ครบเครื่องทั้งความหล่อ ความเก่ง และความขยัน สาหรับหนุ่ม มิว-ศุภศิษฎ์ จงชีวีวัฒน์ หนุ่มหล่อที่ เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถ ทั้งร้อง เต้น เล่นละคร แต่สิ่งหนึ่งที่ “มิว” ไม่เคยทิ้งเลย คือ การเรียน ที่ปัจจุบันกาลังศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยในกิจกรรมMRT พา น้องพิชิต TCAS ปีที่ 15 by BEM “มิว” เอาเคล็ดลับดีๆ มาบอกน้องๆ ม.ปลายที่เข้าร่วมงานทั้ง On-site และ Online ถึง 7,000 คน ตารางงานแน่นขนาดนี้ แบ่งเวลาไปให้การเรียนอย่างไร
“ก่อนอื่นเราต้องรู้จักการจัดตารางเวลาครับ เรียงลาดับความสาคัญ อย่างตัวผมเอง ถ้าช่วงไหนยังไม่ใกล้สอบ ก็จะรับงานในวงการได้ และโฟกัสให้ความสาคัญในเรื่องของงาน แต่ถ้าใกล้สอบเมื่อไหร่ มิวจะทุ่มเทเวลาอ่านหนังสือล่วงหน้า 1 เดือน ในช่วงนั้นจะไม่ค่อยรับงานเลย เราจะมุ่งมั่นเรื่องเรียนเป็นหลักครับ”
มีเทคนิคในการจดจา และทาสอบยังไง ถึงสามารถคว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาครอบครอง
“การฝึกฝน ทบทวนความรู้อย่างสม่าเสมอครับ เนื่องจากร่างกายของเรามี ระบบในการจดจา ทุกครั้งในการเตรียมตัวสอบ อยากให้น้องๆ จาลองเหตุการณ์ในห้องสอบกับตัวเอง ลองทาข้อสอบ แบบจับเวลา เสมือนจริงเพื่อช่วยลดในการกดดัน และความเครียดเมื่อถึงเวลาจริง และที่สาคัญที่สุด คือ การพักผ่อนในเพียงพอครับ
ร่างกายของเราเป็นอาวุธที่สาคัญที่สุด หากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ อัดข้อมูลแน่นจนเกินไป เมื่ออยู่ในห้องสอบ เราจะเสมือนคนที่อยู่หนังสืออยู่ตรงหน้า แต่หาคาตอบไม่เจอ ไม่มีการจัดระบบ หมวดหมู่ ภายในสมอง แต่ถ้าเราพักผ่อนให้ร่างกายได้รีเฟรชตัวเอง ในการอ่านหนังสือแต่ละครั้ง ร่างกายจะเกิดกระบวนการจดจา และจัดหมวดหมู่ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อถึงเวลาสอบ จะทาให้เรานึกคาตอบที่อยู่ในหมวดหมู่ที่สมองได้จัดระบบไว้”
มีวิธีการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองทั้งเรื่องเรียนและการทางานอย่างไร
“ไม่แปลกที่หลายคนจะเกิดสภาวะหมดไฟ หรือท้อระหว่างการอ่านหนังสือ แต่อยากให้น้องๆ ได้ลองสังเกตอาการของตนเอง เมื่อใดก็ตามที่เริ่มท้อ เราจะหันไปหาสิ่งใด หรือเมื่อใดที่ทาอะไรแล้วมีความสุข ให้นาสิ่งนั้นมาช่วยเสริมสร้างกาลังใจ พักสายตาจากการอ่านหนังสือ บางคนอาจชอบการน่ังมองฟ้า มองน้า บางคนชอบการอ่านหนังสือ ออกไปหากิจกรรมเพื่อปลดปล่อยความรู้สึก หลอกจิตใจที่ตกอยู่ในสภาวะความเครียด ลดความ
กดดันภายในตนเอง หรือแม้กระทั่งเรื่องของแสดงละคร แต่ละบทบาทที่เราได้รับมีความแตกต่างกันออกไป มีทั้งทุกข์ สุข เศร้าทุกครั้งที่ผู้กากับสั่งคัท และอารมณ์ภายในจิตใจเรายังคงอยู่ ก็ต้องออกไปหากิจกรรมที่ชอบทา เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นที่จิตใจกาลังจมปักไว้ครับ”
สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงน้องๆ ที่มีเราเป็นไอดอล และกาลังเข้ามหาวิทยาลัย
“ผมเชื่อว่า ทุกคนมีเป้าหมายในที่ชีวิต ซึ่งแต่ละเป้าหมายก็แตกต่างกันออกไป บางคนมีหนึ่งเป้าหมายใหญ่ และเป้าหมายย่อย ในช่วงเวลา ณ ขณะนั้นอีกมากมาย จึงอยากให้น้องๆ เรียงลาดับความสาคัญ และจัดตารางชีวิตให้เป็น มีสติคิดเสมอว่าเป้าหมายของเราคืออะไร”
ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนมากเลยทีเดียว สาหรับประสบการณ์การเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย ของหนุ่ม “มิว ศภุ ศิษฐ์” รวมไปถึงการเตรียมตัวก่อนสอบ ตลอดจนการนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตในการทางาน