M๓๙ ขอเสนอ “ฟัดจังโตะ” ภาพยนตร์ Set Zero ความเบื่อแห่งปีมะโรง มะเส็ง มะเมีย มะแม

บุ-เซน-ดา-โย  ชั้นเบื่อแกว่ะ

แกเบื่อชั้นเหรอ.. นี่แน่ะ !!

โครม !! เพล้ง !!  เพี้ยะ !! พลั่ก !! อั่ก !! ตุบ !! ตับ !! หนุบ !! หนับ !!

อ๊ากกกซ…ซซซซซซ…ซ์..

จ๊วบบบบ……บ !!!!

&@#^$*())+__+)^&)#$%^&*())@#$%^$(*_*)!#@!@$$%%$%$

เรื่องของเรื่อง..

มันเกิดจากฝ่ายหนึ่งที่เวิ่นวือเกินเหตุ  จนนำไปสู่อารมณ์เบื่อหน่ายของอีกฝ่าย จากคู่รักก็กลายเป็นคู่กัด จากคนที่ชอบก็เป็นคนไม่ใช่   จากคู่ขาขยับสถานะสู่คู่ขัด เมื่อชะตาความรักมาถึงทางตัน ยังงี้  !! มันก็ต้องต่างคนต่างเดิน (ซะแล้ว)

“ก๊อป” ผู้ชายห่วยๆ ที่ทำอะไรไม่ค่อยได้เรื่องได้ราว แม้แต่การเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ ก็มักเผยไต๋ไอเดียแป๊กตลอด จนเจ้านายส่ายหน้าใส่

“แก๊ป” แดนเซอร์สาวผู้ชอบพูดแต่เรื่องตัวเอง เสียงดังเอะอะพาโวย คลั่งไคล้ทุกสิ่งอย่างที่เป็นญี่ปุ่นและฝันไกลอยากไปเหยียบแดนดินถิ่นซากุระสักครา

ทั้งคู่ส่อแววออกอาการเบื่อกันแต่ดันต้องร่วมหัวจมทายไปญี่ปุ่น กับ 2 ไกด์นำเที่ยวลูกพ่อสุดเกรียน

“ไกด์” ผู้ชายชื่อไกด์ที่มีอาชีพเป็นไกด์และชอบทำตัวติดกับพ่อราวแฝดสยาม ไปไหนไปด้วยกับพ่อ ซึ่งเป็นไกด์รุ่นลายคราม นามว่า “กวง”

มันเลยกลายเป็นเรื่อง..

ฉันเบื่อแกว่ะ  ใครก็พูดได้  แต่อีกฝ่ายได้ยิน คงเศร้าน้ำตาไหล ร้องไห้โฮ เมื่อความเบื่อเข้าแทรก  เมื่อความหน่ายเข้าสิง ตายละหว่า !! ทำไงดี  ..                     จะสานรักต่อหรือ  จะขอท้าเลิกอืม!!! เลิกกันแล้ว ยังเป็นเพื่อนกันได้ ใช่มั๊ย จะใช่..หรือไม่ใช่.. ต้องมา “ฟัด” ให้รู้ดำรู้แดงกันไปข้างนึงงานฟัดความสนุกระหว่าง “ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์” แห่ง “คุณนายโฮ” และ “สุดเขตเสลดเป็ด” กับผู้กำกับโฆษณาที่ย้ายเก้าอี้มาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ป้ายแดง “นพดล อากาศ”

ฤกษ์ชัย :หนังเรื่องนี้มันเป็นการมั่วกันทางความคิดครับ ส่วนหนึ่งก็ของผม อีกส่วนก็ของผู้กำกับร่วม มั่วกันจนกลายเป็นการรวมตัวกันของความซาดิสต์กับความตลก ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้เกิดขึ้นจากตัวนักแสดงเอง เวลาที่พวกเขาแสดงความซาดิสต์ใส่กัน ก็มักจะมีรอยยิ้มตามมาให้เห็น

มุมตลกยังมีอยู่ แต่คงจะไม่ใช่ตลกคำคมเหมือนเดิม แล้วมันก็เป็นหนังเรื่องแรกของผมที่ไปถ่ายทำต่างประเทศ หนังจะพูดถึงความสัมพันธ์ของคู่รักที่กำลังเริ่มเบื่อกัน และอยากจะหาคนใหม่มาชดเชยคนที่เก่าที่ทำให้เบื่อ” 

นพดล :ผมกำลังจะพูดถึงคนสองคนที่ทะเลาะกัน คนสองคนที่เริ่มเบื่อกัน แต่จะให้ไปเล่าในมุมโหดๆ เลือดตกยางออก ก็ไม่ใช่คาแรกเตอร์ของผม เพราะนิสัยผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมเลยเลือกที่จะเล่าในมุมที่ดูโหดนิดๆ แต่ยังมีความน่ารักแฝง

ในเรื่องจะเล่นจริง ตบจริง จูบจริง ถีบจริง ด้วยคอนเซปต์และบรรยากาศพาไป ทำให้ทุกอย่างมันก็เลยต้องจริง ซึ่งผมว่ามันดีนะ สะท้อนภาพชัดจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ คนดูก็จะดูอย่างสนุกด้วยไง” 

ที่ทำให้เกิดเรื่อง                            

 

แกไม่รักชั้นแล้วเหรอวะ เมื่อก่อนแกรักชั้นแกไม่ทำแบบนี้  เมื่อก่อนเป็นอย่าง เดี๋ยวนี้เป็นอีกอย่าง  (เออ !! สิวะ ชั้นเบื่อแกนิ) เมื่อก่อนแกรับโทรศัพท์ชั้นทุกที ทำไมเดี๋ยวนี้ ไม่รับ (เออสิวะ !! ก็เบื่อนี่ )เมื่อก่อนพูดดีๆ ทำไมเดี๋ยวนี้โวยวาย (เออสิวะ !!  ก็เบื่อแล้วนี่ )เมื่อก่อนแค่เขกกะบาล เดี๋ยวนี้กระโดดถีบ (เอออ สิวะ !! ก็เบื่อแล้ววววววนี่ )ตำแหน่งเดิมที่เคยกอด รัด ฟัด ตบ กัน แบบ “คอมเมดี้” มันยังเป็นตำแหน่งเดิม ๆ แต่วันนี้มันถูกยกระดับให้เป็น “ซาดิสต์”  ไปซะแล้ว

แกตบ ฉันจูบ  ตบ ตบ ตบ จูบ จูบ จูบ ตบ-จูบ จูบ-ตบ

“บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” (รับบท ก๊อป) 

“มันเป็นกันทุกคู่แหล่ะมีช่วงโปรโมชั่น เป็นช่วงที่ทุกคนละเลยที่จะมองข้อเสียของกันและกัน แต่พอหมดช่วงโปรโมชั่นข้อเสียที่ว่ามันก็วกเข้ามา ทุกคู่ต้องเจอหมดแหล่ะแต่ว่าคู่ไหนที่จะผ่านมันไปได้ล่ะ ผมก็เคยเป็นใครๆก็เคยเป็นแหล่ะ แบบว่าไม่อยากอยู่ในภาวะตรงนี้พอมันผ่านช่วงเวลานี้ไปได้หรือมันมีเหตุการณ์ที่เรามีเวลาไปรีเฟรชความสัมพันธ์กันทั้งคู่ ทุกอย่างมันก็กลับมาเหมือนเดิมอยู่ที่ว่าใครจะฝ่าฟันช่วงวิกฤติที่เกิดกับทุกคู่นี้ไปได้

