วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 15.30 น. ที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกแสดงเจตจำนงความร่วมมือ Memorandum of Intent (MOI) “การผลักดันสินค้าและบริการไทยสู่สากลผ่านซีรีส์ยูริ (Girls’ Love) ระหว่าง กระทรวงพาณิชย์ กับบริษัทไอดอลแฟคทอรี่ จำกัด(Idol Factory) #MOCxIDF สร้างการรับรู้และเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าชุมชนของไทยเข้าไปอยู่ในซีรีส์ระดับโลก โดยมีนักแสดงนำ รีเบคก้า แพทรีเซีย อาร์มสตรอง ชื่อเล่น เบคกี้ หรือ เบ็คกี้ และ สโรชา จันทร์กิมฮะ ชื่อเล่น ฟรีน สองนักแสดงซีรีส์แนว Girls’s Love จากค่าย Idol Factory ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และกำลังจะมีซีรีส์ใหม่ “ปิ่นภักดิ์” และนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และนายคเชนทร์ สดโพธิ์ ผู้บริหาร Idol Factory ร่วมด้วย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า โครงการนี้เริ่มต้นจากที่กระทรวงพาณิชย์รู้สึกว่าการค้าขายในปัจจุบัน โลกสมัยใหม่เปลี่ยนแปลงต้องใช้เทคโนโลยีและผู้มีชื่อเสียงมาช่วยขายสินค้า เราต้องการผู้ที่เป็นขวัญใจประชาชนช่วยขยายสินค้า ซึ่งกระทรวงพาณิชย์อยากช่วยสินค้าให้ชุมชน ชาวบ้านและคนตัวเล็กมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ครั้งที่แล้วได้เชิญนักแสดงซีรีส์วาย มาย-อาโป จากบริษัท บี ออน คลาวด์ จำกัด (Be On Cloud) ผู้ผลิตภาพยนตร์และซีรีส์วายระดับโลก ได้รับเสียงตอบรับดีมาก และวันนี้เราได้เชิญคู่ฟรีน-เบ็คกี้ จากบริษัท ไอดอลแฟคทอรี่ จำกัด ซึ่งมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ มาร่วมมือกันผลักดันสินค้าไทย เราเชื่อว่ามนุษย์มีความสามารถในการตัดสินใจเลือกชีวิตและวิถีชีวิตของตนเองได้ และความรักที่มีต่อกันสามารถสร้างสิ่งต่างๆขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นชาย-ชาย หรือ หญิง-หญิง เขาต่างต้องการช่วยเหลือให้ประเทศได้ประโยชน์ กระทรวงพาณิชย์เป็นองค์กรที่มีความพร้อม ทั้งด้านอาหารและภูมิปัญญาของชุมชนจะถูกใส่ในฉากของหนังทั้งสองเรื่อง เปิดประตูให้สินค้าชุมชนไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับโลกได้ เป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ สร้างรายได้สร้างการรับรู้กับสินค้าของไทย
“ขอขอบคุณที่ทั้ง 2 ฝ่าย ที่ตัดสินใจร่วมงานกับเรา ถือเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน จะช่วยกันผลักดันสินค้าชุมชนของประเทศไปสู่นานาชาติได้ ช่วยคนตัวเล็ก ให้ประชาชนและประเทศชาติได้รับประโยชน์
ให้เขาเป็นกองหน้าของประเทศบุกเบิกตลาดให้ประชาชนไทยมีช่องทางทำมาหากินเพิ่มขึ้น ทั้งสองคู่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังแห่งความรักที่มีอย่างล้นหลามทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ โดยกระทรวงจะช่วยคัดสินค้ามาให้เลือก ผู้สร้างก็จะมาเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับบท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าจะสร้างมูลค่าได้ถึง 2,000 ล้านบาท แต่ตนไม่อยากให้ตั้งมูลค่าเพราะเชื่อว่าพลังแห่งความรัก ความสามารถและศักยภาพของพวกเขาสามารถทำได้มากกว่านั้น ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีคนต้องการที่จะร่วมงานกับกระทรวงพาณิชย์เยอะ กระทรวงพาณิชย์เปิดกว้างในความร่วมมือใครที่คิดว่าจะช่วยคนตัวเล็กให้ขายสินค้าออกสู่ต่างประเทศได้มากเรายินดีต้อนรับ” นายภูมิธรรมกล่าว
ด้านนายศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา ผู้บริหาร Idol Factory กล่าวว่า ขอขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ที่ให้โอกาส Idol Factory จะเป็นอีกแรงช่วยสนับสนุนให้ซีรีส์ไทยไปต่อสู้ตลาดโลก นำสินค้าของไทยออกไป ถ้าเราจับมือกันจะสามารถพาสินค้าไทยหลายชิ้นไปสู่ระดับโลกได้ ช่วยพัฒนาและกระตุ้นเศรษฐกิจ โปรโมทสินค้าให้ชาวโลกได้เห็น จะช่วยชุมชน ช่วยชาวบ้านได้มากขึ้น ทำให้การทำงานเอกชนง่ายขึ้น
โดยนายภูมิธรรมได้นำนักแสดงซีรีส์วายและผู้บริหาร Idol Factory ชมสินค้าที่กระทรวงพาณิชย์ได้คัดเลือกมาแล้วจากทุกภาคของไทย ซึ่งเป็นสินค้าแสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้สามารถเลือกนำไปใช้ในการถ่ายทำซีรีส์ “ปิ่นภักดิ์” และหลังจากนี้กระทรวงพาณิชย์ จะนำซีรีส์วายไปร่วมกิจกรรมส่งเสริมการตลาดขายลิขสิทธิ์ในตลาดต่างประเทศ เข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่มีศักยภาพทั่วโลกด้วย