รร.โฟร์ซีซั่นส์/// กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สถาบันอาหาร และหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม แถลงข่าวการจัดงาน กาลาดินเนอร์อลังการ “Gala Dinner KORAT Cuisine” A Taste of Thai ในวันที่ 16 กันยายน นี้ ที่ห้อง บอลรูม โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ พบมิติใหม่ของอาหารโคราชพื้นบ้านรสชาติดั้งเดิมบนโต๊ะดินเนอร์สุดหรู ฝีมือการจัดตกแต่งคอร์สอาหารกาลาดินเนอร์โดยเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย พร้อมเปิดตัวโครงการครัวภูมิภาคไทยอย่างเป็นทางการ ประเดิมด้วยภาคอีสานก่อน เตรียมเดินหน้าจัดโต๊ะภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง ทั้งจัดอบรมสร้างสรรค์เมนูใหม่ให้พ่อครัว แม่ครัว ในภัตตาคาร ร้านอาหาร และโรงแรมห้าดาว หนุนผู้ประกอบการธุรกิจจัดเลี้ยงทั่วไปแบบครบวงจรทั้งด้านเงินทุนหมุนเวียนและให้คำปรึกษาทุกมิติ หวังให้รวมกลุ่มแบบ คลัสเตอร์ธุรกิจจัดโต๊ะอาหารท้องถิ่นแต่ละภูมิภาค สร้างทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค ส่งเสริมอัตลักษณ์อาหารทุกภูมิภาคของไทยให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ยกระดับเมนูอาหารท้องถิ่น และภาคธุรกิจบริการอาหารสู่มาตรฐานสากล ทั้งในแง่รสชาติ คุณภาพ ความปลอดภัย คุณค่าทางโภชนาการ พร้อมพัฒนารูปแบบการนำเสนอ และการบริการในหลากหลายระดับ สอดรับนโยบาย ”ครัวไทยสู่ครัวโลก” เตรียมบุกร้านอาหารไทยในต่างประเทศทั่วโลก
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะประธานที่ปรึกษาโครงการครัวภูมิภาคไทย(Thai’s Regional Cuisine) กล่าวถึงแนวคิดการจัดงานกาลาดินเนอร์ “KORAT Cuisine” A Taste of Thai ว่า ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานครัวภูมิภาคไทย ที่ต้องการส่งเสริมอัตลักษณ์อาหารไทยโดยเฉพาะอาหารท้องถิ่นซึ่งเป็นของดีในแต่ละภูมิภาคทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง ซึ่งเป็นรสมือตามภูมิปัญญาท้องถิ่น และตามทรัพยากรธรรมชาติ อันเป็นวัตถุดิบสำคัญในการปรุง รวมทั้งมีเรื่องราวความเป็นมาอันเกี่ยวข้องกับวิถี ประเพณี ของแต่ละท้องถิ่นอีกด้วย โดยมุ่งหวังว่าจะให้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและทั่วโลก ทั้งต้องการสร้างการรับรู้ และสร้างคุณค่าให้กับอาหารไทย โดยการนำเรื่องราว (Story) ของอาหารไทยประจำภูมิภาคมานำเสนอ ขณะเดียวกันก็เพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนในอุตสาหกรรมอาหารให้ได้พัฒนาต่อยอด ทั้งด้านการผลิต การจัดจำหน่าย การบริโภคและการบริการ ให้เกิดแนวคิดการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมและการลงทุนอย่างกว้างขวาง
นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า งาน Gala Dinner KORAT Cuisine จัดขึ้นเพื่อเป็นการยกระดับภาพอาหารโคราชในอีกรูปแบบหนึ่ง โดยได้เชิญทั้งกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางความคิด ไม่ว่าจะเป็นสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ คอลัมน์นิสต์ รวมทั้งกลุ่มเชฟที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในแวดวง ที่สำคัญยังได้เชิญอัคราชทูต ราชทูต และทูต ต่างประเทศที่ประจำอยู่ในประเทศไทยกว่า 15 ประเทศ เชฟจากโรงแรมระดับ 5 ดาว ผู้บริหารโรงแรมต่างๆ หน่วยงานเอกชน สมาคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มารับทราบถึงแนวคิดของอาหารโคราช และเป็นกลุ่มผู้ผลักดันอาหารโคราชเข้าสู่โรงแรมในระดับต่างๆต่อไป
“การจัด Korat Cuisine ครั้งนี้ เน้นที่การนำอาหารโคราชรสชาติดั้งเดิม จากร้านที่อร่อยของจังหวัด หรือนำ Signature Dish ของร้านดังมาถ่ายทอดผ่านเชฟ แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติแบบตำรับเดิม โดยเชฟจะช่วยจัดรูปแบบ การนำเสนออาหาร ซึ่งนับว่าเป็นการให้ความสำคัญทั้งเรื่องรสชาติ และการนำเสนอที่สวยงาม ผสมผสานกับการนำ วิถีชีวิต วัฒนธรรม กลิ่นไอของความเป็นโคราช วัสดุอุปกรณ์ในการจัดเน้นของโคราช ไม่ว่าจะเป็นภาชนะเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ผ้าไหมหางกะรอก หรือผ้าไหมปักธงชัย เข้ามาเป็นองค์ประกอบของงานด้วย นอกจากการจัดกิจกรรม Gala Dinner แล้วยังมีแนวคิดในการดำเนินการจัดเทศกาลอาหารโคราชร่วมกับทางสมาคมโรงแรม และผลักดันให้เป็นรายการอาหารแนะนำ หรือเป็นเมนูอาหารโคราช เพื่อให้เกิดการต่อยอดต่อไป
