เรียกได้ว่าเป็นละครเวทีที่ถูกกล่าวขานมากที่สุดของปีนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ “ละครเวทีสุนทราภรณ์ เพลงรักเพลงแผ่นดิน โดยเพลงเอก Restage” แม้จะถูกนำกลับมาแสดงรีเสตจให้ได้ชมกันอีกครั้งในช่วงวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลวันพ่อแห่งชาติของปี 2565 แต่กระแสของละครเวทีเรื่องนี้ก็ไม่ได้น้อยลงเลย เพราะผู้ชมหลายต่อหลายคน ที่ซื้อบัตรในช่วงก่อนหน้านี้ไม่ทัน จึงมีเสียงเรียกร้องให้ทาง โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ขอให้นำกลับมาแสดงอีกครั้ง และเสียงตอบรับของการกลับมาในครั้งนี้ ดีเกินคาด สมการรอคอยของแฟนๆ ผู้ที่ชื่นชอบละครเวที และเรื่องราวของวงดนตรีระดับตำนานอย่าง วงสุนทราภรณ์ ที่คนไทยทุกคนต่างรู้สึกผูกพัน ได้นำมาเล่าและถ่ายทอดผ่านบทเพลง ผ่านเรื่องราวความรัก ความผูกพันของจิตวิญญาณ นักดนตรี รวมแล้วกว่า 83 ปีของวงดนตรีสุนทราภรณ์… สำหรับการแสดงมีขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 5 ธันวาคม 2565 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น 7 สยามสแควร์วัน
ละครเวทีเรื่องนี้ได้มอบความสุข และอิ่มเอมใจให้กับคุณผู้ชมตลอดระยะเวลา 3 ชั่วโมงเต็ม แต่อัดแน่นทั้งเรื่องราวของวงสุนทราภรณ์ และยังได้ฟังเพลงสุดไพเราะจากน้องๆ เหล่าศิลปินเพลงเอกทั้ง 2 ซีซั่น นำโดย ธัช กิตติธัช , พูลิม ณิชกานต์,นุ อนุกูล,อาย กุลนรี,แบ็งค์ เฉลิมรัฐ,โก๊ะตุลย์ พันธนนท์,หลิน วลัญจ์รัช , แบ๋ม สิริรัตน์,แพรวจีรวัลย์ ร่วมนำแสดงโดย อาร์ม กรกันต์ สุทธิโกเศศ ,หยา จรรยา ธนาสว่างกุล,แท้ป ศรีล สุขุม และนักแสดงอีกมากมาย ที่จะมาร่วมถ่ายทอดบทเพลงของวงสุนทราภรณ์ในอดีต กว่า 30 เพลง ที่สร้างความตราตรึงใจแก่คุณผู้ชม
สำหรับโชว์ในรอบการแสดงรีเสตจในครั้งนี้ มีเพลงมาเพิ่มอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเพลง “รำวงกสิกรไทย” และเพลง “หน้าที่เด็ก” เพลงที่คุ้นหู แต่มีใครหลายๆคน อาจจะยังไม่เคยทราบถึงที่มาที่ไปของจุดเริ่มต้นของแต่ละบทเพลงของวงสุนทราภรณ์ ที่ครูเอื้อ สุนทรสนาน และครูแก้ว อัจฉริยะกุล สองคนที่ช่วยกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ จนมีบทเพลงที่เป็นตำนานมาถึงในปัจจุบันนี้ จนเป็นที่มาของคำว่า “ทำนองเอื้อ-เนื้อแก้ว” หรือ “แก้วเนื้อ-เอื้อทำนอง”…. นอกจากจะได้รับรู้เรื่องราวของบทเพลงแล้ว ฉาก เสื้อผ้า แสง สี เสียง ของเหล่านักแสดงก็สามารถทำให้คุณผู้ชมร่วมย้อนรำลึกไปถึงในช่วงคุณสมัยนั้นได้จริงๆ แต่ที่ทำเอาคนดูต่างประทับใจนั่นคือ เสียงร้องและการแสดงน้องๆศิลปินเพลงเอก เริ่มต้นด้วยด้วยการโชว์สีไวโอลินที่ “ธัช กิตติธัช” ต้องไปเรียนเพิ่มเติมเพื่อแสดงในละครเวทีเรื่องนี้โดยเฉพาะ ที่มาในเพลง “พระเจ้าทั้งห้า” ตามมาด้วยฉากรักหวานซึ้ง ของคุณอาภรณ์ และครูเอื้อ ที่รับบทโดย “พูลิม ณิชกานต์” และ “อาย กุลนรี” ที่รับบทเป็น คุณชอุ่ม ก็ยังแสดงออกมาได้น่ารัก ทำให้คุณผู้ชมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ส่วนเพลงที่รวมโชว์ความสามารถของหมู่มวลในเพลง “เพลงรักของเธอ” โดยผ่านการเล่าเรื่องเชื่อมโยงแต่ละฉาก โดย “อาร์ม กรกันต์” ที่ทั้งร้องและเต้น เอาอยู่ทุกบทบาทในเรื่องนี้เลยทีเดียว และเพลงที่หลายคนยังประทับใจที่มาของเพลง “ลอยกระทง” ที่สมัยนั้น ครูเอื้อ และครูแก้ว แต่งก่อนงานเริ่มเพียงไม่กี่นาที หรือแม้แต่เพลง “นางฟ้าจำแลง” เพลงที่ใช้ประจำในการประกวดนางสาวสยาม หรือนางสาวไทยในอดีตก็มาจากวงดนตรีสุนทราภรณ์แทบทั้งสิ้น….. แต่ที่คุณผู้ชมดูจะถูกอกถูกใจและทึ่งไปกับเงาเสียง เหมือนจนทุกคนต้องปรบมือให้กับสามสาวอย่าง เพลง “เพลินเพลงแมมโบ” (แพรว จีรวัลย์ แสดงเป็น คุณศรีสุดา) , เพลง “ขวัญใจเจ้าทุย” (แบ๋ม สิริรัตน์ แสดงเป็น คุณรวงทอง) และ เพลง “จุฬาตรีคูณ” (หลิน วรัชญ์รัช แสดงเป็น คุณมัณฑนา) และ เพลง “ขวัญใจเจ้าทุย” (แบ๋ม สิริรัตน์ แสดงเป็น คุณรวงทอง) เรียกได้ว่าสมกับเป็นดีกรีเป็นผู้เข้าแข่งขันร้องเพลงในรายการเพลงเอก ก่อนปิดโชว์ของเหล่านักแสดงด้วย “เพลงรักของเธอ เพลงแผ่นดินของเรา” และเพลง “แด่ที่รักใคร่” สมกับเป็นละครเวทีแห่งปี ที่มามอบช่วงเวลาอิ่มเอมหัวใจให้กับคุณผู้ชมได้มีความสุขส่งท้ายปลายปี 2565 นี้ได้อย่างไม่รู้ลืม….