- 14อีกครั้ง ถ่ายทำหลักที่อำเภอขลุงจังหวัดจันทบุรี สถานที่โดดเด่นในวิถีชีวิต บ้านเรือนที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาหลายสิบปี และเป็นบ้านเกิดของผู้กำกับ นฤบดี เวชกรรม ที่สัมผัสวิถีแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เป็นความทรงจำที่ยังไม่หายไปไหน และผู้กำกับเปิดบ้านสุดน่ารักให้เป็นจุดพักกับนักแสดงอีกด้วย
- จุดเชื่อมโยงของจันทบุรี นอกจากผู้กำกับจะเป็นคนจันโดยแท้ ก็มีทีมงานเขียนบทเป็นคนที่นี่ด้วย เซอร์ไพร์สกว่านั้นคือ ครอบครัวของนัทพระเอกของเรื่องก็เป็นคนจันทบุรีเช่นกัน แต่นัทถูกเรียกว่า จันกบฏ เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องจันท นอกจากเซนทรัลจันทบุรี
- เลือกจุดถ่ายทำที่พิเศษกว่าจุดเช็คอินยอดนิยม แต่เป็นที่ลับที่คุ้นเคยของคนจันทบุรี เช่นน้ำตกตรองนอง น้ำตกที่เงียบสงบ วัยรุ่นที่ขลุงมักขี่มอเตอร์ไซด์มาเที่ยวเล่นที่นี่มากกว่าน้ำตกยอดนิยมอย่างพลิ้ว
- ระหว่างเซอร์เวย์หาโลเคชั่นสวยๆ สักที่ ผู้กำกับบังเอิญเข้าไปเจอเรือชาวประมงใหญ่ที่ปลดระวางแล้ว กำลังปรับปรุงสถานที่ทำเรือให้กลายเป็นที่พัก ตกแต่งสวยงาม เป็นที่ประทับใจสุดของนักแสดงทุกคนที่ไป เหมือนได้หลุดไปเป็นหมู่โจรสลัด
- ถนนยางนาอันซีนอีกที่ของจันทบุรี เป็นถนนที่เขียวชอุ่มปกคลุมไปด้วยต้นยางสูงใหญ่ตลอดสองข้างทาง เงียบสงบและไม่พลุกพล่าน ทีมงานใช้ตรงนี้เป็นจุดริกรถและถ่ายทำ จะได้เห็นซีนยาวๆ ของถนนที่เหมือนอุโมงค์ต้นไม้ ครึ้มๆ และร่มเย็นตลอดทาง
- เกาะเปริด อีกหนึ่งไฮไลท์ของภาพยนตร์ เกาะที่มีทางเชื่อมถนนเข้าสู่เกาะโดยไม่ต้องต่อเรือ มีชาวเรือชาวประมงอาศัยอยู่ เรียกว่าเป็นเกาะลับอันซีน และถ้าให้ฟินสุดๆ ต้องไปตรงจุดชมวิวซันชาย และผาสุกนิรันดร์ มุมถ่ายรูปสุดปัง มีคลื่นซัดเข้าหาหน้าผา และบันได้ทางเดินยาวลงไปในทะเล ชวนให้นึกถึงบาหลีเลยนะ
- นักแสดงขึ้นแท็กซี่ที่นี่ ถ้าไม่รู้ว่ามาแล้วจะเริ่มซื้ออะไร ให้ไปตั้งหลัก ตลาดน้ำพุ ตลาดขนาดใหญ่ของเมืองจันทบุรี มีน้ำพุ สามชั้นกลางวงเวียน เป็นจุดศูนย์รวมของสินค้ามากมาย เช้าๆ เป็นตลาดเช้าเรียบง่าย ตกบ่ายเย็นค่ำ เป็นสตรีทฟู้ดที่ต้องลอง อิ่มพุงกางแน่นอน
- แก๊งหัวหมาขึ้นแท็กซี่ไปไหน รถที่เห็นในเรื่อง เรียกรถแท็กซี่แต่ทำไมไม่เหมือนแท็กซี่ อีกหนึ่งตำนานของคนขลุง จากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน รถรับจ้างที่ถูกว่าเรียกว่าแท็กซี่ ขลุง-จันท์ ต้องนั่งเบียดกันเป็นปลากระป๋อง แต่นักเรียนได้ลดครึ่งราคา แต่อาจจะต้องใช้มือช่วยจับประตูในบางคัน ความมันส์ของวัยรุ่นจันท์ ประสบการณ์ค่อมเกียร์ไม่เคยลืมเลือน
- พาหนะเอกลักษณ์ของจันท์ คนจันท์เรียกสามล้อ คนอีสานเรียกสกายแลป รถที่ทีมงานหามาเพื่อให้ความทรงจำในยุคก่อนของจันท์แนบเนียน ความน่ารักตะมุตะมิของรถ ที่ใครเห็นก็ต้องอยากนั่งและแชะภาพน่ารักๆ เอาไว้แน่นอน เป็นรถคันที่นำมาเข้าฉาก ตีโค้งคู่กับรถมอเตอร์ไซด์ ฉากที่พระเอกนางเอกถีบรถกันกลางเมืองขลุง แล้วเฉียดอุบัติเหตุไปนิดเดียว
- ฉากที่ง่ายที่สุด คือฉากที่ยาวนานที่สุด ตั้งแต่สายๆ ยันเกือบเที่ยง คือฉากที่นางเอกยางแตกแล้วพระเอกต้องเข้ามาถีบรถพาไปซ่อม นัทขี่มอเตอร์ไซด์ได้แต่ไม่กล้าถีบน้องณิชา กลัวทรงตัวไม่อยู่ทำน้องเจ็บ ส่วนน้องก็สู้แม้ทรงตัวยังไม่ได้ จนแล้วจนรอดได้ภาพฮามาโดยบังเอิญ ขณะตีโค้งรถสามล้อของทีมงานโดนนัทกับณิชาเบียดจนขึ้นฟุตบาท
- ทั้งเรื่อง เด็กๆ รวมถึงพระเอกนางเอกต้องขี่มอเตอร์ไซด์กันเป็นทุกคน ตามแบบฉบับเด็กต่างจังหวัด แต่คนที่ขี่เป็นจริงมีแค่นัท กับ แฟร์รี่ ซึ่งในเรื่อง 2 คนนี้แทบไม่ต้องขับ น้องๆ ส่วนใหญ่รวมถึงณิชาต้องไปฝึกขับมอเตอร์ไซด์ในยุค 2000
- ฉากที่ทีมงานและนักแสดงหน้าซีดเผือกทีสุด คือซีนทีแก๊งหัวหมามาทวงหนังสือการ์ตูนจากผิงที่บ้าน แล้วน้องๆ ผู้ชายต้องขี่มอเตอร์ไซด์เข้ามาจอดหน้ากล้อง แต่ด้วยความที่เพิ่งฝึกกันได้ไม่นาน รถเลยจุดมาร์คพุ่งเข้าหากล้อง เสียวทั้งคนขี่ และตากล้อง
- หนังรักริกรถ กว่า 30% ของภาพยนตร์เกิดเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับรถตลอดเวลา ทีมงานริกรถกันบ่อยทั้งกรุงเทพและจันทบุรี ทุกตัวละครมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับรถตลอดเวลา มอเตอร์ไซด์ แท็กซี่จันท์ สองแถว รถตำรวจ รถตู้ รถกระบะ สกู๊ตเตอร์สามล้อ
- ต้อ มีตัวจริงนะเออ คาแรกเตอร์ของต้อ มาจากบุคลิกของต้อที่เป็นหลานชายจริงๆ ของผู้กำกับ คาแรกเตอร์ที่น่าสนใจ มีความเก่งจิปาถะไปหมด จนต้องนำมาเป็นคาแรกเตอร์หลัก ซึ่งให้ชื่อว่าต้อเหมือนกับตัวจริงเลย
- มี 3 คนที่ต้องใส่วิก นั่นก็คือน้องโมเน่ต์ ภาริตา ริเริ่มกุล จากผมยาว แปลงโฉมติดกิ๊บให้เหมือนแฟชั่นยุค 2000 ณิชา ในฉากอดีตนักเรียนมัธยม และอีกคนเป็นความลับ ไปมองหาได้ในหนัง (พี่รงค์)
- ฉากที่เล่นผีถ้วยแก้วของเรื่อง ถ่ายทำกันที่วัดแห่งนึงในกรุงเทพอายุกว่า 400 ปี สถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนปลาย มีต้นตะเคียนใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอายุกว่า 1000 ปี ถ่ายทำกันในโรงทาน ที่มีรถเข็นศพของจริงอยู่ข้างๆ และศาลาที่พักทีมงานมีศพอยู่จริง และวัดมีประวัติขนลุกติด 1 ใน 10 วัดที่มีเรื่องตำนานความหลอนที่สุดในประเทศ
- และรู้หรือไม่ ในความเป็นจริง น้องๆ แก๊งหัวหมาไม่เคยมีใครมีประสบการณ์การเล่นผีถ้วยแก้วมาก่อนเลย เพราะกลัวผีทุกคน
- ฉากในสวนทุเรียน แต่ไม่ได้กินทุเรียน มีฉากหนึ่งทุกคนต้องไปตั้งหลักถ่ายทำกันในสวนทุรียนของจริงที่จันทบุรี แต่ไม่มีใครได้กินได้กลิ่นทุเรียนแม้แต่นิดเดียว เพราะฤดูถ่ายทำดันไม่ตรงกับผลทุเรียนที่โตพร้อมทานเต็มที่ ผิดหวังกันทั้งทีมงานและนักแสดง
- ฉากในห้องซ้อมดนตรีตอนสมัย 14 ของพระเอกนางเอก เป็นการคิดสด ร้องสด ความสามารถของนักแสดงจากอินเนอร์ล้วนๆ จะได้เห็นณิชาในลุคชาวร็อค หูดับของจริง
- นัทยอมตัดผม เพื่อความสมจริงเหมือนวัยนักเรียน สาวกรี๊ดหนักเข้าไปอีก เพราะมันเท่ห์ ว้าวุ่นเลยทีนี้
- แก๊งหัวหมาเป็นน้องๆ ที่มาถ่ายทำในช่วงอายุ 13-15 จริง มีน้องแฟร์รี่คนเดียวที่ 18 เป็นสาวมหาวิทยาลัย และ 14 ของน้องไม่สนุกเหมือนในเรื่อง เพราะติดว่าต้องเรียนออนไลน์ กำลังอยู่ในช่วงโควิด
- ฉากชวนเหวอสุดของพระนาง คือความบังเอิญในการขี่มอเตอร์ไซด์ซ้อนกันมา แล้วจังหวะขึ้นเนิน เหินกันจนตัวลอย เหวอนอกบทกันสุดๆ ที่สะพานปลาด่านขลุง อีก 1 ฉากวิวสวยของเรื่อง
- เมื่อถามนักแสดงทุกคนที่ร่วมแสดง ว่าตอน 14 เคยมีวีรกรรมอะไรบ้าง จุดศูนย์รวมอันเป็นหนึ่งเดียวที่เชื่อมโยงคำตอบทุกคนคือ “โดดเรียน” โอเค ซึ้ง
- ไส้กรอกแดง ซอฟพาวเวอร์ของโรงเรียน มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปกว่า 10 ชื่อ ก็เพราะว่า เด็กๆ มีความขยันตั้งชื่อสิ่งเหล่านี้กันมากกว่าการเรียนวิชาหลัก หรือจะเถียง
- ในสถานที่ถ่ายทำหลักอย่างเช่นโรงเรียน เป็นโรงเรียนที่อยู่ตรงข้ามกันจริง ห่างกันแค่เพียง 1 ทางม้าลาย และในเรื่อง กิ๊บกับต้ออยู่คนละโรงเรียน หลังเลิกเรียนข้ามถนนมาเจอกัน
- หนังเรื่องนี้ ถูกจุดประกายจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงหน้าโรงเรียนมัธยม เสกโลโซ โผล่มาแปะมือข้างกระจกรถผู้กำกับ บทเพลง 14อีกครั้งก็ดังในหัวทันที + กับไปรับลูกชายอายุ 14 ความบังเอิญกลายเป็นแรงบันดาลใจจนออกมาเป็นบทภาพยนตร์
- ถ้าสังเกตให้ดี จะมี ต้อ เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ใส่รองเท้าคู่เดียวทั้งเรื่อง เป็นรองเท้านักเรียน สีน้ำตาล เพราะคาแรกเตอร์ต้อ เป็นคนที่ยืดติดกับสิ่งเดิมๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
- โยชิ ที่รับบทเป็นม่อน ตัวจริงไม่ได้ใส่แว่น แต่ใส่ถ่ายหนังจนชิน กลับไปบ้านแล้วยังคิดว่าตัวเองใส่แว่นตลอดเวลา และมีตามหาแว่นที่หายไป บ้าบอ
- ฉากที่สะใจที่สุดของ ณิชา คือฉากที่อันตราย น่ากลัวที่สุดของเรื่อง แต่เชื่อไหมว่า ณิชาพร้อมมาก ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ใจจดจ่อรอคอยฉากนี้เป็นพิเศษ สีหน้าเต็มไปด้วยความสะใจ เหี้ยมโหด พอถ่ายจริงเสร็จ นัทถึงกับพูดว่า ถ้าในโลกความจริง เจอผู้หญิงแบบนี้ ขอเพ่นก่อนคนแรกเลย บอกไม่ได้จริงๆ ว่าฉากไหน ต้องไปเดากัน
- เมนูบนโต๊ะอาหารในเรื่องที่พูดถึง บ่งบอกความอุดมสมบูรณ์ของจันทบุรี ผลไม้ หมูชะมวง ทุเรียน ปาท่องโก๋จิ้มซอสหวานเผ็ด ซอฟพาวเวอร์อีกอย่างที่ซ่อนอยู่ในเรื่อง
- ฉากหวาดเสียวของหนังรักแบบนี้ก็มีนะ เป็นฉากที่กันต้องปีนบ้านออกมาจากชั้น 2 เพื่อออกไปทำภารกิจ เบื้องหลังคือการปีนลงมาจากชั้น 2 จริง โดยเทคแรกปีนมามีบันไดช่วย แต่เทค 2 พี่เป้ต้องการภาพกว้างๆ เห็นว่ากันปีนจริง ลิงจริง เลยเอาบันไดออก ภูผาหน้าซีดเผือก (แต่เห็นภาพกว้างๆ ไกลๆ นะ)
- ณิชาเป็นนักแสดงที่พูดน้อย แต่ท่าเยอะ ไม่ใช่แค่ในเรื่องที่น้องพูดน้อย แต่น้องเป็นเด็กเงียบๆ ด้วยในชีวิตจริง แต่เมื่อว่าง แล้วอยากทำให้ทุกคนรู้ว่าณิชาโอเค ณิชาจะทำท่าทางประหลาดๆ แบบคาดไม่ถึง ดูซนมาก
- ฉากรีสอร์ทเรือ ได้รับเกียรติจาก ผอ. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง คุณ อัครวิชย์ เทพาสิต มารับบทเป็นลุงของเด็กๆ แก๊งหัวหมาในเรื่อง ซึ่งเป็นเจ้าของรีสอร์ทที่เด็กๆ ไปทำภารกิจกันจีบผิง
- พี่เป้ พี่แอน ผู้กำกับและโปรดิวซ์ เข้าไปพบกับคุณพ่อของ บิ๊ก D2B เพื่อขออนุญาตนำเรื่องราวในช่วงนั้น มาเล่าเป็นเหตุการณ์นึงของภาพยนตร์ ซึ่งเต็มไปด้วยความอบอุ่น
- คาแรกเตอร์ของต้อ จะเป็นความสามารถแบบจิปาถะ ซ่อมได้ทุกอย่าง สังเกตจากในเรื่อง ซ่อมรถ ซ่อมแอร์ ซ่อมชักโครกท่อตัน และก็พยายามจะซ่อมใจเพื่อนรักอยู่
- ไอเทมที่เห็นในเรื่อง แต่เด็กยุคใหม่อาจไม่รู้จัก ทั้ง เทปคาสเซ็ท ซาวด์อะเบาท์ คอมพิเตอร์เครื่องขาว โปรแกรมวินแอม เครื่องเล่นซีดี กล้องถ่ายวิดีโอ เกมส์บอย ผีถ้วยแก้ว หนังสือพิมพ์ และแน่นอนน้องแก๊งหัวหมาตัวจริงเกิดไม่ทัน และไม่เข้าใจว่าแต่ละอย่างเล่นยังไง เอาไว้ใช้ทำอะไร
- ทีมนักแสดงรุ่นเล็ก แก๊งหัวหมา ในเรื่องเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ความจริงมาจากคนละทิศละทาง แต่ในความสัมพันธ์ปัจจุบันสนิทกันมาก ยังมีนัดไปเที่ยวด้วยกัน และวันปิดกล้องกอดคอกันร้องไห้ ต่างพูดตรงกันว่าสนิทเหมือนเราเป็นแก๊งเดียวกันจริงๆ
- ภูผา เป็นคนเดียวในนักแสดงที่ต้องบินมาจากอุดรธานี ทุกรอบที่มีการถ่ายทำ
- เพลงประกอบภาพยนตร์คือเพลง แค่บอกว่ารักเธอ ของวงหมีพูห์ เป็นเพลงที่เคยเข้าประกวดในอดีต โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นเพลงแต่งใหม่ และตั้งแต่นั้นมาก็ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุนยุค 2000