THE MONKEY KING 3D (เดอะ มั้งกี้ คิง ทรีดี) – ไซอิ๋ว 3D ตอนกำเนิดราชาวานร 27 กุมภาพันธ์ 2557 ในโรงภาพยนตร์

นักแสดง

Donnie Yen  (ดอนนี่ เยน)  รับบท Monkey King ( ซุนหงอคง) 

Chow Yun-fat (โจวเหวินฟะ) รับบท Jade Emperor ( เง็กเซียนฮ่องเต้)

Aaron Kwok (กัวฟู่เฉิง)  รับบท Bull Demon King  ( ปีศาจกระทิง)

Kelly Chen (เฉินฮุ่ยหลิน )  รับบท Guan Yin (เจ้าแม่กวนอิม)

Joe Chen  (เฉินเฉียวเอิน )  รับบท Princess Iron Fan  (องค์หญิงพัดเหล็ก)

 

จุดเด่น

The Monkey King 3D ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สุดอลังการทุ่มทุนสร้าง 2,000 ล้านบาท และได้มือสเปเชี่ยลเอ็ฟเฟ็คก์ชั้นแถวหน้าจากทีมผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Avatar และ 300  ภาพยนตร์เรื่องนี้รวบรวมนักแสดงชื่อดังไว้มากมาย  นำทีมโดย Donnie Yen (ดอนนี่ เยน) , Chow Yun-fat (โจวเหวินฟะ) , Aaron Kwok (กัวฟู่เฉิง), Kelly Chen (เฉินฮุ่ยหลิน), Joe Chen (เฉินเฉียวเอิน), Irene Wang (ไอรีน หวัง) ฯลฯ  มาร่วมสร้างความมันส์แบบทะลุจอใน The Monkey King3D

 

เรื่องย่อ

นับตั้งแต่ยุคเริ่มแรก โลกเรามีการดำรงอยู่ของสามเผ่าพันธุ์ มนุษย์ เทพและปีศาจ ด้วยอำนาจที่มีอยู่จำกัด มนุษย์จึงใช้ชีวิตอยู่ได้บนโลกมนุษย์เท่านั้น ในขณะที่เทพเจ้าและปีศาจได้สู้รบกันเพื่อครองสรวงสวรรค์ นำมาสู่การทำสงครามกันหลายต่อหลายครั้ง ระหว่างสงครามครั้งหนึ่ง เผ่าพันธุ์ปีศาจได้ถูกปราบและถูกเนรเทศออกจากสวรรค์ ไปใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางมวลมนุษย์บนโลก เทพเจ้าได้ส่งทหารสวรรค์ไปยังโลกมนุษย์เพื่อกำจัดเผ่าพันธุ์ปีศาจที่เหลือให้สิ้นซาก ซึ่งทำให้พวกปีศาจต้องเร้นกาย และต้องทนต่อความอับอายขายหน้าและการเสื่อมเสียเกียรติ

ด้วยความที่ทุกสิ่งถูกทำลายล้างจนสิ้นระหว่างสงครามครั้งใหญ่นั้น  เจ้าแม่หนี่วา ผู้สร้างสรรค์โลก ได้ใช้หินวิเศษซ่อมกำแพงสวรรค์ แล้วหินก้อนหนึ่งได้พลัดตกลงมาบนโลก และร่วงลงมาบนภูเขาฮัวกั่ว  หินวิเศษก้อนนั้นได้ซึมซับพลังแห่งสวรรค์และโลกมนุษย์ รวมถึงแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งสุริยันจันทรา สิ่งมีชีวิตวิเศษได้ถูกหล่อเลี้ยงขึ้นมาภายในหินวิเศษ และ ลิงตัวหนึ่งก็ได้โผล่ออกมาจากหิน เมื่อสุโพธิเถระได้เดินทางมาพบกับลิงตัวนี้  เลยพากลับไปยังถ้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อสั่งสอนวิชาต่างๆ ให้ และตั้งชื่อเขาว่า “ซุนหงอคง”

หงอคงตั้งใจศึกษาพระคัมภีร์และเริ่มทำความเข้าใจกับวิถีของโลกใบนี้  แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาแปลกพิกลและความซุกซนทำให้เขามักถูกกลั่นแกล้งจากศิษย์ร่วมสำนัก  โชคดีที่ไฉ่หวิน ศิษย์น้องคนหนึ่งของเขา มักจะคอยปกป้องเขา หลังจากเรียนสำเร็จ  หงอคงกลับไปยังภูเขาฮัวกั่วและใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบท่ามกลางฝูงลิงในถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง ก่อนจะประกาศตนเป็นพญาวานรโสภา

แล้ววันหนึ่ง เขาก็ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ เด็กสาวที่กำลังถูกทหารสวรรค์ไล่ล่า  นางคือจิ้งจอกเก้าหาง ไป๋หรูเสวี่ย พ่อแม่ของเธอถูกทหารสวรรค์สังหารอย่างโหดเหี้ยม ทิ้งให้เธอต้องร่อนเร่พเนจรตามลำพัง แต่ทหารสวรรค์ไม่ยอมปล่อยเธอไป หงอคงสะเทือนใจกับเรื่องของเธอและเสนอตัวคุ้มครองเธอ หลังจากนั้น เขาก็ประกาศว่าปีศาจทุกตนสามารถมาหลบภัยที่ภูเขาฮัวกั่วได้

ข่าวนี้แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว หงอคงและฝูงลิงของเขายืนหยัดต่อต้าน กองกำลังสวรรค์  ปีศาจต่างๆ ได้มุ่งหน้าไปยังภูเขาฮัวกั่วเพื่อพบกับหงอคง  ในการพบกับร้อยปีศาจ หงอคงได้รับดาบวิเศษที่จะเป็นสมบัติแห่งภูเขาลูกนี้ได้ ด้วยความยินดี หงอคงได้รับดาบนั้นมาควงเล่น แต่เมื่อเขาแทงมันลงกับพื้นดิน ดาบนั้นกลับแตกเป็นสองซีก หงอคงจึงถามถึงที่ที่เขาจะไปตามหาอาวุธศักดิ์สิทธิ์จริงๆ มาเป็นสมบัติคู่ภูเขาแห่งนี้ได้ หรูเสวี่ยได้บอกเขาว่าสมบัติเช่นนั้นจะพบได้ในสถานที่สามแห่งเท่านั้นคือพระราชวังของฮ่องเต้บนโลกมนุษย์ พระราชวังของเง็กเซียนฮ่องเต้บนสวรรค์และพระราชวังมังกรในทะเลตะวันออก และภายใต้สะพานเหล็กในถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง หงอคงตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอพูด ด้วยแรงยุจากบรรดาลิงและปีศาจ เขาก็ได้ทะยานขึ้นฟ้าและมุ่งหน้าเข้าไปในถ้ำทันที

หงอคงเข้าไปในพระราชวังมังกรเพื่อพบกับพญามังกร   ด้านพญามังกรตั้งใจจะทำให้เขาอับอายด้วยการให้เขาทดลองยกเสาค้ำทะเลเวทมนตร์ ซึ่งเป็นสมบัติที่ใช้เรียกน้ำลงมาในทะเล มันเป็นเสาเหล็กขนาดใหญ่ที่สลักคำว่า ‘กระบองฟ้าอู่อี้ หนัก 35,000 กิโล’ หงอคงเอามือทั้งสองจับเสาไว้และยกมันขึ้นด้วยกำลังทั้งหมดของเขา เสานั้นถูกยกขึ้นได้อย่างง่ายดาย ทำให้ท้องทะเลสั่นสะเทือนไปหมด หงอคงยินดีที่ได้พบกระบองที่สามารถยืดหดได้ดังใจ ขณะที่หงอคงพยายามเอากระบองนั้นไป พญามังกรได้หยุดเขาไว้และสั่งให้ทหารแย่งชิงกลับคืนมา หงอคงใช้กระบองฟ้าฟาดฟันออกไป และภายในเวลาชั่วอึดใจ พระราชวังมังกรก็ถูกถล่มจนสิ้นซาก

ณ ถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง หงอคงอวดสมบัติที่ได้มากับบรรดาลิงและปีศาจ พวกเขาต่างเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี เว้นแต่หรูเสวี่ย ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ เพราะ ทะเลเกิดหายนะคลื่นยักษ์  ชีวิตมากมายจะต้องล้มหายตายจาก แต่หงอคงกลับเพิกเฉย  ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้ทะเลต้องหนีหัวซุกหัวซุนด้วยความหวาดกลัว หรูเสวี่ยไปเพื่อช่วยเหลือคนชราและผู้อ่อนแอ  หงอคงปรากฏตัวขึ้นและช่วยเหลือเธอรักษาชีวิตทารกเอาไว้  หลังจากหายนะครั้งนั้น หงอคงได้มอบไข่มุกศักดิ์สิทธิ์ที่ให้กับหรูเสวี่ยเป็นของแทนใจ หรูเสวี่ยที่ประทับใจกับความจริงใจของเขา ก็คืนดีกับเขาในที่สุด

คลื่นยักษ์สร้างความเสียหาย ภูเขาถูกน้ำท่วม ปีศาจกระทิง รู้สึกโกรธเคืองและต้องการจะล้างแค้น ในขณะเดียวกัน พญามังกรก็ไปร้องทุกข์กับเง็กเซียนฮ่องเต้  เมื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ได้ฟังก็ทรงกริ้ว และส่งหลี่จิ้ง และนาจา มายังโลกเพื่อจับผู้กระทำผิด  เมื่อเผชิญหน้ากับขุนพลสวรรค์ หงอคงนำหรูเสวี่ยและฝูงลิงมาร่วมรบด้วย กองทัพปีศาจที่นำโดยปีศาจกระทิงก็มาถึง ด้วยความเชื่อว่าปีศาจพวกนี้ยกทัพมาช่วยหงอคง หลี่จิ้งและนาจาจึงถอนกำลังกลับไปยังสวรรค์ก่อน

หงอคงเลยต้อนรับปีศาจกระทิงอย่างอบอุ่นและรับรองผู้มาเยือนในถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง ระหว่างงานเลี้ยง หงอคงรู้สึกว่าปีศาจกระทิงเป็นพวกเดียวกับเขา ทั้งคู่สนิทสนมกันและสาบานที่จะยึดครองโลกด้วยกัน พวกเขายกย่องกันและกันด้วยสมญานาม ‘มหาปราชญ์ผู้เสมอสวรรค์’ และ ‘มหาปราชญ์ผู้ปราบสวรรค์’

บนสวรรค์ หลี่จิ้งแบกร่างที่ได้รับบาดเจ็บกลับไปรายงานกับเง็กเซียนฮ่องเต้ ทำให้ เง็กเซียนฮ่องเต้พิโรธหนักและประสงค์จะส่งกองทัพไปกำราบลิงกลุ่มนี้ แต่สุโพธิเถระเข้ามาขอเสนอที่จะเกลี้ยกล่อมหงอคงและให้หงอคงมาอยู่ภายใต้การดูแลของสวรรค์

ณ ยอดเขาฮัวกั่ว หงอคงและหรูเสวี่ยสาบานที่จะอยู่ด้วยกันชั่วฟ้าดินสลายที่ภูเขาหิมะ ในขณะที่ทั้งคู่หวานชื่นอยู่ด้วยกัน  จู่ๆสุโพธิเถระก็ปรากฏตัวขึ้น  หงอคงแปลกใจและยินดีที่ได้เจออาจารย์อีกครั้ง  แต่สุโพธิเถระกลับไม่พอใจที่เห็นหงอคงหมกมุ่นอยู่กับปีศาจ สุโพธิเถระเล่าให้หงอคงฟังถึงคำเชิญจากสวรรค์ หรูเสวี่ยคัดค้านอย่างหนัก เธอเชื่อว่า พวกเขาอาจจะกลั่นแกล้ง  เธอกล่าวทั้งน้ำตาอีกว่าถ้าหงอคงขึ้นไปสวรรค์ เขาก็จะลืมเธอและเพื่อนลิงในถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง หงอคงลำบากใจที่ต้องเลือกระหว่างอาจารย์และหรูเสวี่ย ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจกระโดดตีลังกาขึ้นฟ้า มุ่งหน้าไปยังสวรรค์พร้อมกับอาจารย์ของเขา

