กรุงเทพฯ ประเทศไทย – 8 มีนาคม 2566 – ในฐานะผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย และความตั้งใจในการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ วัตสันร่วมจัดกิจกรรมพิเศษเฉลิมฉลองวันสตรีสากล จำหน่ายโบว์สีเขียวระดมทุนให้กับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ หรือ ‘บ้านพักฉุกเฉิน’ เพื่อช่วยเหลือสตรีที่ประสบปัญหาวิกฤติชีวิต พร้อมจับมือ ‘โดฟ’ แบ่งปันรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในร้านวัตสัน ตั้งแต่ 8 – 14 มีนาคม 2566 นี้

เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล (International Women Day) วัตสันร่วมจัดกิจกรรม Watsons Green Ribbon 2023 เสริมความแข็งแกร่ง และสนับสนุนความเท่าเทียมให้กับผู้หญิง ณ ร้านวัตสัน สาขา CP TOWER โดยภายในงานได้มีการเดินขบวนพาเหรดจำหน่ายโบว์สีเขียว เพื่อระดมทุนสนับสนุนการดำเนินงานของสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ หรือ ‘บ้านพักฉุกเฉิน’ พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ ‘ต่อ ธนภพ’ และ ‘บูม’ ที่มาร่วมสร้างสีสันภายในงาน ทำให้กิจกรรมสุดพิเศษในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่สัญจรผ่านไปมาเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้วัตสันยังร่วมมือกับโดฟเพื่อสมทบทุน โดยทุกๆ การซื้อผลิตภัณฑ์โดฟ 1 ชิ้นในร้านวัตสัน ร่วมบริจาคให้กับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ 5 บาท เพื่อสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมฯ และเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนผู้หญิงทุกคนให้มีความกล้าหาญ โดดเด่น และแข็งแกร่ง

โบว์สีเขียววางจำหน่ายแล้วที่ร้านวัตสันทุกสาขาในราคา 20 บาท โดยรายได้ทั้งหมดจะถูกมอบให้กับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ (บ้านพักฉุกเฉิน) โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่าย โดยทุกท่านสามารถร่วมสนับสนุนโบว์สีเขียวและผลิตภัณฑ์ของโดฟได้ตั้งแต่วันที่ 8 – 14 มีนาคม 2566 นี้

เกี่ยวกับวัตสัน

วัตสันเป็นผู้นำ O+O (Offline plus Online)  ร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามมีสาขากว่า 8,000 สาขา และร้านขายยา กว่า 1,500 ร้านค้า ในเอเชีย และยุโรปทั้ง 15 ตลาด วัตสันสร้างมาตรฐานสูงสุดอย่างต่อเนื่องในตลาดด้านสุขภาพและความงามโดยให้คำแนะนำ คำปรึกษาเฉพาะและการดูแลส่วนบุคคล ตลอดจนการส่งต่อความรู้สึกแบบ – LOOK GOOD, DO GOOD, FEEL GREAT – หรือ  “ดูดีได้ ทำดีด้วย รู้สึกดีไปด้วยกัน”  เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและรอยยิ้มให้แก่ลูกค้าทุกคนได้ในทุกๆ วัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552  วัตสันได้ก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ ร้านยาอันดับหนึ่งของเอเชีย*  ในยุโรป วัตสันยังเป็นร้านเพื่อสุขภาพและความงามชั้นนำในประเทศยูเครนอีกด้วย

*วัตสันครองตำแหน่ง “แบรนด์ร้านขายยาอันดับหนึ่งของเอเชีย” (Asia’s Top 1000 Brands) จากผลสำรวจประจำปี 2020 ทางออนไลน์กับกลุ่มตัวอย่าง 8,000คนใน 14 ตลาด ทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก