‘บิ๊กเมาน์เท่นมิวสิคเฟสติวัล’ ได้ชื่อว่าเป็นเทศกาลดนตรีระดับประเทศที่ผู้คนพูดถึงมากที่สุดตลอด 12 ปีที่ผ่านมา เพราะบิ๊กเมาน์เท่นไม่ใช่เป็นแค่เทศกาลดนตรีแต่เป็นการสร้างวัฒนธรรมกับคนหมู่มากที่รักในเสียงเพลง รักในเสียงดนตรีได้มารวมตัวกัน รวมถึงการไปเจอสิ่งที่ไม่เคยเห็น หรือไปพบกับสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่ได้คาดหมายไว้ ทั้งหมดนี้คือการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ บวกกับการผสมผสานของดนตรีที่หลากแนวไม่จำกัดค่าย ศิลปะ ไลฟ์สไตล์ อาหาร ดีไซน์ และไอเดียสร้างสรรค์ ดังนั้นจึงทำให้ทีมผู้จัดมืออาชีพอย่าง ‘GAYRAY’ (เกเร) ภายใต้หน่วยงาน ‘GMM SHOW’ (จีเอ็มเอ็มโชว์) ในเครือ ‘GMM GRAMMY’ (จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่) เตรียมสร้างความสนุกครั้งใหม่ กับประเทศ ‘เป๊ปซี่ พรีเซนต์ บิ๊ก เมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล ครั้งที่ 13’ ครั้งนี้มาพร้อมกับธีม ‘Amazing Big Mountain’ (อะเมซิ่ง บิ๊กเมาน์เท่น) จะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม 2566 ณ ดิ โอเชี่ยน เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา 

ทั้งนี้ เพื่อให้สมกับความยิ่งใหญ่ของบิ๊กเมาน์เท่นฯ ครั้งที่ 13 ที่จะไม่ได้เป็นเพียงเทศกาลดนตรีอีกต่อไป แต่จะเป็นประเทศใหม่ที่เล็กที่สุด แต่สนุกและมีความสุขที่สุด พร้อมต้อนรับแฟน ๆ ที่จะเข้ามาท่องเที่ยวที่ประเทศนี้ ที่อัดแน่นด้วยประสบการณ์ความสนุกสุดอะเมซิ่ง ที่ผ่านการรังสรรค์มาอย่างลงตัว มากถึง 15 ย่าน ซึ่งแต่ละย่านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำกันเลย รับรองเลยว่าการมาเที่ยวประเทศใหม่อย่างบิ๊กเมาน์เท่นฯ ครั้งนี้ จะมีแต่ความสุข และความสนุกสุดประทับใจอย่างแน่นอน!

ในครั้งนี้ บิ๊กเมาน์เท่นฯ ยังคงรวบรวมไลน์อัพดนตรีครบเครื่องทุกแนว จากหลากหลายศิลปิน รวมทั้งการแสดงสดเต็มรูปแบบจากวงดนตรี และศิลปินชั้นนำระดับประเทศจำนวนมาก ระเบิดความมันส์ให้สุดใน 3 ย่านที่เป็นที่ตั้งของ 3 เวทีหลักอย่าง ‘MOUNTAIN STAGE’ (เวทีเมาน์เท่น) เวทีสุดยิ่งใหญ่ ที่ได้ขยายพื้นที่ความสนุก และเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ทั้งทางเข้าและทางออก จุดอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมพบกับศิลปินเบอร์ใหญ่ขวัญใจมหาชน นำทีมโดย KLEAR (เคลียร์), BIG ASS (บิ๊กแอส), COCKTAIL (ค็อกเทล), NUM KALA (หนุ่ม กะลา), POTATO (โปเตโต้), SLOT MACHINE (สล็อตแมชชีน), TILLY BIRDS (ทิลลี่ เบิร์ดส), URBOYTJ (ยัวร์บอยทีเจ), THREE MAN DOWN (ทรีแมนดาวน์), TAITOSMITH (ไททศมิตร) และ LOMOSONIC (โลโมโซนิก) 

ความสนุกของประเทศใหม่นี้ไม่ได้จบเพียงแค่นี้ เพราะยังมีย่านที่เป็นเอกลักษณ์ประจำประเทศที่ได้ออกแบบ และตกแต่งทั้งย่านด้วยกราฟฟิคลายวัวสุดเท่ อย่าง ‘COW STAGE’  หรือ ‘เวทีวัว’ ย่านที่เหล่านักท่องเที่ยวจะได้ปลดปล่อยความมันส์ตลอดทั้ง 2 วัน 2 คืน ไปกับ ZOM MARIE (ส้ม มารี), VIOLETTE WAUTIER (วิโอเลต วอเทียร์), BOWKY LION (โบกี้ ไลอ้อน), INK WARUNTORN (อิ้งค์ วรันธร), LIPTA (ลิปตา), NON TANONT (นนท์ ธนนท์),  TATTOO COLOUR (แทททู คัลเลอร์), 2002 ราตรี, DAN BEAM (แดน บีม), POP PONGKOOL (ป๊อบ ปองกูล), STAMP (สแตมป์), POLYCAT (โพลีแคท), PARADOX (พาราด็อกซ์) และ JOEYBOY (โจอี้บอย) 

อีกหนึ่งประสบการณ์อันน่าจดจำที่บิ๊กเมาน์เท่นฯ ไม่อยากให้เหล่าด้อมพลาดคือ ‘BLOCK STAGE’ (เวทีบล็อค) ย่านที่สามารถให้แฟนคลับทุกด้อมได้ใกล้ชิดกับศิลปินคนโปรดมากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็น  ATLAS (แอทลาส), PIXXIE (พิกซี่), 4EVE (โฟร์อีฟ), BILLKIN X PP KRIT (บิวกิ้น X พีพี กฤษฎ์), MILLI (มิลลิ), JEFF SATUR (เจฟ ซาเตอร์), MXFRUIT (มิกซ์ฟรุต) และอีกเพียบ แถมยังจัดเต็มโปรดักชั่น และขอเอาใจเหล่าด้อมด้วยการเตรียมอัฒจันทร์นั่งร้านให้ขึ้นไปถือป้ายไฟยืนเชียร์ศิลปินสุดป็อปที่ชื่นชอบแบบไม่โดนบัง

อีกหนึ่งความน่าตื่นเต้นในประเทศบิ๊กเมาน์เท่นฯ ครั้งนี้คือ 5 ย่านใหม่หลากสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น ย่านใหม่ของ ‘น้าเน็ก’ กับ ‘CAMP JAZZ’ (แคมป์แจ๊ส) พื้นที่ของคนรักดนตรีแจ็ส ที่มีฟลอร์เต้นรำ เพื่อให้ทุกคนได้โชว์สเต็ปสุดพริ้วไปกับวงแจ็สหลากหลายสไตล์จาก FOURTWO89 (โฟร์ทูเอทตี้ไนน์) อาทิ DADDY C BANGKOK MOJO (แด๊ดดี้ซีแบงค็อกโมโจ), HOT CLUB OF SIAM (ฮอตคลับออฟสยาม), KINGSLEY DRIVE (คิงสลีย์ไดรฟ์), SUNNY RATTANA X SRI (ซันนี่ รัตนา X ศรี), THE THONGLOR QUARTER (เดอะทองหล่อควอเตอร์) และ THE VINTAGERS (เดอะวินเทจเจอร์) 

ครั้งแรกกับประสบการณ์การนั่งดูคอนเสิร์ตจากเวทีเมาน์เท่นผ่านจอขนาดใหญ่บนลานกว้างกลางงาน ที่ ‘CENTRAL PARK’ (เซ็นทรัลปาร์ค) นอกจากนั้นยังมี ‘SAMYARN MARKET’ หรือตลาดสามย่านที่ขอเอาใจสายกิน จัดเต็มเมนูคาวและหวานสุดอร่อย และมีที่นั่งให้ทานอาหารแบบสะดวกอีกด้วย หรือจะเป็นย่านใหม่ ‘ตลาดธงฟ้า’ ที่เปิดเอาใจนักท่องวเที่ยวทุกเพศทุกวัย ให้มาเลือกซื้อเลือกหาของกินราคาประหยัด ซึ่งแต่ละร้านที่เราคัดสรรมาให้นั้นรับรองเรื่องความอร่อย กินง่าย อิ่มแปล้ไม่เกิน 50 บาท และอีกหนึ่งย่านใหม่ที่ทุกคนไม่ควรพลาด นั่นคือย่าน ‘ART DISTRICT’ (อาร์ตดิสทริค) พื้นที่ชมงานศิลปะในรูปแบบ ART INSTALLATION (อาร์ตอินสตอลเลชัน) กับแลนด์มาร์กใหม่อย่าง ‘วัวอัดลมยักษ์ใหญ่’ ที่ตั้งตระหง่านรอทุกคนมาถ่ายรูปอัพลงโซเชียล

อีกทั้งภายในประเทศบิ๊กเมาน์เท่นฯ ยังมีย่านไฮไลต์อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ประกอบไปด้วย ‘RUMWONG BAR x ระเบียบวาทะศิลป์’ (บาร์รำวง x ระเบียบวาทะศิลป์) ย่านสุดม่วนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากปีล่าสุด ทำให้ปีนี้จัดเต็มยิ่งกว่าเดิม ด้วยการเปิดพื้นที่ให้ทุกคนสามารถร่วมเต้นบนเวที และมีเสาส่วนตัว สนุกสุดมันส์ไปกับศิลปินประจำย่านแห่งนี้ นำโดย ระเบียบวาทะศิลป์, มนต์แคน เแก่นคูณ, ก้อง ห้วยไร่, เบิ้ล ปทุมราช ฯลฯ 

พร้อมเพลิดเพลินสุดอบอุ่นไปกับ ‘KRATOM STAGE’ (เวทีกระท่อม) เวทีที่รวมศิลปินอินดี้และโฟล์กซองไว้เพียบ ไม่ว่าจะเป็น VELIKA (เวลิก้า), AYLA’S (ไอย์ลาส์), LOSERPOP (ลูซเซอร์ป็อป), FLUFFYPAK (ฟลัฟฟี่ภัค), SHERRY (เชอร์รี่), TINN (ติณณ์), TOFU (เต้าหู้), เรนิษรา, NEWERY (นิวเวอร์รี่), วงนั่งเล่น, ดวงดาวเดียวดาย, SITTA (สิทธา), มนัสวีร์, LANDOKMAI (ลานดอกไม้), เขียนไขและวานิช และ คณะขวัญใจ 

ตามมาด้วยย่าน ‘EGG STAGE’ (เวทีไข่) ย่านที่ให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งเพลงที่บ้านเพื่อน โดยออกแบบและตกแต่งเวทีให้กลมกลืนเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว แถมยังมีกิจกรรมแบบสโลว์ไลฟ์ อาทิ กาแฟดริป, ชงชาเขียว เป็นต้น ในส่วนของศิลปินประจำย่านนี้ ได้แก่ THE WHITEST CROW (เดอะไวเทสโครว), PATRICKANANDA (แพทริคอนันดา), BONNADOL (บอนซ์ ณดล), SARAH SALOLA (ซาร่าห์ ซาโรลา), ไปส่งกู บขส.ดู๊, FREEHAND (ฟรีแฮนด์), DESKTOP ERROR (เดสก์ทอปเออร์เรอร์), YEW (ยูว์), DEPT (เดปป์), ONLY MONDAY (โอนลี่ มันเดย์), ANATOMY RABBIT (อนาโตมี แรบบิท), HYBS (ไฮบ์ส), YENTED (เย็นเต็ด), MIRR (เมอร์), WHAL&DOLPH (วาฬแอนด์ดอล์ฟ), RESTROSPECT (เรโทรสเปกต์) x KAO JIRAYU (เก้า จิรายุ) และ BOMB AT TRACK (บอมบ์ แอท แทร็ค) 

และย่าน ‘CHIC STAGE’ (เวทีไก่) เวทีสุดชิคของวงอินดี้หน้าใหม่ มีดีที่ดีไซน์ ทั้งเวที และสะพานไม้ทางเดินไปยังเวทีที่ประดับประดาด้วยไฟสีสันหลากสี พร้อมโชว์จากศิลปินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น TELEVISION OFF (เทเลวิชั่น ออฟ), THE WHITE HAIR CUT (เดอะไวท์แฮร์คัท), BLACKBEANS (แบลคบีนส์), PURPEECH (เพอพีช), QLER (คิว), YOURMOOD (ยัวร์มู้ด), ROOFTOP (รูฟท็อป), UNCLE BEN (อังเคิล เบน), SOLITUDE IS BLISS (โซลิจูด อิส บลิส) และ ZWEED n’ ROLL (สวีด แอนด์ โรล)

