กรุงเทพฯ 31 มีนาคม 2567: นิสิต นักศึกษา จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ โชว์ศักยภาพแสดงพลังความร่วมมือพร้อมสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กับงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ CU – TU Unity Football Match 2024 ณ สนามศุภชลาศัย ภายใต้แนวคิด “Unity to Sustainability” ที่แสดงถึงความเป็นเอกภาพ และความเป็นหนึ่งเดียวกันของทั้งสองสถาบัน ย้ำพร้อมส่งต่อแนวคิดแห่งความยั่งยืนจากการจัดงานสู่การสร้างแรงขับเคลื่อนให้กับสังคมและประเทศชาติ
โดยภายในงานยังคงจัดเต็มอัดแน่นในทุกกิจกรรมทั้งการแข่งขันฟุตบอลที่ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่นักกีฬาเป็นนิสิตนักศึกษาปัจจุบันมาร่วมประชันการแข่งขัน โดยจบการแข่งขันไปด้วยจุฬาฯ เสมอธรรมศาสตร์ 0 ประตู ต่อ 0 (0-0) ถือว่าเป็น match การสานสัมพันธ์อย่างดุเดือด ขบวนพาเหรด ที่เป็นอีกหนึ่งสีสันที่ทุกคนติดตามและเฝ้าคอย ก็ไม่ทำให้ผิดหวังโดยยังคงเสน่ห์ของงานบอล ทั้งขบวนธีมแนวคิดหลักที่สะท้อนถึงสถานการณ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ทุกภาคส่วนต้องเข้ามามีส่วนร่วม หรือแม้แต่ขบวนสะท้อนสังคมที่หยิบเอาประเด็นปัญหาทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ มาบอกเล่า และย้ำเตือนถึงการแก้ปัญหาโดยมีเป้าหมายสำคัญในการเป็นกระบอกเสียงเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคม และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญกับการแปรอักษร ที่แม้ในปีนี้ได้นำเทคโนโลยีจอ LED มาทดแทน แต่ก็ยังคงความเข้มข้นของเนื้อหาฟาดฟันกันด้วยไอเดียและความคิดสร้างสรรค์แบบช็อตต่อช็อตนาทีต่อนาทีกันเลยทีเดียว
ยังไม่หมดเพียงเท่านั้นภายในงานปีนี้ทั้งสองสถาบันยังขนทัพความอลังการจากหน่วยงานทั้งองค์กร ชมรม ชุมนุมต่างๆ มาร่วมโชว์แสนยานุภาพแบบจัดเต็มตลอดทั้งงาน รวมถึงยังมีคอนเสิร์ตและทัพศิลปินดาราคนรุ่นใหม่มาร่วมกิจกรรมในการเดินขบวนพาเหรดและสร้างสีสันมากมาย
นางสาวปุณยภา คุณาวิชชา นิสิตคณะนิติศาสตร์ชั้นปีที่ 3 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประธานคณะกรรมการจัดงานของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต่างเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความสัมพันธ์อันดีมาช้านาน นิสิตและนักศึกษาจากทั้งสองมหาวิทยาลัยได้มีโอกาสทํางานร่วมกันในหลาย ๆ ด้าน อาทิ ด้านวิชาการ งานด้านศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึง การจัดงานกีฬาระหว่างมหาวิทยาลัย คณะผู้จัดงานเห็นว่าการจัดงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬา-ธรรมศาสตร์ 2024 นี้ เป็นอีกงานที่เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา บุคลากร และอาจารย์ของทั้งสองมหาวิทยาลัย ได้คงไว้ซึ่งความสัมพันธ์และรักษามิตรภาพอันดีต่อกันผ่านการดําเนินการจัดงาน และการแข่งขันกีฬาฟุตบอล โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของทั้งสองมหาวิทยาลัยเป็นอย่างดี การจัดงานในครั้งนี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด Unity to Sustainability ซึ่งจะทําให้ นิสิตนักศึกษา และผู้เข้าร่วมงานได้ตระหนักถึงสภาพเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้สัมพันธ์กันอย่างมีคุณค่าและก่อให้เกิดความยั่งยืนมากที่สุด”
นายปิยวิทย์ หวังชูธรรม นิสิตคณะนิติศาสตร์ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประธานคณะกรรมการจัดงานของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “ความตั้งใจของพวกเราทั้งองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและองค์การบริหารนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อการจัดงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ 2024 คือการเปิดพื้นที่ให้นิสิต นักศึกษา จากทั้งสองสถาบันได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ โดยการจัดงานในครั้งนี้ยังคงเสน่ห์ของงานบอลที่ทุกคนคิดถึงและอยากให้เกิดขึ้นอีกครั้ง และผมเชื่อว่าองค์ประกอบของกิจกรรมสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับช่วงเวลาและยุคสมัยที่เปลี่ยนไปโดยมีจุดกึ่งกลางที่ทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น แม้ว่าในปีนี้ผู้จัดงานหลักจะเป็นนิสิตนักศึกษาปัจจุบัน แต่พวกเราก็ยังได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆ ศิษย์เก่า นิสิตเก่า รวมถึงผู้สนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีมากมากมาย ต้องขอบคุณทุกคนที่มีส่วนในการทำให้งานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ในปีนี้เกิดขึ้นเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำของพวกเราทั้งสองสถาบัน”
Highlight ที่ขาดไม่ได้เลยภายในงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ 2024 ก็คือการแข่งขันฟุตบอล ทั้งสองสถาบันทุ่มสุดกำลังจัดเต็มกันแบบไม่มีใครยอมใคร ขนทัพศิษย์ปัจจุบันนักกีฬาตัวตึงดีกรีทีมชาติและสโมสรชั้นนำมาร่วมประชันแข้งกันมากมาย ลูกพระเกี้ยวนำโดย ฟร้อง-กษิตินาถ ศรีภิรมย์ แชมป์ฟุตบอลรายการ Chang U champion cup ทางลูกแม่โดมก็ไม่น้อยหน้า คว้าธีร์กวิน จันทร์ศรี ทีมชาติเยาวชน U19 แชมป์ Aspire Tri-Series, ภัคพล ไหมหมาด แชมป์ฟุตบอลกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน และกฤตพจน์ คนกล้า แชมป์กีฬามหาวิทยาลัย มาสู้ศึกในครั้งนี้
ต่อกันที่ขบวนพาเหรดนำทัพด้วยดาราศิลปินจากทีมธรรมศาสตร์ เซียงเซียง-พรสรวง, เบลเล่-จิรัชญา, พริกขิง-สุรีย์ญะเรศ, สตางค์-ตริษา, ณฐ-ณฐสิชณ์ และคอปเปอร์-ภูริวัจน์ และทีมจุฬาฯ มิค-เสฏฐนันท์, แมค-สุภณัฐ, เฟรนด์-พีระกฤตย์, ท้องฟ้า-อลิชา, แทนคุณ-ดาราศรีศักดิ์, ฮ๋วง-ณัฐวดี, ริว-อิงครัต, บาร์โค้ด-ตฤณสิษฐ์, ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน, ตู-ต้นตะวัน, เจมีไนน์-นรวิชญ์, โฟร์ท-ณัฐวรรธน์ และพรีม-ชนิกานต์
ขบวนฝั่งจุฬาฯ เล่นใหญ่กับพาเหรดในธีม ‘Limitless Possibilities’ ที่พร้อมจะทลายกำแพงที่ตีกรอบศักยภาพของมนุษย์ทุกคนที่ล้วนมีความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในการสร้างสรรค์โลกในมุมมองของตนเอง และเมื่อมนุษย์ทุกคนนำความสามารถเหล่านั้นมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน ก็จะสามารถจรรโลงสังคมให้เกิดนวัตกรรม ปรัชญา ความรู้ หรือทักษะใหม่ ๆ ซึ่งทำให้สังคมนั้นเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไปได้อย่างไม่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นขบวนพาเหรดลูกโป่งครั้งแรกในงานสานสัมพันธ์ที่ชูยกประเด็นเรื่องความหลากหลายทางเพศ ขบวนบุคลากรจุฬาฯ คุณลุงยาม คุณป้าแม่บ้าน พี่ธุรการ บุคคลที่คุ้นเคยของใครหลาย ๆ คนที่หากไม่มีพวกเขาเหล่านี้ ชีวิตประจำวันของเราในรั้วจามจุรีตลอดหลายปีคงเงียบเหงา
ด้านขบวนจากฝั่งธรรมศาสตร์ก็ไม่แพ้กัน นำพาความสนุกสนานและงานรื่นเริง กลับมาให้ทุกคนได้ตื่นตากันอีกครั้งหลังผ่านวิกฤติโควิด ซึ่งมาในแนวคิดของ ‘TURN BACK TIME’ภายใต้ธีม ‘GATSBY’ ผสมผสานความหรูหรา แสงสี และเสรีภาพ ผ่านความแตกต่างและหลากหลายในสังคมทุกแง่มุม ตั้งแต่ ขบวนสินค้า OTOP ที่นำเสนอเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นประจำจังหวัดที่ถูกมองข้ามให้กลับมามีคุณค่าและมีความหมาย ความอ่อนช้อยในทุกรายละเอียดของความเป็นไทยจะถูกถ่ายทอดผ่านขบวนเหล่านี้ไปสู่สายตาของทุกคน ตามมาด้วยขบวน RECYCLE ที่ต้องการแสดงให้เห็นถึงพลังของการรีไซเคิลที่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นได้ และที่พลาดไม่ได้ ขบวน PRIDE สะท้อนทั้งความหลากหลายทางเพศ เชื้อชาติ สีผิว รูปร่างหน้าตา และอีกมากมาย ที่จะมาช่วยส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคม
ปิดท้ายกับขบวนพาเหรดสะท้อนสังคม จัดหนักจัดเต็มแต่ยังคงอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ที่ดึงแนวคิดหลักมาจากปัญหาของสภาพเศรษฐกิจและสังคม โดยมีเป้าหมายสำคัญในการเป็นกระบอกเสียงทางความคิดอันจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
โดยตลอดช่วงการแข่งขันทั้งสองสถาบันก็ยังสร้างสีสันประชันกันผ่านการแปรอักษรรูปแบบใหม่ที่ไม่มีการบังคับให้นิสิตหรือนักศึกษาต้องขึ้นสแตนด์ แต่ไอเดียเนื้อหายังคงมากจากทีมนิสิตนักศึกษาเช่นเคย พร้อมนำด้วยเทคโนโลยีที่มาสร้างวัฒนธรรมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ กับการแปรอักษรผ่านจอ LED รวมกันทั้งหมดกว่า 420 จอ นอกจากนี้ยังมีการใช้ลูกเล่นมาสร้างการมีส่วนร่วมแบบ Interactive กับผู้เข้าร่วมงานจึงทำให้งานบอลปีนี้สร้างวิถีใหม่ของการแปรอักษรไปอย่างอีกขั้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังอัดแน่นด้วยการแสดงสุดพิเศษจากทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่ช่วงเปิดงาน ตลอดช่วงการแข่งขัน และการปิดงาน การแสดงจากฝั่งธรรมศาสตร์ อาทิ กองสันทนาการ ชุมนุมศิลปะและวัฒนธรรมล้านนา, ชุมนุมลีลาศ, TPC Dance, TU COLORGUARD, TU Folksong, Higher Level, TU Chorus, TU Drama, TULP Dance, กองถาปัด ธรรมศาสตร์ และการแสดงจากฝั่งจุฬาฯ CU COLORGUARD, CU BAND, CU POMPOM, CUDC, CU ANGELS, CU DEVIL, CU Chorus, ชุมนุมศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน, ชมรมดนตรีไทย, ชมรมนาฏศิลป์, ชมรมกองถาปัด จุฬาฯ, คณะบัลเลต์ และที่ขาดไม่ได้ ‘มินนี่ ภูริเดช บุญอุ้ม’ ประธานเชียร์จุฬาฯ ประจำงานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ 2024 ที่จะมาร่วมส่งเสียงเชียร์ทีมจุฬาฯ ให้ดังกึกก้องสนามอย่างแน่นอน
ปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ตจากศิลปิน T-POP วงเกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอต ตัวแทนจากทีมจุฬาฯ 4EVE และ วงศิลปินน้องใหม่ดาวรุ่งพุ่งแรง ตัวแทนจากทีมธรรมศาสตร์ DICE ที่มาสร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงานกันในช่วงสุดท้าย
งานฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ CU – TU Unity Football Match 2024เกิดขึ้นจากความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องสองสถาบัน คณาจารย์ บุคลากร ศิษย์เก่าและนิสิตเก่า รวมถึงสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุนงานครั้งนี้ทั้ง GULF ผู้ให้ความสนับสนุนในทุก ๆ กระบวนการ ตั้งแต่เริ่มต้นงานไปจนถึงวันจัดงาน AIS ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนให้พี่น้องประชาคมจุฬาและธรรมศาสตร์จากทั่วประเทศได้รับชมบรรยากาศผ่าน AIS PLAY และ WARRIX ผู้สนับสนุนให้เกิดเสื้อทีมธรรมศาสตร์ GOLDEN SEED และเสื้อทีมจุฬาฯ BAKA PINK SHIRT ที่มีคุณภาพ และผู้ใหญ่ใจดีจากทุกภาคส่วนและทุกองค์กรที่เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายในงานครั้งนี้
#TEAMCHULA #TEAMTHAMMASAT #ฟุตบอลสานสัมพันธ์จุฬาธรรมศาสตร์#cutuball2024