“ยิปโซ-รมิตา มหาพฤกษ์พงษ์” (รับบท แก๊ป)“                                     

ยิปว่ามันเป็นเรื่องปกติมากการเปลี่ยน เป็นกันอยู่ทุกวันแต่ว่าเราไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ คนเราเป็นหลายอย่างเลย และเป็นไปเรื่อยๆด้วยไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องของแฟนอย่างเดียว คนเราของที่ใหม่ที่เก่าเราจะมีความเข้าข้าง ความเห่อ และความอดทนไม่เท่ากันอยู่แล้ว ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องแฟนแม้กระทั่งเรื่องเพื่อน อย่างยิปกับเต้ย สมัยช่วงเห่อ พอไม่สบายที ยิปต้มข้าวต้มใส่รูปดาวไปให้มันกินแต่พอหลังๆจะลดเหลือแค่คำพูด มันจะมีช่วงเห่อกันอยู่ ทุกคนที่รู้จักกันใหม่ๆ อันนี้คือเรื่องธรรมดา พอคนเรามาเป็นแฟนกันมันถูกจับประเด็นขึ้นมาเป็นหัวข้อของการทะเลาะกันได้ง่ายที่สุดคนก็เลยพูดขึ้นมา   

“เอ๊ะ ละอองฟอง-พงษ์จักร พิษฐานพร” (รับบท ไกด์) 

“เมื่อก่อนผมเสียงดังชอบตะโกนใส่แฟน หลังๆพูดน้อยลงดีขึ้น อ้อ !! มีเรื่องเวลา เมื่อก่ก่อนมีเวลาให้กับเค้าเยอะ เดี๋ยวนี้มีงานมากขึ้นก็มีเวลาที่ให้เค้าน้อยลงก็เลยต้องทำตัวเป็นคนดี ชดเชยเวลาอยู่ด้วยกัน ต้องมีสิ่งดีๆให้แก่กัน ”

“แอนนา ชวนชื่น-อเนก อินทะจันทร์” (รับบท กวง)

กาลเวลามันเปลี่ยนไปต่างคนก็ต่างเปลี่ยนไป แต่เรายังมีใจให้เค้า เค้าเปลี่ยนไปเค้าก็มีปฏิกิริยาแปลก เค้าค่อยๆซึมซาบให้เราค่อยๆรู้ว่าเค้าเปลี่ยนไป เขาหาว่าใช่สิ !! เธอมีชื่อเสียงแล้วนี่เธอก็เปลี่ยนไป ผมว่าไม่ใช่ผมเปลี่ยนนะ แต่ผมเป็นวัยทองมากกว่า(หัวเราะ) คือผมจะวีนง่ายแต่หายเร็ว เรารู้ตัวว่าเราผิดก็ขอโทษเค้า

 “ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์” (ผู้กำกับ)

“ผมเป็นคนขี้กลัว จะฟาดใครก็กลัว กลัวจะโดนเอาคืน แค่มีคนมาขู่ ใจก็ไม่ค่อยดีแล้วละ ความซาดิสต์เลยเป็นอะไรที่ตรงข้ามกับผม จำได้ว่าเคยทำอะไรแผลงๆ ประมาณแกล้งเพื่อนคนหนึ่ง เพราะพูดกันไม่รู้เรื่อง แล้วผมก็ชักจะหมั่นไส้ พอเพื่อนอ้าปาก ผมก็เลยดึงลิ้นเพื่อนค้างไว้ประมาณ 1 นาที จนเพื่อนยอม คิดดูนะ เวลาลิ้นตากลมนานๆ มันจะแสบ น่าจะเป็นอะไรที่ทำซาดิสต์กับคนอื่นโหดที่สุดแล้วละ”

“ดิ่ง-นพดล อากาศ” (ผู้กำกับ)