นอกจากความบันเทิงหลากหลายรูปแบบแล้ว ครั้งนี้บิ๊กเมาน์เท่นฯ ยังมาพร้อมกับการใช้ชีวิต และการนอนภายในงานได้อย่างสะดวก กับย่าน ‘CAMPSITE VILLAGE’ (แคมป์ไซต์ วิลเลจ) ที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น CAMPING ZONE (แคมป์ปิ้งโซน), EASY CAMPING ZONE (อีซี่แคมป์ปิ้งโซน), MOTORBIKE CAMPING ZONE (มอเตอร์ไบค์แคมป์ปิ้งโซน), MOTORBIKE EASY CAMPING ZONE (มอเตอร์ไบค์อีซี่แคมป์ปิ้งโซน) และ CAR CAMPING ZONE (คาร์แคมป์ปิ้งโซน) 

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีพื้นที่พักผ่อนกลางป่าสุดชิลล์ กับย่าน ‘FOR-REST’ (ฟอร์เรส) ที่เปิดให้ทุกคนได้มานั่ง มานอนแบบสบาย ๆ ในเวลาช่วงกลางวัน และในเวลาช่วงกลางคืนจะเปลี่ยนพื้นที่พักผ่อนนี้ให้กลายเป็นผับขนาดย่อม ๆ ที่มีดีเจเปิดแผ่น ท่ามกลางบรรยากาศแสง สี เสียงชั้นเยี่ยม 

และเลือกอร่อยไปกับเมนูไข่เจียวสุดอร่อยของดีประจำประเทศบิ๊กเมาน์เท่นฯ ที่ย่าน ‘KAIJEAW CITY’ (ไข่เจียวซิตี้) ที่แขกไปใครมาจะต้องแวะมาลิ้มรสความอร่อยของหลากหลายเมนูไข่เจียวสูตรพิเศษที่หาทานได้ที่นี่ที่เดียว ที่สำคัญครั้งนี้เอาใจสายหิวยามดึก ยิ่งดึกยิ่งคึกหาของกิน จะดึกแค่ไหนก็แวะมาได้

นี่จะเป็นประเทศใหม่สำหรับทุกคนที่จะเติมเต็มประสบการณ์ที่คุณไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน เรียกได้ว่าที่บิ๊กเมาน์เท่นฯ นั้นเปรียบเสมือนสวรรค์ของคนรักการฟังเพลงที่ต้องการมาหาความสุขอย่างแท้จริง ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ยังได้จัดหนักจัดเต็มความสนุกสุดอะเมซิ่ง มากถึง 15 ย่าน ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศอยากเดินทางมาเยือน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศใหม่ที่เล็กที่สุด แต่สนุกและมีความสุขที่สุดในโลกอย่าง ‘เป๊ปซี่ พรีเซนต์ บิ๊กเมาน์เท่นมิวสิค เฟสติวัล ครั้งที่ 13’ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่   9-10 ธันวาคม 2566 ณ ดิ โอเชี่ยน เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา พร้อมเปิดจำหน่ายบัตร Early Cow ในวันที่ 2-4 กันยายน 2566 เพียง 3 วันเดียวเท่านั้น! ราคาเพียง 1,700 บาท (จากราคาปกติ 2,500 บาท) ซื้อบัตรได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ออลล์ ทิคเก็ต ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ www.allticket.com และซื้อได้ที่ www.gmmlive.com โดยสามารถติดตามรายละเอียด และความเคลื่อนไหวต่าง ๆ รวมถึงรายละเอียดการขายบัตรประเภทอื่น ๆเพิ่มเติมได้ที่ FB: bigmountainmusicfestival / IG: @bigmountainmusicfestival / TWITTER: @bigmountainTH และ TIKTOK: @bigmounainmusicfestival