สุโพธิเถระและหงอคงมาถึงยังพระราชวังสวรรค์เพื่อเข้าเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้ หงอคงได้รับตำแหน่ง ‘มหาปราชญผู้เสมอสวรรค์’ ได้รับมอบหมายให้ดูแลคอกม้าสวรรค์   หงอได้พบกับนางฟ้า ไฉ่หวิน ศิษย์รุ่นน้อง  ที่ไม่ได้พบหน้ามาหลายปี  สุโพธิเถระขอให้ไฉ่หวินนำทางหงอคงไปยังคอกม้าสวรรค์ ระหว่างทาง หงอคงมองดูรอบๆ และรู้สึกอัศจรรย์กับทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจภาพชวนมองนั้นมีไม่รู้จักจบจักสิ้น   หงอคงกำลังครุ่นคิดที่ว่าสวรรค์เป็นสถานที่ที่วิเศษสุดจริงๆ และ เขาจะพาหรูเสวี่ยพร้อมกับกลุ่มลิงมาเสพสุขที่นี่ด้วยกัน

คอกม้าสวรรค์ดูน่าเบื่อ  หงอคงเลยคิดเกมขว้างเมฆขึ้นมาและเล่นกับไฉ่หวินอย่างมีความสุข  จู่ๆ นาจาก็โผล่เข้ามาร่วมวงด้วย เกมนี้เริ่มจริงจัง บรรดาคนเลี้ยงม้าและไฉ่หวินจับตามองการต่อสู้ด้วยความทึ่ง ในที่สุด ทั้งหงอคงและนาจาต่างก็หมดแรง พวกเขานอนลงพักผ่อน ในที่สุด ความบาดหมางระหว่างทั้งคู่ก็สิ้นสลายไปหลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น

ในขณะเดียวกันที่ ปีศาจกระทิงเร่งฝึกกองทัพปีศาจลับ ทันใดนั้นเอง หรูเสวี่ยก็ปรากฏตัวขึ้น ปรากฏว่าจริงๆ แล้ว เธอคือสายลับที่ทำงานให้กับปีศาจกระทิง! หลังจากได้ยินรายงานของเธอ ปีศาจกระทิงก็ตบเธอที่ปล่อยให้หงอคงไปสวรรค์ แต่หรูเสวี่ยมั่นใจว่าหงอคงจะไม่อยู่บนสวรรค์นานและจะกลับมาพบกับเธออีกในไม่ช้านี้

ณ ถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง หงอคงเห็นหรูเสวี่ยนั่งรอการกลับมาของเขาอย่างไม่ไหวติงตรงหน้าปากถ้ำ หงอคงรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับความรักและความใส่ใจที่หรูเสวี่ยมีต่อเขา แต่เทพบนสวรรค์กลับเย็นชา  ส่วนเง็กเซียนฮ่องเต้เองก็เสแสร้งและปากอย่างใจอย่าง  หงอคงแบ่งปันผลท้อทิพย์ให้หรูเสวี่ยและฝูงลิงกิน กองทัพสวรรค์ที่นำโดยเทพเอ้อหลางและเทพองค์อื่นๆมาก็มาถึง พวกเขาได้รับบัญชาจากเง็กเซียนฮ่องเต้ให้มากำจัดหงอคงและลิงทุกตัวให้สิ้นซาก

หงอคงมีความสามารถมากกว่าเทพเอ้อหลางและเทพองค์อื่นๆ  แต่เขาก็ไม่อาจทนเห็นพี่น้องลิงและหรูเสวี่ยล้มตายไปต่อหน้าได้ หงอคงจึงหลบเข้าไปในถ้ำ เทพเอ้อหลางสั่งให้ทหารเผาภูเขาแห่งนี้  หงอคงยืนกรานที่จะสู้จนถึงวาระสุดท้ายกับทุกคน ในตอนที่สถานการณ์เลวร้ายลง ปีศาจกระทิงได้เข้ามาช่วยเหลือวกเขาพร้อมกับราชันย์ปีศาจ 72 ถ้ำ เขาร่วมกับหงอคงสู้กับกองทัพสวรรค์ และในที่สุด พวกเขาก็สามารถขับไล่เทพเอ้อหลางและเทพองค์อื่นๆ ไปได้ หงอคงซาบซึ้งกับความช่วยเหลือของปีศาจกระทิงอย่างมาก แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็พบว่าหรูเสวี่ยหายตัวไป  ปีศาจกระทิงอ้างว่าเห็นหรูเสวี่ยถูกทหารสวรรค์จับตัวไป  และหรูเสวี่ยจะถูกเผาเป็นเถ้าภายในหม้อหลอมยาอายุวัฒนะ และหายไปตลอดกาล   หงอคงตัดสินใจจะไปช่วยหรูเสวี่ยให้ได้

หงอคงและปีศาจกระทิงได้มาถึงยังประตูสวรรค์ทิศใต้ พวกเขาดูทรงพลัง แข็งแกร่งและพร้อมที่จะจู่โจมขั้นเด็ดขาด หงอคง ทำลายกำแพงสวรรค์พังครืนลงมา ชิ้นส่วนคมกริบเหล่านั้นแทงทะลุร่างของหงอคง   เขาได้รับบาดเจ็บทั่วร่าง

เง็กเซียนฮ่องเต้และเทพองค์อื่นๆ มั่นใจว่าหงอคงจะต้องสิ้นชีพในไม่ช้า  แต่สุโพธิเถระไม่ต้องการให้เรื่องนี้เกิดขึ้น เขาจึงไปยังประตูเพื่อเกลี้ยกล่อมให้หงอคงล้มเลิกความตั้งใจที่จะทำลายกำแพง  แต่หงอคงตั้งใจจะช่วยหรูเสวี่ยให้ได้  แม้ว่าอาจารย์จะโกรธและดุด่า เขาก็ยังคงแน่วแน่ เขาโทษสวรรค์ที่หลอกลวงเขา ต่างกับปีศาจที่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนพี่น้อง หงอคงกล่าวโทษอาจารย์ว่าเป็นคนเสแสร้งและผลักไสเขาไป  ความเจ็บปวดถาโถมเข้าใส่หงอคงเมื่อเศษหินทิ่มแทงทะลุร่างต่างๆ ของเขา  หงอหมดแรงล้มลงพร้อมเสียงคำรามดังสนั่น กำแพงหินวิเศษถูกทำลายลง ทำให้ประตูสวรรค์ทิศใต้เหลือเพียงซากปรักหักพัง ดังนั้นเอง กองทัพปีศาจที่นำโดยปีศาจกระทิงจึงผ่านเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และมุ่งหน้าโจมตีพระราชวังสวรรค์ เทพและทหารสวรรค์ที่นำโดยเง็กเซียนฮ่องเต้เตรียมพร้อมสำหรับสงครามครั้งใหญ่นี้อยู่แล้ว หลังจากเวลานับพันๆ ปี สงครามระหว่างเทพและปีศาจกำลังจะอุบัติขึ้นอีกครั้งหนึ่งนับจากนี้…

 

ความเป็นมาของ MONKEY KING ศตวรรษที่ 21

ในขณะที่ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่สร้างขึ้นก่อนหน้านี้จะให้ความสนใจไปที่การเดินทางของพระถังซัมจั๋งและศิษย์ของเขา ที่ประกอบไปด้วย “ลิง” (ซุนหงอคง), “หมู” และ “ปลา” ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเราจะให้น้ำหนักไปที่ต้นกำเนิดของซุนหงอคง พญาวานรโสภา มหาปราชญ์ผู้เสมอสวรรค์และผู้พิทักษ์คอกม้าสวรรค์

เรื่องราวของเราถูกหยิบยกมาจากวรรณกรรมโบราณของจีน ฉบับแปลภาษาอังกฤษที่เป็นที่รู้จักในโลกตะวันตกในชื่อเรื่องว่า “Monkey” (ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 1942) เชื่อกันว่าเรื่องราวดั้งเดิมนั้นประพันธ์โดยเฉิงเอิน กวีสมัยราชวงศ์หมิง ผู้ร้อยเรียงตำนานพื้นถิ่นของจีนและเรื่องราวอัศจรรย์เข้าไปในนิยายเรื่อง Journey to the West ของเขา นั่นเป็นช่วงปลายศตวรรษที่ 16

ตำนานพื้นถิ่นของเรื่องนี้มีต้นกำเนิดก่อนหน้านั้น ในช่วงราชวงศ์ถัง โดยตำนานนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการเดินทางของเสวียนจั้ง (ซัมจั๋ง) ผู้เดินทางไปยังบริเวณที่เป็นอินเดียในปัจจุบันในศตวรรษที่ 7 เพื่ออัญเชิญพระไตรปิฎกของพระพุทธเจ้า เรื่องราวนี้ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นเรื่องที่มีสีสันและมีอิทธิฤทธิ์พิสดารมากขึ้นเมื่อมีการเพิ่มเติมตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ เข้าไป

บัดนี้ ในปี 2014 เรื่องราวนี้จะพัฒนายิ่งขึ้นด้วยตัวละครและสถานการณ์ใหม่ๆ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่แก่นสำคัญของเรื่องราวดั้งเดิมสู่ครอบครัวผู้ชมทั่วโลก ผู้อ่านนิยายเรื่องนี้ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ที่ตีพิมพ์ในศตวรรษที่ 20 จะพบว่าเรื่องราวของเราเป็นอะไรที่คุ้นเคย แต่ก็น่าติดตามด้วยเวทมนตร์แห่งภาพยนตร์ร่วมสมัยของมัน ตัวเอกของภาพยนตร์แอ็คชั่นแฟนตาซีเรื่องนี้คือซุนหงอคง ผู้เกิดจากสวรรค์ แต่ถือกำเนิดบนโลกมนุษย์ และมีพลังและกำลังกล้าแข็ง เขาใช้พลังที่มีทั้งในทางดีและทางร้ายในการทำสงครามระหว่างเทพและมาร ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ได้รับบทเรียนที่ล้ำค่า แต่ก็ต้องจ่ายค่าชดเชยที่แพงเหลือเกิน

คาแรกเตอร์ตัวละคร

ดอนนี่ เยน รับบท หงอคง 

หลังจากสงครามระหว่างเทพเจ้าและปีศาจ เจ้าแม่หนี่วา ได้ใช้หินวิเศษ 36,500 ก้อนซ่อมแซมสวรรค์ และหินวิเศษก้อนหนึ่งก็พลัดตกลงมาบนโลก ที่ภูเขาฮัวกั่ว  หินวิเศษก้อนนั้นได้ซึมซับพลังแห่งสวรรค์และโลกมนุษย์ รวมถึงแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งสุริยันจันทรา สิ่งมีชีวิตวิเศษได้ถูกหล่อเลี้ยงขึ้นมาภายในหินวิเศษก้อนนั้นและในวันหนึ่ง ลิงตัวหนึ่งก็ได้โผล่ออกมาจากหินก้อนนั้น เมื่อสุโพธิเถระได้เดินทางมาพบกับลิงตัวนี้ และด้วยความประทับใจในไหวพริบและท่วงท่าที่สง่างามของมัน ท่านก็เลยพาลิงตัวนี้กลับไปยังถ้ำศักดิ์สิทธิ์สามดาราในภูเขาหมี่เพื่อสั่งสอนวิชาต่างๆ ให้ และตั้งชื่อเขาว่าซุนหงอคง  แปลว่า “การรับรู้ถึงความว่างเปล่า” เขาได้เรียนรู้วิชาแปลงกาย 72 ท่า ซึ่งเป็นวิชาสุดยอดของพระเถระ

  • เผ่าพันธุ์                  ภูตลิง
  • ที่พำนัก                   ถ้ำสุ่ยเหลียนต้ง ภูเขาฮัวกั่ว
  • พลังวิเศษ                สามารถยกน้ำหนักได้มากกว่า 8 ตัน และกระโดดได้ไกลถึง 33,554 ไมล์
  • แปลงร่าง                 สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ต่างๆ ได้มากมาย  ขนแต่ละเส้นบนร่างเขาสามารถถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นร่างจำลองของตัวเขาเองได้ และแต่ละร่างก็สามารถต่อสู้ศัตรูได้อย่างเป็นอิสระ
  • อาวุธ                     กระบองทอง          กระบองเหล็กที่ซุนหงอคงยึดมาจากวังใต้ทะเลของเจ้าบาดาล มีน้ำหนักมหาศาล  หงอคงมีพลังในการเปลี่ยนขนาดของกระบอง แยกร่างและต่อสู้ตามแต่ใจคิด และสามารถหดให้มีขนาดเท่ากับเข็มได้เกราะทอง ชุดเกราะที่เขายึดมาได้จากเจ้าบาดาลรองเท้าเหยียบเมฆ  ยึดจากเจ้าบาดาลเช่นกัน ทำให้หงอคงสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้หางที่ทรงพลัง สามารถใช้หางเป็นอาวุธต่อสู้ศัตรูได้คาถา คาถาเรียกลมและน้ำ สร้างเกราะคุ้มภัยและแช่แข็งมนุษย์ ปีศาจหรือแม้แต่เทพได้

