Hypnotic จิตบงการปล้น ผลงานการกำกับภาพยนตร์แอ็กชันเดือดไอเดียล้ำล่าสุดของผู้กำกับบ้าพลัง “โรเบิร์ต รอดริเกซ” ที่บอกเล่าเรื่องราวของนักสืบหนุ่ม “แดนนี รูก” (เบน แอฟเฟล็ค) ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับโจรกรรมครั้งใหญ่ของชายปริศนา (วิลเลียม ฟิชต์เนอร์) ผู้ใช้การบงการจิตเป็นอาวุธสำคัญและจ้องจะวางแผนการร้ายบางอย่าง งานนี้จึงทำให้รูก ต้องร่วมมือกับ “ไดอานา ครูซ” (อลิซ บรากา) หญิงสาวผู้เชี่ยวชาญด้านการสั่งจิตมาช่วยเขาแกะรอยแผนตบตาครั้งใหญ่ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน
โดยโปรเจกต์หนังเรื่องนี้เป็นการปลุกปั้นกว่า 20 ปีของ โรเบิร์ต รอดริเกซ ซึ่งเจ้าตัวเริ่มร่างไอเดียมาตั้งแต่ปี 2002 และได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานคลาสสิกของฮิตช์ค็อกอย่าง Vertigo ทั้งยังเผยว่า โปรเจกต์นี้เป็นสิ่งที่เขาเฝ้ารอและอยู่ในใจเขามาตลอด
ได้ยินว่าคุณพัฒนาหนังเรื่องนี้มากว่า 20 ปี
โปรเจกต์นี้อยู่ในใจของผมมาโดยตลอด ผมได้ไอเดียทำหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ลูกชายผมอายุ 5 ขวบ จนพวกเขาโตจนได้ช่วยผมทำงานในหนังเรื่องนี้ หนังบางเรื่องอาจใช้เวลาเตรียมงานนานกว่าเรื่องอื่น มันอาจต้องเกิดบางอย่างกับชีวิตคุณก่อนมันถึงจะจุดประกายไอเดียเฉียบ ๆ จนมันลงล็อก จุดหักมุมบางจุดในหนังเรื่องนี้ได้มาจากประสบการณ์ชีวิตของผม ผมต้องแก่พอที่จะเจนโลกเสียก่อน มันคือความระทึกสไตล์ฮิตช์ค็อกแบบอัดสเตียรอยด์ ผมอยากให้มันเต็มไปด้วยจุดหักมุมกับเรื่องราวของวายร้ายที่พร้อมพรากทุกสิ่งไปจากคุณ แต่คุณอาจจำไม่ได้ว่าเคยเจอเขาด้วยซ้ำ
การทำงานร่วมกับดารา และผู้กำกับแนวหน้าของวงการอย่าง เบน แอฟเฟล็ค เป็นอย่างไรบ้าง?
สำหรับผมพระเอกเรื่องนี้เป็นสุดยอดผู้กำกับคนหนึ่งของวงการ ซึ่งความสามารถของเบนจะช่วยยกระดับหนังเรื่องนี้ ออร่าของ เบน แอฟเฟล็ค ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลังถ่ายหนังฮิตช์ค็อกเลย เหมือนผมทำงานกับดารารุ่นคลาสสิก เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง แต่พร้อมจัดเต็มให้กับบทบาท เขาโคตรจะเท่ เขาพร้อมทำทุกอย่างเขาช่วยเราประหยัดเวลาได้เยอะมาก
ภาพยนตร์เรื่องนี้เจอพิษโควิดเข้าไปเต็มๆ คุณรับมือกับมันอย่างไร?
