“นมัสเต จ๊ะเอ๋บ๊ายบาย” หนังดีที่ต้องบอกต่อ ธรรมะวัยใส จริงใจ ให้แง่คิดพร้อมความสนุก

             “นมัสเต จ๊ะเอ๋บ๊ายบาย”เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นภายใต้โครงการ บวชพุทธสาวิกาสองแผ่นดินโดยเสถียรธรรมสถาน และสร้างขึ้นในโอกาสฉลองปีพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ธรรมโดยมีการถ่ายทำใน 3 ประเทศคือ ไทย อินเดีย และเนปาล  ผลงานกำกับโดย 2 ผู้กำกับมากฝีมือและศรัทธาในด้านพุทธศาสนาอย่าง นาย-สวัสวดี วงศ์สมเพ็ชร และ โน้ต-พรรณพันธ์ ทรงขำ พร้อมด้วยนักแสดงวัยเกรียนที่ร่วมเดินสายกลางอย่าง ออม สุชาร์ มานะยิ่ง รับบท พลอย, น้องปอปอ-สาธิมา อุดมเวศย์ รับบทแม่ชีน้อย,วชิระ ค่ายดำ รับบท ชีระ,วรินกร ปลื้มจิตต์ รับบท ก้อง  และณัฐนา คูวงษ์วัฒนาเสรี รับบท เกน โดยเนื้อเรื่องเป็นแนวดราม่า-คอมมอดี้ที่สอดแทรกธรรมมะไปได้อย่างลงตัวและดูไม่น่าเบื่อ  แถมแฝงแง่คิดดีๆมากมาย เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราสามารถสัมผัสและเข้าใจได้

นมัสเต จ๊ะเอ๊บ๊ายบาย เป็นเรื่องราวของ“พลอย”ครีเอทีฟผู้ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง เหวี่ยง วีน  มั่นในความรู้ความสามารถของตนเอง สามารถทำได้ทุกอย่างที่ทำให้ตัวเองได้ไปสู่จุดที่สูงที่สุดของชีวิตได้ พอวันหนึ่งมีคลื่นลูกใหม่ซัดเข้ามา คลื่นลูกเก่าก็ย่อมสลาย แต่พลอยรับไม่ได้กับสภาพที่ตนเองกำลังถึงช่วงขาลงของชีวิตการทำงาน จับพลัดจับพลูได้ ไปร่วมเดินทางแสวงบุญ ณ สังเวชนียสถานทั่วประเทศอินเดียและประเทศเนปาล และได้พบเจอเรื่องวุ่นๆและความน่ารักของแม่ชีน้อย โดยสาว ออม สุชาร์ ผู้รับบท พลอย กล่าวว่า

                    “ในเรื่องนี้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้ร่วมเดินทางไปทำงานกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ประทับใจกับหลายๆฉากที่ถ่ายทำ จริงๆคือประทับใจทุกฉาก แต่ฉากที่สุดแสนทรหดอย่างมากก็คือ ฉากที่พลอยต้องพาแม่ชีน้อยขึ้นขี่บนหลังพากันเดินขึ้นเขาคิชกุฏเป็นระยะทางสูงชัน  5 กิโลเมตรเพื่อขึ้นไปสักการะพระพุทธองค์  เป็นฉากที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของตัวละครสองคนนี้  พลอยมีความเมตตา เอ็นดู และอยากให้แม่ชีน้อยได้ขึ้นไปไหว้พระพุทธสมดั่งความตั้งใจ  ถึงแม้ว่าแม่ชีน้อยจะไม่สบาย  ก็มีความเพียรพยายามที่จะทำให้สำเร็จในการถ่ายทำ  ทีมงานและนักแสดงทุกคนต้องเดินด้วยเท้าเป็นระยะทางขึ้นเขาตลอด 5 กิโล แล้วมีช่วงที่เป็นลักษณะขั้นบันไดหลายร้อยขั้นก่อนจะถึงจุดสูงสุดของภูเขา  ออมต้องเอาน้องปอปอขึ้นขี่บนหลังจริงๆ ตอนแรกคิดว่าจะไหวไหมนะ  เพราะน้องปอปอตัวเกือบเท่าออมอยู่แล้วเราถ่ายทำกันยาวนานมากกับฉากนี้ เดินจริง ขี่หลังจริง เหนื่อยจริง  และล้มจริง  ถ้าได้ชมในภาพยนตร์  จะเห็นว่าก่อนถึงบันไดขั้นสุดท้าย  ออมแบกแม่ชีน้อยอยู่บนหลังแล้วล้มลงหัวเข่ากระแทกพื้นจริงๆเลย  ภาพนั้นเกิดขึ้นจริง เจ็บจริงเลยค่ะ   แต่ในความเหนื่อยนั้นเหมือนมีพลังอะไรสักอย่างที่ผลักให้เราพยายามถ่ายทำฉากนั้นกันโดยที่มองข้ามความเหนื่อยยากไปได้เลยคะ ภาพที่ออกมาสวยและซาบซึ้งรับรองว่าทุกคนที่ได้ชมจะต้องชอบภาพยนตร์เรื่องนี้เหมือนออมคะ  ออมขอฝากผลงานภาพยนตร์ดีๆ เรื่องนมัสเต จ๊ะเอ๋บ๊ายบายนี้ให้ติดตามชมพร้อมได้ร่วมทำบุญไปด้วยกันนะคะ”

          

ด้วยเนื้อเรื่องที่สนุกสนานเฮฮาไม่ชวนเบื่อ “นมัสเต จ๊ะเอ๋บ๊ายบาย”จึงเป็นภาพยนตร์ที่น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งของคนดูหนัง สอดแทรกธรรมะที่เป็นเรื่องใกล้ตัว ในชีวิตคนเมืองปัจจุบันที่แสนวุ่นวาย มาร่วมเดินทางแสวงหาความเป็นจริงของชีวิตในรูปแบบความฮา สไตล์ธรรมะวัยมันส์กันได้ในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์เท่านั้น  เริ่มเข้าโปรแกรมฉายวันแรกในวันที่19 กันยายน 2556 นี้ ราคาตั๋ว 99 บาททุกที่นั่ง  โดยจะฉายวันละ 2 รอบ ได้แก่ เวลา14.00 น.และเวลา 19.00 น.ในโรงภาพยนตร์ที่ร่วมโปรแกรมธรรมะอารมณ์ดี ได้แก่ เมเจอร์ปิ่นเกล้า,เมเจอร์รังสิต, เมเจอร์รัชโยธิน,  เมกาบางนา,เอสพลานาดแคราย,แฟชั่นไอซ์แลนด์,ซีคอนแสควร์ ศรีนครินทร์,ซีคอนบางแคซึ่งรายได้จากการจำหน่ายตั๋วภาพยนตร์ทั้งหมดจะนำไปใช้เพื่อนำธรรมะกลับสู่หัวใจเด็กและเยาวชนในกิจกรรมโครงการต่างๆ