 

กัวฟู่เฉิง รับบท ปีศาจกระทิง

ทายาทของปีศาจผู้รอดชีวิตจากสงครามระหว่างเทพและปีศาจเมื่อนานมาแล้ว ปีศาจกระทิงมีทักษะยุทธ์และพลกำลังเป็นเลิศ เขาใช้คทาเหล็กและพัดเหล็กเป็นอาวุธ และเชี่ยวชาญด้านการแปลงกาย 72 ร่าง ด้วยวิชาที่ร้ายกาจและด้วยความที่ไม่เคยมีใครเอาชนะเขาได้ เขาก็เลยได้รับการยกย่องให้เป็นยอดนักรบในโลกปีศาจ นับตั้งแต่กำเนิด เขาก็บ่มเพาะความเกลียดชังสวรรค์เอาไว้ เขาเรียนรู้และเชื่อฟังคำสั่งสอนของบรรพบุรุษและเฝ้ารอคอยอย่างอดทนถึงโอกาสที่จะได้ยึดครองสวรรค์ ด้วยความรู้สึกผิดและความอับอายข้างใน เขารวบรวมสมัครพรรคพวกอย่างเงียบๆ เพื่อซ่องสุมขุมกำลังของตัวเอง เขาวางแผนที่จะรอให้ก้อนหินวิเศษที่เจ้าแม่หนี่วาทำร่วงลงมาเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์และขอความช่วยเหลือจากเขาในการบรรลุเป้าหมายในการยึดครองสวรรค์

  • เผ่าพันธุ์                 ปีศาจ
  • ที่พำนัก                   ภูเขาไฟ
  • พลังวิเศษ               สามารถเปลี่ยนร่างเป็นควันดำที่ทำให้เหยื่อหายใจไม่ออก / เวทมนตร์ในการยกคนหรือสิ่งของ / สามารถเปลี่ยนร่างเป็นกระทิงยักษ์ได้
  • อาวุธ                      ขวานปีศาจ เป็นขวานเวทมนตร์ที่ได้พลังจากการดูดกลืนวิญญาณของปีศาจเข้าไป เมื่อทรงพลานุภาพจะช่วยเพิ่มพลังเวทย์ของปีศาจกระทิงให้เหนือกว่าเง็กเซียนฮ่องเต้

 

โจวเหวินฟะ รับบท เง็กเซียนฮ่องเต้

เซียนฮ่องเต้เป็นผู้ครองสวรรค์ โลกและนรก ด้วยความที่ฝ่าฟันการทดสอบที่เจ็บปวด 1,750 ครั้ง ที่ยาวนาน 19,600 ปีมาได้ เง็กเซียนฮ่องเต้จึงเป็นผู้ชาญฉลาดและมีพลังวิเศษมหาศาล อย่างไรก็ดี เง็กเซียนฮ่องเต้ก็ไม่ใช่ผู้หยั่งรู้หรือไร้เทียมทาน และการปกครองของพระองค์ก็มักถูกท้าทายจากปีศาจกระทิง ผู้ดำรงศักดิ์เป็นน้องเขยอยู่เสมอๆ หลังจากต่อต้านการโจมตีของกองทัพปีศาจที่มีปีศาจกระทิงเป็นผู้นำทัพ เง็กเซียนฮ่องเต้ก็เนรเทศปีศาจทุกตัวตนสู่ภูเขาเพลิงและห้ามไม่ให้พวกเขากลับสู่สวรรค์อีกมิเช่นนั้น จะถูกกำจัดจนสูญสิ้น

  • เผ่าพันธุ์                  เทพ
  • ที่พำนัก                   พระราชวังสวรรค์ สวรรค์
  • พลังวิเศษ               การหลบหนี/ การแปลงร่างกลายเป็นมังกรทอง/ ลมหายใจแห่งชีวิตของเง็กเซียนฮ่องเต้สามารถชุบชีวิตคนได้/ มีพลังวิเศษอื่นๆ อีกมากมาย
  • อาวุธ                      เง็กเซียนฮ่องเต้มีมังกรเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งมังกรตัวนี้สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายและจะแปลงกายเป็นดาบทรงพลังที่เง็กเซียนฮ่องเต้จะใช้ในยามสงคราม

 

เซียซีถง รับบท ไป๋หรูเสวี่ยจิ้งจอกเก้าหาง  

ครอบครัวของหรูเสวี่ย สืบเชื้อสายมาจากจิ้งจอกสาว หนี่เจียว กับพระเจ้าต้าอวี่ พวกเขาได้รับการศึกษาและมีความรอบรู้มานานหลายชั่วอายุคน หรูเสวี่ยและครอบครัวใช้ชีวิตอย่างสันโดษในภูเขาถูเพื่อเรียนรู้วิชา โดยไม่ใส่ใจกับเรื่องทางโลก เผ่าพันธุ์จิ้งจอกใช้เวลาเป็นร้อยปีในการเรียนรู้การได้หางหนึ่งหาง หลังจากเรียนวิชามากว่าพันปี หรูเสวี่ยก็ได้พลังวิเศษจากหางทั้งเก้าของเธอ ระหว่างสงครามเทพและปีศาจ ในตอนที่ทหารสวรรค์ลงมายังโลกเพื่อกำจัดปีศาจที่เหลือ พ่อแม่ของหรูเสวี่ยถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดโดยขุนพลสวรรค์หลี่จิ้ง นับตั้งแต่นั้นมา หรูเสวี่ยก็เกลียดชังสวรรค์ และสาบานจะล้างแค้นให้กับพ่อแม่ของเธอ เธอเดินทางไปไกลถึงภูเขาเพลิงเพื่อติดตามปีศาจกระทิงและรอคอยโอกาสที่จะได้ล้างแค้น เธอไม่ได้เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในการต่อสู้ระหว่างเทพและปีศาจ เธอเพียงแค่อยากจะล้างแค้นและหลังจากนั้น ก็กลับไปใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบ ห่างไกลจากโลกภายนอก ภูเขาหิมะ ทางตะวันตก ซึ่งเป็นที่อยู่ของบรรพบุรุษเธอแต่โบราณกาล

