ถึงจะเคยเล่นฉากบู๊ในละครมาก่อน แต่พอพระเอกหนุ่มหน้าเข้ม ต้น-ศักราช ศรีวังพล มาเจอฉากแอ็คชั่นในภาพยนตร์แฟนตาซี “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์” อำนวยการสร้างโดย ดร.ประพล มิลินทจินดา และผลิตโดย ไอยารา แอนนิเมชั่น แอนด์ สตูดิโอ เจ้าตัวก็ถึงกับเหงื่อตก เพราะไม่คิดว่าเยอะและหนักขนาดนี้
ต้น-ศักราช เผยว่า “ในเรื่องผมรับบทเป็น “เก่ง” เป็นคนอารมณ์ดี สู้ชีวิต มีอาชีพตีไก่เพื่อเลี้ยงน้องสาว “เปี๊ยก” รักน้องสาวมาก ตอนที่อ่านบทจบผมรู้สึกว่าเก่งสู้ชีวิตคล้ายกับผม รักครอบครัว และอารมณ์ดีเหมือนกัน ตอนที่ได้รับการติดต่อให้มาเล่นเรื่องนี้ ผมเคยอ่านข่าวไอ้ไข่ครับ ตอนนั้นกำลังดังมาก คนไทยเดินทางไปไหว้ขอพรกันที่ จ.นครศรีธรรมราช กันเยอะ ตัวผมเองตอนนั้นยังไม่มีโอกาสได้ไปไหว้เลย ก็เลยหาประวัติของไอ้ไข่มาอ่านก่อน ประกอบกับได้อ่านบทที่เป็นเรื่องราวบางส่วนของไอ้ไข่ในเวอร์ชั่นบทภาพยนตร์รู้สึกสนุกดีครับ เก่งจะเป็นตัวแทนคนทั่วไปที่มีภาระทางใจแล้วอยากจะไปขอความช่วยเหลือไอ้ไข่ครับ”
“การทำงานเรื่องนี้สนุกมาก ได้เล่นแอ็คชั่นเยอะ มีต่อยมวยด้วย ช่วงที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้ผมถ่ายละครมีฉากที่ต้องต่อยมวย ช่วงนั้นทางกองละครก็ให้ผมไปเรียนต่อยมวย พอมาเล่นหนังผมเลยไม่ต้องไปเรียนมวยเพิ่ม แต่ต้องไปเรียนบู๊แอ็คชั่นแทน เพราะเรื่องนี้บู๊แอ็คชั่นเยอะเกินคาด เยอะที่สุดตั้งแต่ผมทำงานมา ถามว่าบู๊เยอะขนาดนี้มีผิดคิวบ้างไหม มีครับ มีฉากหนึ่งที่ผมโดนรุมกระทืบ มีเตะโดนหน้าผากของผม เหมือนภาพสโลโมชั่นเลยครับ เบลอนิดนึง ขนาดใส่เซฟทุกอย่างแล้ว ผู้กำกับอยากได้ภาพสมจริง ก็เลยเจ็บจริง ตอนที่เจ็บตัวก็เล่นต่อ ไม่อยากต้องถ่ายซ้ำ ฉากนี้ถ่ายไม่กี่เทคก็ได้ภาพถูกใจผู้กำกับแล้วครับ นอกจากนี้ยังมีขึ้นสลิงด้วย ถึงจะไม่สูงมาก เป็นฉากที่ผมต้องกระโดดเตะตัวร้าย พี่เก่ง-ชัชวาลย์ แต่ต้องขึ้น-ลงนานเป็นชั่วโมงเลย เพราะถ่ายหลายคัทครับ เป็นฉากที่ต้องใช้เท้าถีบ 2 ขา ถีบขาเดียวว่ายากแล้ว 2 ขายิ่งยากเลย แถมยังต้องถือดาบด้วย บางทีเตะไม่เนียน บางทีภาพไม่สวยก็ต้องถ่ายใหม่ มีอยู่ทีนึง ตกลงมาบนเบาะแล้วหลังไปทับดาบ เจ็บมากเลย แต่ก็ฝืนถ่ายต่ออีกครับ ไม่อยากให้ทีมงานรอครับ อยากให้ทุกคนเข้าไปชมหนังเรื่องนี้กัน สนุกครบรสจริง ๆ ครับ”
ติดตามชมความสนุกของภาพยนตร์ “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์” ได้ในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ทางโรงภาพยนตร์