เรียกว่าไม่เสียแรงที่เป็นภาพยนตร์น้ำดี สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมทุกเพศทุกวัย สำหรับ “A Time To Fly…บินล่าฝัน” ของ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ร่วมด้วย อิเมจิแมกซ์ จัดจำหน่ายโดย ยูเจ็ดสอง สตูดิโอ กำกับโดย โส่ย-ศักดิ์ศิริ คชพัชรินทร์ นำแสดงโดย โบกี้-ด.ช.ศุภัช ท้าวสกุล, เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน, แมน-ธฤษณุ สรนันท์ และ ด.ญ.มารินดา แฮปลิน เพราะล่าสุดหลังจากที่ภาพยนตร์เข้าฉายวันแรก โรงเรียนหลายแห่งทั่วประเทศพานักเรียนพาเหรดกันเหมาโรงภาพยนตร์ภายในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อให้เด็กนักเรียนได้มีโอกาสชมภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของอดีตเด็กไร้สัญชาติ หม่อง ทองดี ที่ใช้กระดาษเพียงแผ่นเดียวสร้างฝันของตัวเองจนสำเร็จ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้จัดแคมเปญพิเศษสำหรับโรงเรียน, หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามได้ทางโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
ขณะที่ความฮอตของ “คุณครูวีระ” ที่รับบทโดพระเอกหนุ่ม แมน-ธฤษณุ ทางทวิตเตอร์ก็แรงไม่แพ้กัน สาวแท้สาวเทียมพูดถึงความอบอุ่นของครูวีระและบทบทการแสดงหนังเรื่องแรกของแมนกันอย่างต่อเนื่อง โดยแมนพูดถึงบทบาทที่เขารับในเรื่องนี้ว่า “เรื่องนี้ผมรับบทเป็น “คุณครูวีระ” เป็นตัวละครที่นำเอาคุณครู 2 คนในชีวิตจริงของหม่องมารวมกันได้แก่ ครูฟิสิกซ์และครูพละครับ ผมก็เอาประสบการณ์จากการที่ผมสอนฟุตบอลเด็กมาใช้ในเรื่องนี้ คาแร็คเตอร์ของครูวีระ ผมตีให้เขาเป็นพี่ชาย มีความเฟรนด์ลี่และมุ่งมั่น เป็นอะไรที่ไม่ห่างจากตัวผมเยอะ เราเอามาเชื่อมกับตัวเองได้ สำหรับกระแสทางทวิตเตอร์ที่พูดถึงครูวีระหรือเนื้อหาของหนัง ก็ดีใจนะครับที่หลายคนที่เข้าไปดูแล้วรู้สึกชื่นชอบ หนังเรื่องนี้พูดถึงเรื่องความฝัน ซึ่งสำหรับผมมองว่าความฝันสำคัญมาก ช่วยขับเคลื่อนชีวิตเรา ในมุมความฝันของเด็กมันไร้ขอบเขต เขาก็ควรได้รับโอกาสที่จะได้เติมเต็มให้เขาไปได้ไกลที่สุดครับ ถามว่าคนที่ไปดูหนังเรื่องนี้จะได้อะไรกลับมา มันทำให้เราเห็นถึงชีวิตของเด็กคนหนึ่ง ถึงเขาจะไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น ๆ แต่เขาก็มีความตั้งใจที่จะปกป้องความฝันของเขา และได้เห็นน้ำใจของคุณครูหรือสื่อต่าง ๆ รวมถึงนักกฏหมายด้านสัญชาติ ที่ถึงแม้จะไม่ใช่คนรู้จักกัน แต่ความเห็นอกเห็นใจ การรวมพลังของคนที่ไม่ได้รู้จักกันอย่างสื่อต่าง ๆ ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งให้ฝันของเขาเป็นจริงครับ”
ด้าน เอ๋-มณีรัตน์ คำอ้วน ที่หวนกลับมาเล่นหนังในรอบ 15 ปี โดยรับบทเป็น “ครูน้อย” กล่าวว่า “เรื่องสุดท้ายที่เล่นคือเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้วเรื่อง “4 แพร่ง” ครั้งนี้ได้มีโอกาสกลับมาเล่นหนังอีกครั้งรู้สึกดีใจ เรามาจากหนัง เราชอบหนังมาก อยากกลับมาตลอด แล้วหนัง “A Time To Fly” น่าสนใจตรงที่เป็นหนังที่ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตของน้องหม่อง ทองดี เราชอบดูหนังแนวนี้อยู่แล้วค่ะ สำหรับ “ครูน้อย” เป็นครูประจำดอยที่ใจดี เสียสละและเข้าใจเด็ก ความที่เป็นครูใจดีทำให้เด็กกล้าที่จะแสดงความเห็น กล้าคุยกับครู และครูน้อยจะเป็นครูที่ปรึกษาดูแลเรื่องต่าง ๆ ของหม่องด้วย เรื่องนี้เอ๋ก็พยายามนึกถึงครูในความทรงจำของเรา เพราะเอ๋รู้สึกว่าครูน้อยมีคาแร็คเตอร์ที่ไม่ได้ไกลจากเอ๋มาก แต่สิ่งที่เพิ่มเติมคือความเป็นครู การสอน ทัศนคติ ความเสียสละและการปกป้องเด็ก เราก็มีคำถามว่าการเป็นครูต้องเสียสละ แต่ต้องเสียสละอย่างไรล่ะ การเสียสละของครูไม่ใช่แค่ให้ความรู้ แต่ต้องปกป้องอนาคตของเด็กคนหนึ่งในการต่อสู้เพื่อเด็กรวมถึงการให้แนวทางที่ถูกต้องในการใช้ชีวิตของเด็กค่ะ ผู้ชมที่ไปชมหนังเรื่องนี้ เอ๋ว่าเขาน่าจะได้เห็นชีวิตของน้องหม่อง ทองดี ในมุมที่เขาไม่เคยได้อะไรมาง่าย ๆ นะ ฉะนั้นอยากจะฝากให้ทุกคนมาลองดูว่าการที่เรามีความฝัน มีเป้าหมายชัดเจน เราต้องสู้และอดทนรอ สุดท้ายแล้วเราจะได้เห็นว่าช่วงเวลาที่ความฝันสำเร็จมันยิ่งใหญ่แค่ไหนค่ะ”
เพราะทุกความฝันยิ่งใหญ่เสมอ ติดตามชมภาพยนตร์ “A Time To Fly…บินล่าฝัน” ได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์