  • เผ่าพันธุ์                 ปีศาจจิ้งจอก
  • ที่พำนัก                   โลกมนุษย์
  • พลังวิเศษ               สามารถเปลี่ยนร่างจากจิ้งจอกเป็นมนุษย์ได้ แม้ว่าขณะอยู่ในร่างมนุษย์ เธอจะยังมีหูและหางจิ้งจอกอยู่

 

 เหอยุ่นตง รับบท เทพเอ้อหลาง 

นักรบอันดับหนึ่งของสวรรค์ เทพเอ้อหลาง มีทวนสามแฉกและกระจกวิเศษเป็นอาวุธ เขามีดวงตาที่สามตรงกลางหน้าผากและมีเห่าฟ้า สุนัขคู่ใจอยู่เคียงข้าง เทพเอ้อหลางมีชื่อเสียงจากทักษะยุทธ์ชั้นเยี่ยมของเขา และเขาก็จริงจังกับหน้าที่ในการปกป้องสวรรค์ของตัวเองอย่างมาก และไม่ยอมให้ใครมาล่วงละเมิดกฎระเบียบของสวรรค์ได้ เขาจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด ที่รุนแรงและไร้ปรานี ในการแก้ไขปัญหา เขาต่อต้านปีศาจร้ายและสนับสนุนการทำสงครามอย่างเต็มตัวเพื่อปกป้องสวรรค์

  • เผ่าพันธุ์                  เทพ
  • ที่พำนัก                   สวรรค์
  • พลังวิเศษ               ดวงตาที่สาม – ดวงตาที่สามของเทพเอ้อหลางทำให้เขา “เห็นสิ่งที่มองไม่เห็น”เขาสามารถมองเห็นเหตุการณ์ทั้งอดีต และปัจจุบัน และสามารถมองทะลุภาพลวงตาได้
  • การแปลงกาย       เทพเอ้อหลางสามารถแปลงกายเป็นวัตถุและสิ่งมีชีวิตต่างๆ ได้ รวมถึงมนุษย์
  • อาวุธ                      ทวนวิเศษที่เทพเอ้อหลางสามารถเนรมิตได้ดังใจนึก

โจเฉิน รับบท องค์หญิงพัดเหล็ก

ชายาของปีศาจกระทิงและน้องสาวของเง็กเซียนฮ่องเต้ องค์หญิงพัดเหล็กจึงอยู่ตรงกลางความขัดแย้งระหว่างเทพและปีศาจเรื่อยมาเธอหวังว่าบุตรในครรภ์ที่เป็นครึ่งเทพ ครึ่งปีศาจของเธอจะช่วยนำสันติภาพมาสู่โลกได้

  • เผ่าพันธุ์                  เทพ
  • ที่พำนัก                   ภูเขาไฟ
  • พลังวิเศษ               สามารถแปลงร่างเป็นพัดอันใหญ่ได้/การหลบหนี
  • อาวุธ                      พัดวิเศษ

ไห่อี้เทียน รับบท สุโพธิเถระ

สุโพธิเถระมีพลังพิเศษและได้ฝึกฝนแนวทางมรรคผลบนโลก เขาได้แผ่เมตตาต่อสัตว์โลกเป็นจำนวนมาก ด้วยความรักและความเมตตา เขาเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ไม่ว่าจะมนุษย์ ปีศาจหรือสัตว์ร้าย ก็สามารถกลับใจได้หากชะตากำหนดให้พวกเขาได้ค้นพบวิถีมรรคผล เมื่อหลายร้อยปีก่อน เขาได้เดินทางผ่านภูเขาฮัวกั่ว และพบกับลิงตัวหนึ่งจึงได้รับลิงตัวนั้นเป็นศิษย์และสอนวิชาแปลงกาย 72 ร่างและวิถีอมตะให้   เมื่อหงอคงสร้างความวุ่นวายบนสวรรค์ เขาก็ออกหน้าปกป้องหงอคงในฐานะอาจารย์  เขาขอความเมตตาแทนหงอคงและเกลี้ยกล่อมให้เง็กเซียนฮ่องเต้ยอมให้เขาไปบรรเทาความโกรธให้หงอคงที่ภูเขาฮัวกั่ว ที่ประตูสวรรค์ทิศใต้  เขาพยายามเกลี้ยกล่อมหงอคงให้กลับตัวกลับใจ แต่ความพยายามทั้งหมดของเขากลับไร้ค่าเมื่อหงอคงยังคงยืนกรานเช่นเดิม จนกระทั่งสวรรค์นองไปด้วยเลือดและโฉมหน้าที่แท้จริงของปีศาจกระทิงถูกเปิดเผย หงอคงถึงได้ตระหนักถึงความรักและความใส่ใจของสุโพธิเถระ อาจารย์ของเขา ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง

  • เผ่าพันธุ์              เทพ
  • ที่พำนัก              ถ้ำสามดาว
  • พลังวิเศษ           การแปลงกาย 72 ร่าง / พลังคลื่นเวทมนตร์ / ลมหายใจแห่งชีวิต / สามารถชุบชีวิตคนตายได้
  • อาวุธ                      ห่วงวิเศษที่สามารถขยายออกไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด เชือกเส้นนี้จะถูกทำลายก็ต่อเมื่อมันถูกเผาผลาญด้วยเพลิงเทพ เช่นเพลิงสมาธิที่ใช้ในเตาหลอมน้ำอมฤต

 

ฮัว หลิว รับบท เจ้าบาดาล 

เจ้าบาดาลปกครองทะเลตะวันออกจากวังมังกรใต้ทะเลลึก  เขามีพี่น้องอีกสามคน ที่พำนักอยู่ในทะเลทิศเหนือ ตะวันตกและใต้มีอาวุธโบราณมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกระบองทอง ที่ควบคุมกระแสน้ำและการขึ้นลงของน้ำทะเลได้ เมื่อหงอคงบุกวังบาดาล เจ้าบาดาล เสนอกระบองทอง โดยคาดไม่ถึงว่า หงอคงจะสามารถยกกระบองนี้ขึ้น เจ้าบาดาลจำใจยกกระบองทองให้หงอคงโดยปริยาย

