สิ้นสุดการค้นหานักร้องเพลงอมตะสุดคลาสสิกเป็นที่เรียบร้อยสำหรับรายการ “เพลงเอก ซีซั่น 3” ทางช่องเวิร์คพอยท์ 23 โดยผลคะแนนจากคณะกรรมการให้ “เซม ภานุรุจ พงษ์พิทักษ์กุล” คว้าแชมป์เพลงเอก ในซีซั่นที่ 3 นี้ไปครองได้อย่างสมศักดิ์ศรี
สำหรับการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันพุธที่ 27 มีนาคม 2567 ณ สตูดิโอเวิร์คพอยท์ ผู้เข้าแข่งขัน 5 คนสุดท้าย ได้แก่ วิรัช ศรีพงษ์ , เอิร์ด ณัฐกรณ์ , บอม อดิเทพ , เซม ภานุรุจ และ บาร็อก ชลธาร ทำการแข่งขันรอบสุดท้ายบนเวทีเพลงเอกในโจทย์เพลงเร็ว และนับเป็นโชว์ปิดการแข่งขันที่งดงามในซีซั่นนี้ด้วย
เริ่มเปิดเวทีการแข่งขันรอบสุดท้ายด้วย “บอม อดิเทพ” มาในบทเพลง “ข้างขึ้นเดือนหงาย” มีกลิ่นอายความบ้านทุ่งที่ “บอม” สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ารักและชวนมองตลอดทั้งโชว์ ต่อด้วย “เซม ภานุรุจ” มาในบทเพลง “เนื้อทองของพี่” มาพร้อมกับสไตล์บรอดเวย์รวมทั้งน้ำเสียงและลีลาการเต้นเข้าจังหวะของ “เซม” ถือได้ว่าเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว ตามด้วย “บาร็อก ชลธาร” ผู้เข้าแข่งขันที่มีอายุน้อยที่สุดในซีซั่นนี้ มาในบทเพลง “ใครจะเมตตา” ที่เจ้าตัวเนรมิตโชว์ออกมาให้เป็นเมืองคาวบอย พร้อมลีลาความสนุกสนานผ่านเสียงในแบบ”บาร็อกสไตล์” ในส่วนของ “วิรัช ศรีพงษ์” มาในบทเพลง “ดาวล้อมเดือน” ที่ทำเอาคนดูและเหล่ากรรมการต้องอึ้งที่ได้เห็นลีลาการเต้นที่เป็นอีกมุมจากผู้ชายคนนี้ และปิดท้ายการแข่งขันด้วย “เอิร์ด ณัฐกรณ์” มาในบทเพลง “อำนาจเงิน” ที่ถ่ายทอดออกมาได้ไพเราะและน่าประทับใจด้วยโชว์สุดอลังการ ซึ่งทั้ง 5 โชว์สร้างความประทับใจและตื่นตาตื่นใจให้ทั้งสติดูโอ ถือว่าปิดฉากการแข่งขันเพลงเอก ซีซั่น 3 นี้ได้อย่างสวยงามและสมศักดิ์ศรี
และเมื่อถึงวินาทีที่ทุกคนรอคอยกับการประกาศผล ผู้ที่เป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์ในครั้งนี้ ได้แก่ “เซม ภานุรุจ” โดยได้รับถ้วยรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศอันทรงเกียรติพร้อมรับเงินรางวัล และได้เป็นศิลปินในสังกัดค่ายเพลงเอกต่อไป ในส่วนของรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ “บาร็อก ชลธาร” รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ “เอิร์ด ณัฐกรณ์” รองชนะเลิศอันดับ 3 ได้แก่ “วิรัช ศรีพงษ์” รองชนะเลิศอันดับ 4 ได้แก่ “บอม อดิเทพ”
ทั้งนี้ “เซม ภานุรุจ” เจ้าของตำแหน่งแชมป์เพลงเอก ซีซั่น 3 เปิดเผยความรู้สึกหลังคว้าแชมป์ในครั้งนี้ว่า “อยากขอบคุณทางเวิร์คพอยท์และรายการ เพลงเอก ที่ให้โอกาสพวกเราทุกคนได้มาตามฝันในเวทีอันทรงเกียรตินี้ อยากขอบคุณคณะกรรมการ สำหรับคำแนะนำทุกอย่างที่ทำให้ผมได้พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ขอขอบคุณโค้ชทั้ง 4 ท่าน ที่เป็นทั้งครูและเพื่อน คอยให้คำแนะนำและให้กำลังใจพวกเรามาโดยตลอด ขอขอบคุณพี่โช้ย, ครูขนุน, ครูตู่และวงคุณพระช่วยออเคสตร้า สำหรับคำแนะนำและดนตรีที่สุดแสนไพเราะครับ ขอบคุณผู้เข้าประกวดทุกท่านตั้งแต่รอบออดิชั่นจนถึงรอบสุดท้าย ที่ทำให้การประกวดครั้งนี้เต็มไปด้วยความรัก ความสุขและรอยยิ้ม ขอบคุณทีมงานทุก ๆ ฝ่าย ขอบคุณครอบครัว และแฟนคลับทุกๆท่านที่คอยซัพพอร์ตส่งกำลังใจและอยู่เคียงข้างกันมาโดยตลอด” โดย “เซม ภานุรุจ” อายุ 31 ปี เป็นคนจังหวัดกรุงเทพมหานคร เปิดโรงเรียนสอนดนตรีและเป็นครูสอนร้องเพลง มีความสามารถในด้านการร้องเพลงลูกกรุงและแสดงละครเวที ความใฝ่ฝันคือ การได้เป็นศิลปินมืออาชีพ ทำในสิ่งที่ตนเองรักและถ้ามีโอกาสก็ยินดีจะเปิดรับสิ่งใหม่ทุกด้านในวงการบันเทิงต่อไป