โดยก่อนหน้าที่จะมีการจัดงานในครั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้เข้าไปช่วยสนับสนุนและส่งเสริม ในการศึกษาวิจัย ถึงความเป็นมา คุณประโยชน์ และรายการอาหารต่างๆ ที่มีมาตั้งแต่อดีต และได้นำงานวิจัยนั้นมาสร้างผู้ประกอบการใหม่ในอุตสาหกรรมการผลิต การบริโภค การบริการ โดยการให้ความรู้ด้วยการฝึกอบรม นอกจากนี้ยังมีแนวคิดในการจัดตั้งคลัสเตอร์ผู้ประกอบธุรกิจจัดเลี้ยงโต๊ะอาหารท้องถิ่นแต่ละภูมิภาค เพื่อให้เกิดการรวมกลุ่มในการดำเนินการคล้ายคลึงกับโต๊ะจีน ของจังหวัดนครปฐม รวมทั้งยังมีหน่วยงานสนับสนุนอย่าง สสว. ในการประคับประคองสนับสนุนผู้ประกอบการในด้านการลงทุนให้มีความเข้มแข็ง ที่สำคัญยังมีการยกระดับอาหารโคราชให้ก้าวไปสู่ระดับสากล โดยสถาบันอาหาร เข้ามาช่วยในการปรับมาตรฐานกระบวนการปรุงให้มีความปลอดภัย ปรับกระบวนการบริหารจัดการ การสร้างกลุ่มผู้ประกอบการ การยกระดับความสำคัญของสัญลักษณ์ และส่งเสริมให้มีการประชาสัมพันธ์อาหารโคราชในระดับต่าง ๆ ทั้งที่เป็นระดับ premium เป็นรายการอาหารที่บรรจุอยู่ในโรงแรม ร้านอาหารระดับ 5 ดาว และระดับที่ใช้สำหรับการจัดเลี้ยงทั่วไป โดยได้มีการจัดรูปแบบการอาหารโคราช 5 ประเภท คือ แบบคานาเป้ (Canape’) แบบบุฟเฟ่ต์(Buffet) แบบกาลาดินเนอร์(Gala Dinner) แบบโต๊ะโคราชดั้งเดิม และแบบโต๊ะจีน ซึ่งถือเป็นมิติใหม่แห่งวงการอาหารพื้นบ้าน ที่จะนำภูมิปัญญาชาวบ้านมาสานต่อ และยกระดับสู่สากล โดยขณะนี้ สถาบันอาหารได้มีการทำวิจัยและเตรียมดำเนินการสนับสนุนให้เกิดโต๊ะอาหารจากภูมิภาคอื่นๆ ทั้งโต๊ะล้านนา โต๊ะปักษ์ใต้ และสำรับไทยภาคกลาง ในลำดับต่อไปแล้ว” นายสุวัจน์ กล่าว
นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า “โครงการครัวภูมิภาคไทยเริ่มต้นที่ภาคอีสาน เนื่องจากภาคอีสานมีอาหารที่มีความหลากหลาย อาหารส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักคุ้นเคย และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในประเทศเป็นอย่างดี และหลายรายการได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติ มีชื่อเสียงติดอันดับโลก มีศักยภาพในการส่งเสริมให้ได้รับการพัฒนารูปแบบการเสิร์ฟ และการรับประทานที่หลากหลายมากขึ้นได้ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่กระทรวงฯให้การสนับสนุน ภายใต้โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้เป็นครัวอาหารคุณภาพของโลก(Thailand Food Quality to the World) เป็นกิจกรรมการสร้างอัตลักษณ์อาหารไทย และส่งเสริมให้เกิดเมนูใหม่ๆ ที่ชาวต่างชาติรู้จัก โดยได้มอบหมายให้สถาบันอาหารเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ มุ่งเน้นในการส่งเสริมและยกระดับอาหารท้องถิ่นให้มีมาตรฐานรวมถึงมีการบริการที่เป็นสากล ทั้งส่งเสริมอัตลักษณ์อาหารทุกภูมิภาคของไทยให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ยกระดับเมนูอาหารท้องถิ่น และภาคธุรกิจบริการอาหารสู่มาตรฐานสากล ทั้งในแง่คุณภาพ ความปลอดภัย และคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมพัฒนารูปแบบการนำเสนอ การตกแต่งอาหาร และการบริการในหลากหลายระดับ สอดรับนโยบาย ”ครัวไทยสู่ครัวโลก” โดยได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง คาดว่าในระยะสั้นเมื่อจบโครงการฯจะกระตุ้นให้เกิดการรวมกลุ่มเพื่อดำเนินธุรกิจ และการบริการในภาคธุรกิจร้านอาหารและจัดเลี้ยงในประเทศได้ ส่วนระยะยาวมีแผนจะไปแนะนำเมนูอาหารแต่ละภูมิภาคที่
ได้รับการพัฒนารูปแบบการรับประทาน ณ ร้านอาหารไทยในต่างประเทศทั่วโลกอีกด้วย” นายประเสริฐ กล่าว