  • ที่พำนัก                   วังใต้ทะเลลึก ในมหาสมุทรตะวันออก
  • พลังวิเศษ               สามารถบันดาลให้เกิดภาวะน้ำแล้ง พายุ และหายนะอื่นๆ สามารถแปลงร่างเป็นงูและปลาได้

 

 เฉิงคาซิง รับบท นาจา

บุตรคนที่สามของหลี่จิ้ง โลกบาลผู้ถือเจดีย์ เป็นหนึ่งในขุนพลสำคัญภายใต้บัญชาเง็กเซียนฮ่องเต้ นาจามีพลังวิเศษยิ่งใหญ่และมีวิชาสามเศียรหกกร เขาขี่กงล้อเพลิงและในมือถือหอกเพลิงและห่วงทองเป็นอาวุธ โดยมีไท่อี้เจินเหยิน นักบวชเต๋า เป็นอาจารย์    นาจาเป็นคนทะนงตนและไม่สนใจใคร มีนิสัยชอบเอาชนะและมีความดื้อรั้น  นาจาแปลกใจอย่างมากเมื่อเขาพ่ายแพ้ต่อหงอคง ลิงที่ไม่มีความสลักสำคัญบนภูเขาฮัวกั่ว ในฐานะขุนพลสวรรค์ เขารู้สึกอับอายอย่างยิ่ง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ตื่นเต้นที่ได้พบคู่ปรับที่มีฝีมือเก่งกาจ ภายหลัง เมื่อพวกเขาได้พบกันอีกครั้งบนสวรรค์ เขาก็ค้นพบว่าหงอคงเป็นเหมือนเขามากๆ ตรงที่เป็นคนหยิ่งทะนง ชอบแข่งขัน ดื้อรั้น และรักอิสรภาพ ผลก็คือพวกเขาได้กลายเป็นเพื่อนกันและนาจาก็มีทั้งความเคารพและความชื่นชมต่อหงอคง

ประวัตินักแสดง

  • ดอนนี่ เยน 

ดอนนี่ เยน นักแสดง, ออกแบบคิวบู๊ และ ผู้กำกับ เขาเข้าสู่โลกภาพยนตร์ครั้งแรกเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง งานของเขาได้ไปโดนตาของผู้กำกับ หยวนหวูปิง และได้แสดงบทนำในครั้งแรกจากเรื่อง Drunken Tai Chi (1984) และมีผลงานตามออกมาเรื่อยๆและชื่อเสียงของเขาได้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลกจากเรื่อง Once Upon a Time in China II (หวงเฟยหง 2) ในปี 1992 เขาแสดงเป็นตัวร้ายประกบคู่กับ เจ็ต ลี (หลี่เหลียนเจี๋ย) แจ้งเกิดในฐานะนักแสดงแอ็คชั่นเต็มตัวจากภาพยนตร์เรื่อง Iron Monkey (มังกรเหล็กตัน) ในปี 1993 โดยเรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากมายและเรื่องนี้ได้ไปฉายในอเมริกาอีกด้วย และ ดอนนี่ เยน ก็มีผลงานออกฉายอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ Dragon Inn (คัมภีร์แดนพยัคฆ์) ปี 1992, Butterfly and Sword (กระบี่ผีเสื้อ บารมีสะท้านภพ) ปี 1993 ประกบกับนักแสดงมากมายรวมทั้ง เหลียงเฉาเหว่ย และ มิเชล โหยว  และมีงานแสดงมาเรื่อยๆทั้งหนังของ จางอี้โหมว เรื่อง Hero (ฮีโร่) Ip Man (ยิปมัน จ้าวกังฟูสู้ยิปตา) ปี 2008, Ip Man2 (ยิปมัน อาจารย์ บรู๊ซ ลี) ปี 2010, 14 Blades (6 ดาบสังหาร 8 ดาบทรมาน) ปี 2010, Wu Xia (นักฆ่าเทวดาแขนเดียว) ปี 2011, The Lost Bladesman (สามก๊ก เทพเจ้ากวนอู) ปี 2011
เขาเริ่มขยับมากำกับภาพยนตร์ Legend of the Wolf (1997) คือผลงานการกำกับเรื่องแรกของเขา ทั้งเขียนบท, อำนวยการสร้าง รวมทั้งแสดงด้วย และได้รับคำชื่นชมและรางวัลอย่างมากมาย หลังจากนั้นก็มีตามมาอีกหลายเรื่อง Ballistic Kiss (1998), Shanghai Affairs (1998) และ Protégé de la Rose Noire (2004)

 

  • โจวเหวินฟะ 

โจวเหวินฟะ เป็นนักแสดงที่โด่งดังจากหนังชุด “เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้” ทำให้ผู้คนรู้จักเขาอย่างมากมายและมีผลงานทางทีวีอีกหลายเรื่อง ก่อนที่จะขยับเข้าสู่วงการภาพยนตร์เต็มตัว โดยในปี 1986 ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง A Better Tomorrow (โหด เลว ดี) ของผู้กำกับ จอห์น วู จนประสบความสำเร็จและทำเงินสูงสุดในแถบเอเชีย ทำให้ทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ผลงานร่วมกันของ โจวเหวินฟะ และ จอห์น วู ต่างประสบความสำเร็จอีกหลายเรื่องต่อมาทั้ง The Killer (โหดตัดโหด) ปี 1989 หรือแม้แต่หนังภาคต่อ A Better Tomorrow II (โหด เลว ดี 2) และ A Better Tomorrow III: Love and Death in Saigon (โหด เลว ดี 3) หรือ Hard-Boiled (ทะลักจุดแตก) ปี 1992 โจวเหวินฟะ ถูกติดภาพลักษณ์ของหนังแอ็คชั่นพร้อมมีผลงานแนวนี้ออกมาอย่างสม่ำเสมอ ภาพยนตร์แนวโรแมนติกหรือดราม่า เขาเองก็ต่างทำได้ดีเช่นกันจนโด่งดังไปทั่วเอเชียอีกหลายเรื่อง  All About Ah-Long (อาหลาง) และ An Autumn’s Tale (ดอกไม้กับนายกระจอก) ปี 1987 หลังจากนั้น โจวเหวินฟะ เริ่มโกอินเตอร์ด้วยการแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด The Replacement Killers (นักฆ่ากระสุนโลกันต์) ผลงานกำกับของ อังตวน ฟูควา, The Corruptor (คอรับเตอร์ คนคอรัปชั่น) หรือหนังคุณภาพระดับออสการ์อย่าง Crouching Tiger, Hidden Dragon (พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก) โดย อั้งลี่ และ Curse of the Golden Flower (ศึกโค่นบัลลังก์วังทอง) ผลงานล่าสุดที่ผ่านไปของเขาคือ The Last Tycoon (เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ คนสุดท้าย)

 

  • กัวฟู่เฉิง 

นักร้อง และ นักแสดงของฮ่องกงจากสังกัด ทีวีบี ที่โด่งดังจนได้รับฉายา 4 จตุรเทพ โดยมีนักแสดงรุ่นพี่อีก 3 คน (หลิวเต๋อหัว, หลีหมิง และ จางเซี๊ยะโหย่ว) มีผลงานทั้งการเป็นนักร้อง เล่นละครโทรทัศน์ งานโฆษณา และโด่งดังโดดเด่นสุดกับภาพยนตร์จีนกำลังภายใน The Storm Riders (ฟงหวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า) ในปี ค.ศ. 1998 แสดงคู่กับ เจิ้นอี้เจี้ยน เขาร้องเพลงและรับแสดงภาพยนตร์ควบคู่กันไป ผลงานล่าสุดที่เข้าฉายในไทย Cold War (2 คมล่าถล่มเมือง) 

 

  • ฟานซิ่วหว่อง 

ฟานซิ่วหว่อง เข้าสู่แวดวงบันเทิงในกลางทศวรรษที่ 80 ส่วนใหญ่รับบทเป็นนักแสดงประกอบในภาพยนตร์หลายเรื่อง จนได้รับบทเด่นในภาพยนตร์เรื่อง Ip Man (ยิปมัน จ้าวกังฟูสู้ยิปตา) ในปี ค.ศ. 2008 และ Ip Man 2 (ยิปมัน อาจารย์ บรู๊ซ ลี) ในปี ค.ศ. 2009 จากนั้นได้รับบท ยิปเทียนซือ ศิษย์พี่ของยิปมัน ใน The Legend is Born – Ip Man ภาพยนตร์ชีวประวัติของยิปมันอีกเรื่อง ผลงานล่าสุดที่ประกบกับ เจ๊ต ลี ใน Flying Swords of Dragon Gate (พยัคฆ์ตะลุยพยัคฆ์) ปี 2011

  • เฉินฮุ่ยหลิน

เฉินฮุ่ยหลิน  ดารานักร้องนักแสดงสาวชาวฮ่องกง  เริ่มเข้าสู่วงการได้ไม่นาน เธอสามารถคว้ารางวัลนักร้องดาวรุ่งมาได้สำเร็จ แถมยังได้รางวัลนักร้องหญิงยอดนิยม ในงานแจกรางวัลแผ่นเสียงทองคำติดต่อกัน 2 ปีซ้อนในปี 1999   และ ปี 2000 นอกจากนี้ยังคว้ารางวัลนักร้องหญิงฮ่องกงที่ได้รับการตอบรับดีทั่วเอเชีย 6 ปีซ้อน รวมทั้งรางวัลอื่นอีกมากมาย ผลงานการแสดงของเธอที่โดดเด่นจาก Infernal Affairs (2 คน 2 คม) และ Infernal Affairs: End Inferno 3 (ปิดตำนาน 2 คน 2 คม) ผลงานล่าสุดที่ได้เข้าฉายในไทย  An Empress and the Warriors (จอมใจบังลังก์เลือด) ปี 2008

 

  • เหลียงหย่งฉี 

เหลียงหย่งฉี เริ่มเข้าวงการตั้งแต่อายุได้ 18 ปี จากการเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา หลังจากนั้นโดนตาผู้กำกับจับเธอมาเล่นประกบกับ หลิวเติอหัว ในภาพยนตร์เรื่อง Full Throttle (ยึดถนนเก็บใจไว้ให้เธอ) ปี 1996 ตามด้วยผลงานภาพยนตร์อีกมากมาย True Mob Story (ให้รักนี้ตายไปกับเขา) และภาพยนตร์รักโรแมนติกที่โดนใจผู้ชมที่เป็นวัยรุ่นอย่างมากมายเรื่อง Turn Left, Turn Right (ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา) นอกจากนี้แล้วเธอยังมีผลงานเพลงถึง 4 อัลบั้มให้แฟนๆได้ฟังกัน

 

  • เหอยุ่นตง 

เหอยุ่นตง นักแสดงและนักร้องชาวไต้หวันที่มีชื่อเสียง เข้าสู่แวดวงบันเทิงจากการเป็นนายแบบ และเริ่มการแสดงครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง The Lovers (ม่านประเพณี รักเรานี้ชั่วนิรันดร์) ในปี 1994 ผลงานกำกับของ ฉีเคอะ แสดงร่วมกับ อู๋ฉี่หลง และ หยางไฉ่หนี ตามด้วยภาพยนตร์แอ็คชั่นประกบ เจิ้นอี้เจี้ยน ใน Born to be King (เกิดมาเป็นเจ้าพ่อ) เขายังมีผลงานทางทีวีชุด Wind and Cloud และ Wind and Cloud 2 (ฟงหวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า ทั้ง 2 ภาค)

 

  • เฉินเฉี่ยวเอิน 

เฉินเฉี่ยวเอิน นักแสดงสาวที่มากความสามารถอีกคน ที่เป็นทั้งนักร้อง พิธีกร มีผลงานทางทีวีอยู่หลายเรื่อง และผลงานล่าสุดที่สร้างชื่อเสียงให้กับเธอคือ กระบี่เย้ยยุทธจักร 2013 ผลงานทางทีวี ที่ได้รับความนิยมในบทบาทของ ตงฟางปุ๊ป้าย

ประวัติผู้กำกับ

เจิ้งโปส่อย (Cheang Pou-Soi) 

ประวัติการทำงานเป็นทั้งนักแสดง ผู้เขียนบท และ ผู้กำกับ มีผลงานกำกับภาพยนตร์หลายเรื่องที่ได้รับการยกย่องและชื่นชมจากเรื่อง Dog Bite Dog (หมากัดหมา) ปี 2006 ที่ได้ เฉินกวนซี และ แซม ลี และ เรื่องล่าสุด Motorway 2 (สิงห์ซิ่งเดือด)

ผลงานการกำกับที่ผ่านมา