“เมื่อก่อนเป็นอย่างเดี๋ยวนี้เป็นอีกอย่างผมว่ามันเป็นเรื่องปกติว่าคนเรามีการเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน เพียงแต่ว่าในมุมมองผมจะรู้สึกว่าการเปลี่ยนไม่ได้สำคัญ แต่ว่าการเข้าใจสำคัญกว่า เมื่อก่อนเป็นอย่างเดี๋ยวนี้เป็นอีกอย่างมันอาจจะดีก็ได้เพราะมันทำให้รู้สึกว่ามันไม่เบื่อกัน แต่ถ้าเบื่อกันแล้วก็คงต้องฟังกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก็เคยมีกรณีศึกษาครับเป็นเรื่องง่ายๆใกล้ตัวเช่นเรื่องต้นไม้ เมื่อก่อนผมรดน้ำต้นไม้ทุกวันเดี๋ยวนี้มันไม่มีเวลา ก็มีคำพูดมาว่าต้นไม้มันพูดไม่ได้หรอกนะแต่คนที่อยู่ด้วยพูดได้อยากพูดแทนต้นไม้ (หัวเราะ) ถ้าเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นก็ต้องจับมานั่งพูดคุยกันครับ

และอาจเลยเถิดไปถึงเรื่อง …

เบื่อของเก่า ก็ต้องหาของใหม่   ได้ของใหม่ ก็อาจจะ ลืมของเก่า   แต่จงเชื่อเถอะ   เมื่อเจอของใหม่  ก็จะไม่เหมือนของเก่า..

“ยอร์ช-ฤกษ์ชัย พวงเพ็ชร์” (ผู้กำกับ)

“ผมว่าความเบื่อแก้ไขได้นะ อยู่ที่คุณว่าจะหยุดเพื่อแก้ไขหรือเปล่า อย่าเชื่อว่าเราแก้ไขได้ทุกอย่าง บางทีอาจต้องอาศัยเครื่องมือมาเป็นตัวช่วย” ใครจะเชื่อหรือเปล่า ไม่รู้นะ แต่ที่ที่โรแมนติกสักแห่ง จะช่วยให้คนสองคนหยุดเบื่อกันได้ เพื่อให้คนสองคนนั้นได้เซ็ตซีโร่ แล้วค่อยมาเริ่มกันใหม่ ผมว่าการแก้ปัญหาคู่รักด้วย การตะโกน ไม่เวิร์ค เพราะจริงๆ คำตอบมันก็คือ ความเบื่อ ที่อีกฝ่ายมีต่ออีกฝ่าย ซึ่งจะนำไปสู่การเลิกกันได้”

“ดิ่ง-นพดล อากาศ” (ผู้กำกับ)

“คนรักกันถ้าสามารถก้าวข้ามคำว่าเบื่อไปได้ มันก็จะกลายเป็นความรักอีก สเต็ปหนึ่ง คนรักกัน ต้องมีการคุยกัน มีการฟังกัน มันถึงจะอยู่กันรอดความรักมันเหมือนมีเส้นบางๆ ที่เรียกว่า ความพอดีกับความไม่พอดี ถ้ามันเกาะอยู่ใน ความพอดี อารมณ์ไหนมันก็ดูน่ารัก”

ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์                                                                      

ถ้ามีมือที่ 3 เข้ามามันจะทำให้ภาวะการณ์การเบื่อมีทางออกออกมา ไอ้คนที่เบื่อกันที่ผมบอกมันไม่ได้เลิกรักกันนะ มันเป็นช่วงปกติเจออะไรซ้ำๆมันก็ต้องเบื่อแต่พอมีมือที่ 3 เข้ามามันเหมือนมีปัจจัยภายนอกที่แซะเข้ามามันทำให้ความเบื่อที่ไม่จำเป็นต้องเลิกเนี่ย มันเกิดภาวะที่ทำให้เลิกเร็วขึ้น ง่ายขึ้น มันก็เคยมีเข้ามาทำให้เป๋ๆนะ สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าสุดท้ายแล้วความรักความผูกพันที่เราสร้างขึ้นมามันมีพลังมากกว่า

เอ๊ะ ละอองฟอง                                                                          

เค้าเป็นคนขี้หึงนะ ผมเองเป็นคนชอบคุยกับคนนั้นคนนี้ เค้าก็ชอบย่องๆมาแอบดูโทรศัพท์ เหมือนในหนังเลย พอย่องๆมามืดๆผมก็จะแกล้งจับมือแล้วตะโกนเสียงดังว่า “ทำไรอ่ะ !! ” เค้าก็ร้องไห้ ผมก็บอกไม่มีหรอกกกกกก …  เค้าก็นอนไม่หลับเลยนะ กระเป๋าสตางค์เอย สลิปบัตรเครดิตเอย ตอนหลังต้องเอาไปแช่น้ำให้มันยุ่ยๆก่อน  ไม่ให้เห็นตัวเลข (หัวเราะ)

แอนนา ชวนชื่น

ส่วนใหญ่ใครทะเลาะกับแฟน มีปัญหากับแฟน แฟนชอบไปเล่นไพ่ ติดผู้หญิง จะมานอนที่ห้องผม มาพักที่ห้องผมก่อน ผมจะเป็นตัวเชื่อมนะ ผมจะบอกว่า ลูกผู้ชายถ้าผิดก็ต้องยอมรับผิดนะ เข้าไปขอโทษเขาแล้วบอกเลยว่าต่อไปจะไม่ทำ ตราบใดที่เขายังไม่ปลีกใจไปหาคนอื่นนะ

รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์

ถ้ามีคนที่ สามเข้ามาให้ตายยังงัยก็รู้สึกไม่ดีมันเหมือนกับว่า การที่เราจะสามารถรู้สึกว่าเราโดนแทนที่ได้ ด้วยคนที่ 3 คนที่ 4 หรือคนที่เท่าไหร่ ตราบใดที่โดนแทนที่ได้ มันก็เป็นความรู้สึกที่ทำให้เรารู้สึกแย่กับตัวเองอยู่แล้ว

 

แล้วจะทำอย่างไรกับเรื่อง..                     

ยิ่งเสียงดัง…ก็ยิ่งไม่ได้เรื่อง     ยิ่งเสียงดัง…ก็ยิ่งเป็นเรื่อง เรื่องไม่เป็นเรื่อง.. มันก็เลยกลายเป็นเรื่อง  อิลุงตุงนัง…. ฟัดจังโตะ

 

ฤกษ์ชัย  พวงเพ็ชร์

เรื่องนี้ถ่ายที่ต่างประเทศ 90 % เราต้องการเครื่องมือในการทำให้หายเบื่อกัน เราชอบเล่นของเล่นใหม่ๆ เราชอบอะไรใหม่ๆ เราก็อาจจะอยากจะกอดกันในที่ใหม่ ๆ สุดท้ายเราก็อาจจะกลับมาใช้ชีวิตเดิมๆแต่พอเราเบื่อเราก็จะไปกอดกันในที่ใหม่ๆ ชีวิตมันอาจจะดีขึ้น เราจะได้ต้นทุนหายเบื่อจากแบคกราวด์ที่เปลี่ยน 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือมันก็คงอยู่ที่นิสัยแล้วล่ะ เรื่องนี้มันเป็นหนังกวนตีนนะ กวนตีนกันก่อนแล้วค่อยไปนอน เหมือนกินยาอ่ะ กินแล้วค่อยไปนอน

นพดล  อากาศ

ที่เราโฟกัสให้มันเป็นเรื่องของ 2 คนเพราะคนยุคนี้มันมีลักษณะเป็นครอบครัวที่เล็กลงมีแค่สามี-ภรรยา หรือแฟนกัน คนสองคนมันก็เลยต้องผลัดกันฟัง ผลัดกันพูด ถ้าไม่พอก็ต้องอาศัยอุปกรณ์ตัวช่วยคือลองเปลี่ยนสถานที่แปลกใหม่ดู มันอาจจะจบกันในทางที่ดี

แอนนา ชวนชื่น

เราคุยเสียงดังนะ ถ้าทะเลาะกันคือไม่พูดกัน ถ้าเอะอะพาโวยคือปกติ ถ้าเรารู้เราผิดเราจะเป็นคนง้อและเริ่มต้น ถ้าเรารู้ว่าเราถูกเขาจะต้องหาเรา แต่เราก็จะมีฟอร์มบ้างแกล้งไม่ได้ยินบ้าง ส่วนใหญ่เราจะผิดมากกว่าเค้าผิด สิบครั้งเค้าจะพลาดสักครั้ง  เราเก้าเลยล่ะ (หัวเราะ) ส่วนใหญ่ชีวิตเราเนี่ยตั้งแต่อยู่คาเฟ่แล้ว ถามแฟนได้ว่าหนุ่มสาวคู่ไหนผัวเมียใครที่ทะเลาะกันถึงขั้นแตกหัก จะมาพักที่ห้องก่อน  แล้วเราก็ถามว่าเอาความดีกะความเลวของเขามาชั่งใจดูว่าอันไหนน้ำหนักมากกว่ากัน  ถ้าคิดจะเลิกกันน่ะต้องคิดถึงสิ่งดีๆอย่าไปคิดถึงอันนั้น อันนี้  เรื่องเล็ก เรื่องน้อย  แล้วดูสิว่าจะอยู่ด้วยกันได้ไหมถ้าคิดว่าเลิกก็ไป แต่ถ้ายังรักกันก็ลองกันใหม่อีกทีสิ  มันเหมือนมันคือหนังเรื่องนี้เลย 

เอ๊ะ ละอองฟอง

หนังเรื่องนี้ได้มุมมองใหม่ๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นที่มีความรัก มันจะมีอะไรโหดๆเยอะ มันเกิดกับทุกคู่     แหล่ะเมื่อชีวิตคู่อยู่ด้วยกันแล้วก็ไม่มีใคร เรามักจะเป็นตัวของตัวเองสุดๆ เมื่อเราอยู่กับครอบครัวเราเอง ทุกคู่ต้องมีประสบการณ์นี้แน่นอน

ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์

เราต้องไม่ใช้อารมณ์ชั่ววูบ ไม่ใช้อารมณ์อย่างเดียว ต้องคิดด้วยว่าตลอดเวลาที่เราคบกันมา 2- 3ปีเนี่ยมันก็มีสิ่งดีๆตลอดนะกว่าเราจะสร้างกันมามันลำบากแค่ไหน มันเป็นสิ่งที่เราคิดแล้วมันจะเตือนสติเราไม่ให้ทำอะไรหุนหัน เวลาก็ช่วยได้บางทีคู่รักที่ถอยออกมามันก็ไม่ได้ว่าต้องเลิกกันเสมอไป เราถอยห่างออกมาเพื่อตั้งสตินั่งทบทวน เวทน้ำหนักสิ่งที่เราเบื่อตอนนี้กับสิ่งที่ทำร่วมกันมาก่อนหน้านี้อันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากัน และ เหตุการณ์ต่างๆที่เราพยายามทำมันขึ้นเช่นเทศกาลปีใหม่ก็ชวนกันไปเที่ยว เรื่องพวกนี้มันคือการ  รีเฟรชความสัมพันธ์ให้มันดีขึ้นได้นะ

รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์

ถ้าจะเคลียร์กันเรื่องความเบื่อต้องตัดคนที่ 3 ออกไปก่อนถึงแม้จะมีคนเข้ามาแล้ว แต่เราอย่าเพิ่งไปคิดว่าเค้าเข้ามาแล้วหรืออะไรก็ตามแต่ เราโฟกัสแค่สองก็พอ ยิปรู้สึกว่าเรื่องความสัมพันธ์มันเป็นเรื่องของตัวเลข 2 เท่านั้น

ไปดูตอนจบของเรื่อง…ในโรงภาพยนตร์เถอะ  จะได้รู้เรื่อง 

แล้ว “ความเบื่อ” ของคุณจะถูก SET ZERO แน่นอน ++