นักแสดงหนุ่มหล่อฝีมือคุณภาพอย่าง“ตูมตาม ยุทธนา เปี้องกลาง” ที่มาร่วมงานภาพยนตร์ “ฮักเจ้าอีหลี” ภายใต้การดูแลของ M39 – บริษัท เอ็ม เทอร์ตี้ ไนน์จำกัด กำกับการแสดงโดย “แก๊ปเปอร์ – วรฤทธิ์ นิลกลม” เปิดเผยถึงบทนำ “โดม ฉายา หัวหน้าไม้บรรทัด” ว่า ..ขนาดตัวผมเองเนี่ย !! ถ่ายทอดความเป็น “โดม” ยังอดหมั่นไส้ตัวละครตัวนี้ไม่ได้ ถ้าผมเป็นลูกน้องเขาผมคงต่อยเขาไปแล้ว
“รับบทเป็น “โดม”ครับผม เป็นหลานเจ้าของวง ระเบียบวาทะศิลป์ เป็นคนเนี้ยบ เจ้ากี้เจ้าการเป็นเพอร์เฟ็กต์ชั่นนีส เป็นพวกที่แบบว่า เฮ้ย !! พี่นั่งดีๆได้มั้ย พี่นั่งแบบนี้ไม่ได้ เฮ้ย !!ใส่รองเท้าแบบนี้ไม่เหมาะ มันจะเป็นคนแบบนี้ ซึ่งเค้าจะเป็นคนที่จุกจิกจนลูกน้องแบบว่า หนีครับ ลูกน้องในวงนี่หนี กลัวกันหมดเห็นหน้าแล้วเบะปากใส่
เราเป็นคนที่ลุงเลี้ยงดูส่งเสีย เราไปเรียนจบมาจากในเมือง จากที่อื่นมาแล้วคราวนี้กลับบ้านมาเห็นวง กลับมาเห็นสภาพความเป็นอยู่ของวงหมอลำของเรา แล้วเรารู้สึกว่า มันเป็นศาสตร์และศิลป์ก็จริงนะ แต่ความเป็นอยู่ของคนมันดูไม่ถูกต้อง ในหลายๆอย่าง เรารู้สึกอยากปรับเปลี่ยนให้มันดูโมเดิร์นขึ้น ให้มันดูเจ๋งขึ้น ให้มันดูทันสมัยขึ้น แล้วก็อยากให้ภาพลักษณ์มันดูดีมากขึ้นกว่านี้ คือเราใช้ อีโก้ ของเรากลับมาพัฒนางานแต่ด้วยความที่เราเป็นเด็กใหม่ เป็นเด็กรุ่นใหม่ เราจะไม่เข้าใจว่า จริงๆแล้ว คนที่ อยู่กันมาก่อนๆแล้วนี่ วิถีชีวิตต่างๆค่อนข้างเปลี่ยนได้ยาก แล้วที่สำคัญคืออยู่ดีๆเราไปสั่งใครเปลี่ยนไม่ได้ อันนี้คือสิ่งที่ตัวละครได้พบเจอเสมอ
ซึ่งเป็นกิมมิคเล็กๆของการที่แบบว่าเราได้เห็นถึงความเจาะลึกเข้าไปสู่วงหมอลำว่าเมื่อมันมีคนหนึ่งที่ขัดแย้ง เราจะเห็นความแตกต่างเราจะได้เห็นชีวิตจริงๆของเขาในเบื้องหลังว่าเขาอยู่กันยังไง อะไรยังไงบ้าง ซึ่งมันก็คือวิถีชีวิตที่ผมเชื่อว่า อย่างคนดูเองอาจจะยังไม่เคยเห็นเบื้องหลังของวงหมอลำขนาดนั้น ว่าจริงๆเขาเป็นยังไง อย่างเช่นคนเมืองเอง ที่มาอยู่ในเมืองหรืออะไรก็ตามที่แบบไม่มีโอกาสได้รู้ลึกจริงๆว่าหมอลำเขาเป็นอย่างไง อันนี้เป็นสิ่งที่ผมภูมิใจนะ ผมรู้สึกว่าพอเราได้ไปอยู่ในบรรยากาศแบบนั้นจริงๆ แล้วมันน่ารักมากเลย ผมรู้สึกว่าเขาเก่งกันมากอ่ะ ความเป็นหมอลำคือเก่งมาก คนๆนึงไม่ได้ทำได้อย่างเดียว