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงความคืบหน้าและรายละเอียดของโครงการครัวภูมิภาคในช่วงที่ผ่านมาว่า “กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โดยศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 6 ได้มีการดำเนินการอบรมผู้ประกอบการไปแล้วจำนวน 1 รุ่น 60 คน เป็นผู้ประกอบการโรงแรมในจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มร้านอาหาร และผู้สนใจทั่วไป มุ่งเน้นสร้างผู้ประกอบการใหม่ ให้ความรู้ทั้งในเรื่องสูตรอาหารโคราช การบริหารจัดการ การตลาด ในเรื่องของโต๊ะโคราช สุขลักษณะในการผลิต นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้มีการทำวิจัยและพัฒนารูปแบบการบริการอาหารที่บูรณาการวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าด้วยกัน การจัดอบรมผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านอาหาร พ่อครัว แม่ครัวในโรงแรม 5 ดาวเกี่ยวกับการพัฒนาเมนูอาหารท้องถิ่นและวิธีการนำเสนอเพื่อให้บริการขึ้นโต๊ะเสิร์ฟในรูปแบบสากล การควบคุมคุณภาพอาหารที่จัดเสิร์ฟ การควบคุมต้นทุน การขนส่งต่างๆ รวมทั้งให้มีพี่เลี้ยงคอยช่วยดูแล จากหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นสถาบันอาหาร หรือ สสว.
ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำคู่มือการทำอาหารท้องถิ่นแต่ละภูมิภาคเพื่อเผยแพร่ไปทั่วโลก รวมทั้งการจัดตั้งคลัสเตอร์(cluster) ในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโต๊ะจัดเลี้ยง อาจจะเป็นในรูปกลุ่ม ชมรม สมาคม เพื่อสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงในการรับงาน รวมทั้งการให้การสนับสนุนในด้านเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจอาหารท้องถิ่นแก่ผู้ประกอบการภาคบริการร้านอาหาร ภัตตาคาร และกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจบริการโต๊ะจัดเลี้ยง การดำเนินการวิจัย คุณค่า คุณประโยชน์ ของอาหารท้องถิ่นแต่ละแห่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อยืดอายุการเก็บรักษา โดยให้คงสภาพรสชาติ และเนื้อสัมผัสที่ถูกต้องตามสูตรต้นตำรับ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และที่สำคัญสามารถส่งออกไปยังต่างประเทศได้ และการอบรมให้ความรู้ด้านมาตรฐานความปลอดภัยในการผลิต ทั้งนี้จะเริ่มทยอย
ดำเนินงานเผยแพร่อาหารโต๊ะภูมิภาคอื่นๆ ตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ตามลำดับ โดยนำรูปแบบของจังหวัดนครราชสีมาเป็น Model ในการดำเนินการในภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป”
นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวสรุปว่า “แนวคิดในการจัดทำเรื่องโต๊ะโคราช หรือ การสร้างอัตลักษณ์ให้กับอาหารประจำถิ่น นี้อยู่ในโครงการที่สถาบันอาหารดำเนินการอยู่แล้ว นับเป็นการส่งเสริมอัตลักษณ์และอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้สามารถแข่งขันได้ โดยเฉพาะในจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นจังหวัดใหญ่ มีผู้ประกอบการด้านอาหารเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ คำว่า โคราช เป็นที่รู้จักทั่วไปว่าเป็นประตูสู่อีสาน ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้น เพื่อสร้างการรับรู้ของกลุ่มคนทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศได้เป็นอย่างดี จึงได้มีการกำหนดให้จัดงาน Gala Dinner KORAT Cuisine ขึ้น โดยนำเสนอในรูปของการสร้างคุณค่าเพิ่ม ในรูปแบบพรีเมี่ยม ด้วยรูปแบบการจัดองค์ประกอบของจาน ผ่านเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ซึ่งเป็นชาวโคราชโดยกำเนิด แต่ทั้งนี้ยังรสชาติ และวัตถุดิบของต้นตำรับดั้งเดิมไว้ นอกจากนี้ปัจจุบัน สถาบันอาหาร ยังได้มีการทำวิจัย และสนับสนุน ให้เกิด โต๊ะเชียงใหม่ โต๊ะสมุย โต๊ะภูเก็ต ซึ่งกำลังอยู่ในกระบวนการวิจัยพัฒนาและดำเนินการไปแล้วในพื้นที่ต่างๆ รอการเปิดตัวโต๊ะโคราชอย่างเป็นทางการ แล้วจะได้ดำเนินการ ในระยะเวลาที่เหมาะสมต่อไป”