งบเราลดลงเพราะเราต้องเลื่อนถ่ายหลายรอบ ซึ่งการเลื่อนครั้งนี้ทำให้ตารางถ่ายทำกระชั้นขึ้น ผมไม่เคยถ่ายหนังเร็วขนาดนี้มาก่อน ตารางมันเข้มข้นมาก มันหมายถึงผมต้องควบรวมหลายหน้าที่ เหมือนสมัยที่ผมทำ Mariachi เลย ทั้งกำกับ, โปรดิวซ์, เขียนบท, ตัดต่อ และถ่ายด้วย มันเหมือนย้อนเวลากลับไปสมัยที่ผมทำ El Mariach เลย แตกต่างกันตรงที่ตอนนี้ผมมีประสบการณ์มากกว่า และมีสตูดิโอเป็นของตัวเอง
นี่เป็นอีกครั้งที่คุณได้ร่วมงานกับ พาโบล เบอร์รอน ผู้กำกับภาพคู่ใจ
เราสนิทกันมาก มันช่วยได้เยอะ ทุกคืนหลังปิดกอง ผมกับพาโบล มักเอาฟุตเทจที่ได้ในแต่ละวัน มาตัดต่อคร่าวๆ และเอาให้นักแสดงดูในเช้าวันถัดไปเพื่อให้เห็นภาพตรงกัน มันสร้างความไว้ใจในการทำงาน เวลาถ่ายหนัง เราไม่รู้หรอกว่ามันจะออกมาเป็นยังไง จนกระทั่งได้เห็นฟุตเทจที่ตัดต่อแล้ว ยอมเหนื่อยหน่อย แต่มันช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นจริงๆ นะ
Hypnotic เป็นเหมือนธุรกิจครอบครัว เพราะคุณพาลูกชายสองคนของบ้านรอดริเกซมาร่วมแจมในเรื่องนี้ด้วย
ใช่ คำว่าครอบครัวที่เกริ่นไป ไม่ใช่แค่อุปมาอุปมัย เรเซอร์ เป็นโปรดิวเซอร์หลักคนหนึ่งของเรื่อง เขาประจำอยู่หน้ากองเสมอ และ เรเบล รับหน้าที่ทำดนตรีประกอบให้หนัง ผมเคยทำเพลงให้หนังตัวเองเหมือนกัน แต่เรื่องนี้เรเบลแย่งผมทำ (หัวเราะ)
เรื่องก่อนที่เราทำ We Can Be Heroes เขาทำเพลงตามคำแนะนำของผม คราวนี้เขาเริ่มทำเพลงตั้งแต่ขั้นเตรียมงาน พอเราปิดกล้องเขามีเพลงรอไว้แล้วหลายเพลงเลย แต่จริงๆ แล้ว ลูกชายคนเล็กของผม โร๊ก รอดริเกซ ก็มีส่วนช่วยด้วย เขาจำลองซีนก่อนถ่ายทำจริงด้วยอนิเมชั่น มันช่วยให้เราหาวิธีถ่ายทำสำหรับช็อตที่ต้องอาศัยเทคนิคพิเศษ มันทำให้เราเห็นภาพรวมของซีนนั้นๆ ก่อนลงมือจริง เขาสร้างมันขึ้นมาด้วยเอนจินของวิดีโอเกม
คุณอยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ภาพยนตร์ ที่เฝ้ารอชม Hypnotic อยู่ไหม?
Hypnotic เป็นไอเดียหนังที่ชอบที่สุดเท่าที่ผมเคยเขียนมา มันเป็นผลงานที่มอบโอกาสให้ผมจัดเต็มไปเดียสุดล้ำที่ผมอยากทำมานาน มันเหมือนพาผู้ชมเข้าห้องมืด พยายามทำให้พวกเขาเชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นอยู่ตรงหน้าคือของจริง ทำให้พวกเขาอินไปกับการสะกดจิต ด้วยการใช้ภาพ เสียง และดนตรี นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละครในเรื่องเช่นกัน พวกเขาแยกไม่ออกว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง
เตรียมมันส์ไปกับมหึมาแอ็กชันโจรกรรมผลงานล่าสุดของผู้กำกับไอเดียล้ำ โรเบิร์ต รอดริเกซ ที่กลับมาจัดเต็มแอ็กชันเดือดของเกมปล้นที่ทั้งโลกไม่เคยเจอใน Hypnotic จิตบงการปล้น 22 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์
จ้องให้ดีสกู๊ปเปิดโลกบงการจิต