เมื่อชายผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเริ่มเคลื่อนไหว ความปราถนาของเหล่ามวลมนุษยชาติก็ถูกเติมเต็ม
จากการ์ตูนที่ขายดีมากกว่า 10 ปี ตั้งแต่เริ่มตีพิมพ์ลงในหนังสือการ์ตูนรายสัปดาห์ Weekly Shonen Jump” ตั้งแต่ปี 1984 “ดราก้อนบอล” เป็นเหมือนตำนานของการ์ตูนที่ไม่ต้องมีอธิบายใดๆ อีกทั้งในฉบับของแอนิเมชั่นทางโทรทัศน์ก็ทำ เรทติ้งมากกว่า 20% มากว่า 11 ปี และในฉบับภาพยนตร์ก็ทำออกมาถึง 17 ตอน นับเป็นยุคของดราก้อนบอลจริงๆ และแม้ว่า 17 ปี ผ่านไปเรื่องราวก็ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ในปี 2009 เป็นช่วงที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า โทรทัศน์ความละเอียดสูง (High Definition Television) ดราก้อนบอลจึงถูกนำมาสร้างใหม่เป็น “ดราก้อนบอล ไค” และในดิจิตอล การ์ด เกม “ดราก้อนบอล ฮีโร่” ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่เด็กๆ จนกระทั่งปัจจุบัน มากกว่านั้นแอนิเมชั่นเรื่องนี้ออกอากาศกว่า 24 ประเทศ และตีพิมพ์มากกว่า 24 ประเทศ ยอดขายของหนังสือการ์ตูนทั้งเป็นตอนๆ และรวมเล่มขายได้กว่า 230 ล้านเล่มทั่วโลก
และ “ดราก้อนบอล” ก็กลับมาลงจออีกครั้งในปี 2013 นี้ ย้อนไปถึงแอนิเมชั่นตอนสุดท้ายที่ลงโรงคือ ตอน ดราก้อนบอล วิถีแห่งเจ้ายุทธภพ ในปี 1996 (Dragon Ball Z: The Path to Power) หลังจากนั้นมา 17 ปีในตอนนี้การรอคอยอันแสนยาวนาน กับผู้สร้างคนเดิม โทริยาม่า Toriyama เขาวางตัวเองไว้ในการเขียนสคริป เนื้อเรื่อง การออกแบบตัวละคร และลงลึกไปจนถึงฉากในหนัง อีกทั้งเสื้อผ้าตัวละครด้วย
เรื่องราวของเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีการการต่อสู้กับจอมมารบู ทั้งนี้มีแขกรับเชิญพิเศษเป็น นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิคจากลอนดอน ในรุ่นน้ำหนัก 57 กิโลกรัม คุณคาโอริ มัตซึโมโตะ (Kaori Matsumoto) และคุณ โชโกะ นาคากาว่า (Shouko Nakagawa) นักแสดงและนักพากย์การ์ตูนที่มีชื่อเสียงในแอนนิชั่นหลายต่อหลายเรื่อง และทั้งคู่ต่างเป็นแฟนของดราก้อนบอล สำหรับเพลงประกอบจะใช้ของ วง Flow ซึ่งวงนี้ได้ทำเพลงให้นารูโตะนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ (NARUTO) และ ยูเรก้าเซเว่น – ก้าวพ้นวัยไปกับดวงดาว (Psalms of Planets Eureka Seven) ซึ่งแนวเพลงดูจะเหมาะกับแอนิเมชั่น ทำให้เพลง Cha-La Head-Cha-La ดูมีชีวิตอีกครั้ง และครั้งนี้เราได้จัดทำเพื่อฉายในโรง IMAX ด้วยซึ่งไม่เคยมีในประวัติศาสตร์แอนิเมชั่นของญี่ปุ่น เป็นการต่อสู้ปะทะที่ดุเดือดเสมือนจริง ด้วยเทคโนโลยีนำสมัย ทำให้ ดราก้อนบอล เป็นแอนิเมชั่นที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด
ฟรีเซอร์, เซล และ จอมมารบู Frieza, Cell, and Majin Buu.
เรื่องราวทุกอย่างดูเหมือนจะเงียบสงบไปหลายปีตั้งแต่จัดการกับจอมมารบูผู้กุมชะตากรรมของโลกในตอนนั้น เมื่อผ่านพ้นวิกฤตนั้นโลกก็สงบสุข “แต่ทว่ายังมีพระเจ้าผู้ที่ให้กำเนิดดวงดาวและกำเนิดโลกและพร้อมกันนั้นยังเป็นผู้ทำลายดวงดาวและ โลกด้วยเช่นกัน” บิล พระเจ้าแห่งการทำลายล้าง ผู้ซึ่งดูแลความสมดุลให้จักรวาลหลายล้านกาแล็คซี่ เขาได้ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล ผู้ที่พร้อมจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหูขางตาได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ความน่ากลัวไม่ได้มีแค่คนเดียว แต่มาเป็นคู่ทั้ง บิล และ วิซ พวกเขาได้ยินเรื่องตลกที่ชาวไซย่าฆ่าฟรีเซอร์ พวกเขาจึงมาหาโงคู โงคูตื่นเต้นที่จะได้ต่อสู้กับคนมีฝีมือ เขาท้าประลองกับทั้งคู่ แต่เพียงแค่จะขยับนิ้วยังไม่ได้พลังทั้งหมดของโงคูหายไป “ฉันคิดว่าต้องมีซักคนทำลายโลกนี้เสียแล้ว” บิลจากไปพร้อมกับเสียงที่ก้องในหู บิลเดินทางไปยังโลก แล้วใครจะสามารถปกป้องโลกนี้จากน้ำมือของบิลและใครจะเป็น “นักรบในตำนาน” คนที่บิลค้นหา ประวัติศาสตร์การต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!
ครั้งแรกในโรง IMAXนับเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องแรก
ภาพยนตร์เรื่อง “Avatar” และ “Alice in Wonderland” เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เข้าฉายในโรง IMAX และดราก้อนบอลก็กำลังจะเข้าฉายในโรงนี้เช่นเดียวกัน นับเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องแรกในประวัติศาสตร์ ที่เขียนสคริปต์มาเพื่อเหมาะกับในโรงนี้ โดยเฉพาะ