึกสบายใจที่สามารถใช้ครีมกันแดดที่เป็นมิตรต่อปะการังและสัตว์ทะเล พอได้รับการติดต่อให้มาร่วมกิจกรรม นท ทราบถึงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และแนวคิดของโครงการ ทำให้ตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมในทันที ยิ่งได้ทดลองใช้ระหว่างจัดกิจกรรมเห็นได้เลยว่ากันแดดได้ดีมาก ติดผิวดี ไม่เหนียวตัวและยังได้รับความรู้เกี่ยวกับการปลูกและดูแลรักษาปะการัง ซึ่งจะนำไปปรับใช้กับงานอนุรักษ์ที่เกาะเต่าด้วย
ส่วนตัวอยากให้มีกิจกรรมในลักษณะนี้เกิดขึ้นเยอะๆ เพื่อให้คนเข้าใจถึงความสัมพันธ์และความสำคัญของธรรมชาติ เรากับธรรมชาติต้องอยู่ด้วยกันได้ ไม่ใช่เอาจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว แต่ต้องคืนกลับให้เค้าด้วย รักตัวเองก็อย่าลืมดูแลตัวเองและสิ่งแวดล้อมด้วย เราต้องอยู่กับโลกใบนี้ มันเป็นโลกใบเดียวที่เรามี ถ้าเราไม่ดูแลเค้าแล้วเราจะไปอยู่ที่ไหน เวลาไปเที่ยวเอาอะไรไป เอากลับมาให้หมด อย่าทิ้งเอาไว้ ดูแต่ตามืออย่าจับทุกๆ อย่างใต้น้ำ ต้องขอบคุณ อัลลี่ แทนคนไทยทุกคนอีกครั้ง ที่ให้ความสำคัญกับทะเลไทยและเลือกเป็นสถานที่จัดกิจกรรมเพื่อสารต่อแนวคิดนี้ไปยังประเทศอื่นๆ ต่อไป