ผมเคยเซอร์ไพร้ส์อยู่รอบนึงที่แบบว่า เรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมเบื้องหลังของวงหมอลำ เราเห็นกลางวันมีแก๊งค์ผู้ชายอยู่แก๊งค์นึงเขาแบกเหล็กสร้างเวที พอกลางคืนเขากลายเป็นผู้หญิงเต้นอยู่หน้าเวทีกันแล้ว เค้าทำอะไรได้หลายอย่างมากน่าทึ่งมากๆครับ
บทนี้ ไม่ได้มีอะไรยากมาก เพราะว่าด้วยการนำเสนอของเรื่องไม่ได้ไกลตัวมาก คือผม โดยพื้นฐานแล้วผมเป็นคนฟังหมอลำ อยู่อินกับความเป็นอีสานทั้งหมด ซึ่งอย่างที่บอกว่าตัวละครเป็นแบบไหน วิถีชีวิตหมอลำเป็นแบบไหน อันนี้ ผมค่อนข้างเข้าใจดีเพราะว่าผมอยู่แบบนั้นมาเหมือนกัน ผมอยู่แบบบ้านนอกมาเลยผมก็เลยไม่ได้มีอะไรที่ยากตรงนั้น แต่ก็แค่ทำตัวให้ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราเคยเป็นอย่างเช่นเราจะนั่งเสื่อกินข้าวเราจะอยู่จ้ำปลาร้าต่างๆนานา เรารู้สึกว่า มันก็กินได้ไม่ได้อะไร แต่ว่ามันต้องถูกสุขลักษณะ ที่เราจุกจิกกับลูกน้อง ก็แค่ทำตัวให้เป็นคนเมืองมากขึ้น เหมือนที่เขาเรียกว่า ศิวิไลซ์เซชั่นมากขึ้น
เรื่องย่อ “เคน” (เต๋า- ภูศิลป์ วารินรักษ์ ) ตลกหนุ่มท้ายแถวคณะหมอลำชื่อดัง ฝันอยากจะเป็นพระเอกหมอลำเบอร์หนึ่งเพื่อต้องการให้คนชื่นชมและยอมรับ แต่ทว่า เสียงร้องของเขากลับเพี้ยนขั้นสุดจนคนที่ผ่านมาได้ยิน ยกมือปิดหูแทบไม่ทัน แล้ววันหนึ่งการปรากฏตัวของ “โดม” (ตูมตาม ยุทธนา) ก็ทำให้เขามีโอกาสลุ้น อีกทั้งกลุ่มเพื่อนๆก็ให้กำลังใจ และ สนับสนุนช่วยเหลือเขาสุดกำลัง
นำแสดงโดย เต๋า ภูศิลป์ วารินรักษ์ , ตูมตาม ยุทธนา เปื้องกลาง , กวาง จิรพรรณ บุญชิต, ท็อป - นรากร กันจันทึก,ต้าวหยอง – ยุคลเดช ปัจฉิม(แด๊นเซอร์เอวเด้ง 4G จาคณะหมอลำระเบียบวาทะศิลป์) , โบ๊ท-อนาคามี บินสมัน (นักแสดง / ดาว Tiktok),มนต์มิ่งขวัญ ม่วงมีรส (ศรีมาลา – Drag Race Thailand SS2) , นายภักดี พลล้ำ หัวหน้าวงหมอลำคณะระเบียบวาทศิลป์, อาร์ตี้- ธนฉัตร ตุลยฉัตร พร้อมด้วยรับเชิญพิเศษ นุกเกอร์ กฤษกร บุญมา, พระราม ศุภราช เกษศิริ และ ฟอส สิทธิชัย สร้างใส จากหมอลำคณะเสียงอิสาน ฯลฯ กำกับการแสดงโดยผู้กำกับ แก๊ปเปอร์- วรฤทธิ์ นิลกลม พร้อมฉายในโรงภาพยนตร์ 29 กันยายน 2565